“มันปฏิเสธไม่ได้ว่าการท่องเที่ยวย่อมส่งผลกระทบต่อสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าตัวใหญ่ หรือตัวเล็ก แต่ต่างจากเมื่อก่อน ที่ทุกคนทำการท่องเที่ยวโดยไม่ได้อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ หรือข้อบังคับ มันต้องรู้ว่าการเคลื่อนที่ของเรือต้องทำยังไง จะเข้าไปยังไงไม่ให้เขาได้รับผลกระทบมากที่สุด
อดีตเราใช้เรือชาวบ้านไปดูโดยไม่รู้ว่าต้องเข้ายังไง แต่ตอนนี้กรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และผู้ประกอบการเองก็พยายามสร้างข้อแนะนำต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งมันยังอยู่ในขั้นตอนการเริ่มเท่านั้น แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานคงถูกยกระดับเป็นกฎหมาย เพราะผมเชื่อว่าที่อ่าวไทยตอนบน เป็นจุดที่ดูวาฬบรูด้าที่ดีที่สุดในโลก“
แล้วท้ายที่สุดวาฬเหล่านี้ให้อะไรกับคุณ ในฐานะนักนิยมธรรมชาติ และสตาร์ดอัพท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างคุณ
“ใครคือครูของผม ก็คงเป็นพ่อแม่อาจารย์ ช่างภาพรุ่นพี่ทั้งหมด แต่ผมก็พูดได้เต็มปากเลยว่า วาฬบรูด้าก็คือครูอีกคน(ตัว)ของผม เขาให้ทุกอย่างกับผม ทั้งชีวิต ครอบครัว ทุกสิ่งทุกอย่าง
เขาสอนสัจธรรมในการใช้ชีวิต ไม่ปฏิเสธเลยที่จะบอกว่าวาฬสร้างรายได้ และผมกล้าพูดเลยว่าผมหากินกับสัตว์ ฉะนั้นสิ่งที่ผมจะตอบแทนเขาได้คือการปกป้องเขา และดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะเขาให้ชีวิตผม“
ใจความตอนหนึ่งที่ จิรายุ เอกกุล ผู้ก่อตั้งบริษัทนำเที่ยวเชิงอนุรักษ์ Wild Encounter Thailand กล่าวไว้ในรายการ Seub inspire เรื่องราวบันดาลใจในงานอนุรักษ์จากคนทำงานตัวจริง เพื่อ Inspire ความคิดให้กับสังคม