พลังแห่งความฝันและคิดบวก สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เปลี่ยนแปลงโลกได้ หนังของดิสนี่ย์พยายามบอกให้เราเชื่อตั้งแต่การสร้างหนังในดินแดนเทพนิยายที่มีสโนไวท์ เจ้าหญิงนิทรา นางฟ้า เรื่องเหล่านี้เป็นตัวแทนความงาม ความฝัน ความรักที่ปราสาทแห่งนั้น จนกระทั่งมี จักรยนต์กลไกสารพัดอยู่ในปราสาทที่เปลี่ยนรูปไปเป็น Tomorrowland
ในขณะเดียวกันคนทำหนังก็พยายามบอกให้คนอย่าละทิ้งความฝันและการคิดบวก โดยเล่าผ่านหุ่นยนต์เด็กหญิงที่ยังคงเป็นตัวแทนของความหมายเดิม และเธอยังเป็นตัวแทนของความเป็น ‘เด็ก’ ตลอดกาลในความหมายของการดำรงความเชื่อมั่นและความฝันที่ยิ่งใหญ่
สัญลักษณ์แรงๆ เรื่องการยอมแพ้ของนาซาในการส่งจรวด ยานอวกาศ เป็นวิธีคิดที่แรงพอดู อาจจะโปรอเมริกามากหน่อย แต่คน รุ่นผมล้วนมีประวัติศาสตร์ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในยุคนั้น
เห็นคุณแฟรงก์ วอล์คเกอร์ แล้วก็นึกถึงบรรยากาศในช่วงเด็กๆ ที่โลกแห่งจินตนาการไปได้ไกลแค่นั้น (แต่การเอาหอไอเฟล มาเป็นฐานส่งจรวดที่นักวิทยาศาสตร์รุ่นคลาสสิค 4 คน แอบสมคบคิดกันนั้นมันเป็นบ้าเลย สำหรับตัวแทนไอดอลแห่งยุควิทยาศาสตร์รุ่นโน้น)
เคซี่ย์ นิวตัน เติบโตมาในอีกครึ่งศตวรรษ พยายามหยุดการทำลายรากฐานของความฝันในเจเนอเรชั่นของพ่อเธอด้วยความเชื่อมั่น ศรัทธาในความฝัน และแรงบันดาลใจ
พ่อของเคซี่ย์ นิวตัน และแฟรงก์ วอลคเกอร์ คือตัวแทนของคนที่เคยฝัน จินตนาการ และไม่ได้ใช้มันในชีวิตปัจจุบัน แต่อย่างไรมันก็เกิดขึ้นแล้วในชีวิตและยังอยู่รอที่จะให้ชีวิตได้ใช้อีกครั้ง
บังเอิญว่าแฟรงก์ วอลคเกอร์ คนพ่อ และ ‘ผม’ เกิดในเจเนอ–เรชั่นเดียวกัน
เชื่อว่า วันหนึ่งผมจะพบกับคนอย่างเคซี่ย์
หรือรับฟังผ่าน soundcloud
ผู้เขียน
ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร (18 กันยายน 2558 - 2566)
