แผนยุทธศาสตร์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร พ.ศ. 2559-2562

แผนยุทธศาสตร์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร พ.ศ. 2559-2562

หลักการ

ให้ความสำคัญกับการปกป้องป่าผืนใหญ่และแหล่งธรรมชาติซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพเป็นอันดับแรก รองลงมาให้ความสำคัญกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นชนิดพันธุ์ที่สำคัญและถูกคุกคาม ในการทำงานที่ต้องตัดสินใจให้อยู่บนพื้นฐานทางวิชาการที่รอบด้าน หรือหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต้องมีวิธีแก้ไขผลกระทบที่สามารถปฏิบัติได้จริง และเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตามสมควรคงระบบนิเวศตามธรรมชาติที่มีอยู่ทั้งกระบวนการ และให้ดำเนินการบูรณะถิ่นที่อยู่อาศัย และความหลากหลายทางชีวภาพเมื่อมีความจำเป็นและเป็นไปได้

 

ปรัชญา

ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายรวมถึงเพิ่มพูนความเข้าใจในการอนุรักษ์ให้พวกเขาเหล่านั้นด้วย ขณะเดียวกันในการตัดสินใจต้องมีพื้นฐานของการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ขณะที่อีกด้านหนึ่งต้องเคารพสิทธิชุมชนที่จะดำเนินชีวิตตามวัฒนธรรม โดยสอดคล้องกับการสงวนความหลากหลายทางชีวภาพ ความสมดุล ยั่งยืน มูลนิธิต้องทำหน้าที่โดยไม่หวั่นเกรงต่อปัญหาใดๆ เพราะหน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่ทางศีลธรรมของมนุษย์ในการปกป้องคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและพิทักษ์สิทธิของสัตว์ป่าที่จะดำรงชีวิตตามวิถีธรรมชาติ

 

วิสัยทัศน์

ร่วมรักษาป่าใหญ่ให้คนไทยทั้งชาติโดยมุ่งถ่ายทอดสถานการณ์ความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติให้สังคมและผู้มีอำนาจตัดสินใจรับรู้ ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ผืนป่า สัตว์ป่า และแหล่งธรรมชาติของประเทศ โดยมีผืนป่าตะวันตกเป็นพื้นที่ต้นแบบ นำไปสู่การบริหารจัดการผืนป่าอนุรักษ์อื่นๆ

 

พันธกิจ

1. เป็นองค์กรที่สร้างและทำงานร่วมกับเครือข่ายในการอนุรักษ์ เพื่อเฝ้าระวังกฎหมาย นโยบาย โครงการ ที่ส่งผกระทบต่อระบบนิเวศของผืนป่า และสนับสนุนการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก

2. เป็นองค์กรแห่งการสื่อสารสาธารณะ ที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านผืนป่า สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานอนุรักษ์ และการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ

3. สร้างกลไกการมีส่วนร่วมและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในผืนป่าตะวันตก 20 ล้านไร่ รวมถึงการลดผลกระทบจากชุมชนที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศในผืนป่าตะวันตก

4. หนุนเสริมให้ชุมชนในผืนป่าตะวันตกมีวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ที่สมดุลกับธรรมชาติในผืนป่าตะวันตกทั้งพื้นที่คุ้มครองและป่าสงวนแห่งชาติ โดยการสนับสนุนอาชีพที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ

5. ส่งเสริมประสิทธิภาพ และสวัสดิการผู้พิทักษ์ป่า

6. พัฒนาองค์กรให้มีรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์ โดยการระดมทุนจากสาธารณะชนที่สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิสืบฯ และการจัดทำสินค้าที่ระลึกเพื่อนำรายได้มาลดภาระค่าบริหารจัดการองค์กร

7. เป็นองค์กรที่มีความมั่นคง โปร่งใส น่าเชื่อถือ และมีบุคคลากรที่ทำงานอนุรักษ์ที่มีประสิทธิภาพ

 

ยุทธศาสตร์

แผนงานยุทธศาสตร์ที่ 1 วิชาการและงานเฝ้าระวังสถานการณ์ผืนป่าและสัตว์ป่า : คงความเป็นองค์กรที่เข้มแข็งด้านการเฝ้าระวังกฎหมาย นโยบาย โครงการที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ โดยการสื่อสารต่อสาธารณะผ่านเครือข่ายสื่อมวลชน Social Media รวมถึงการทำงานร่วมกับเครือข่ายอนุรักษ์ และสร้างเครือข่ายในงานรณรงค์ โดยการนำเสนอข้อมูล และแสดงเจตนาคัดค้านต่อสู้ผู้มีอำนาจตัดสินใจ โดยเป็นบทบาทระดับประเทศ แต่มุ่งเน้นที่ผืนป่าตะวันตกเป็นลำดับแรก

แผนงานยุทธศาสตร์ที่ 2 เป็นองค์กรสื่อสารอนุรักษ์ระบบนิเวศผืนป่า : ใช้ศักยภาพของระบบ Social Network ภาพลักษณ์และผลงานที่ผ่านมาขององค์กรเป็นสื่อในการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร แนวคิดการอนุรักษ์ผืนป่าสู่สาธารณะ และใช้กิจกรรมวันที่ 1 กันยายน เป็นช่วงเวลาหลักในการดำเนินการ รวมทั้งพัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์ ให้เป็นมาตรฐานและเพียงพอต่อการทำงาน

แผนงานยุทธศาสตร์ที่ 3 จัดการป่าตะวันตก 20 ล้านไร่ : เป็นองค์กรที่สามารถให้ข้อมูลหรือรวบรวมข้อมูลแผนการจัดการผืนป่าตะวันตก ควบคู่ไปกับการทำงานเชิงปฏิบัติการ และการจัดทำข้อมูล โดยการพัฒนาระบบงานลาดตระเวน มีแผนการทำงานร่วมกับกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผลิตเอกสารวิชาการ ผลักดันให้เอกสารข้อมูลการจัดการผืนป่าตะวันตกเข้าไปใช้ในการจัดทำแผนของหน่วยงานผู้รับผิดชอบ รวมถึงเอกสารการจัดการผืนป่าตะวันตก สามารถเป็นเอกสารประกอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ ในการจัดทำแผนการจัดการกลุ่มป่ามรดกโลก เพื่อเสนอป่าตะวันตกเป็นมรดกโลกทั้งผืนป่าต่อไปในอนาคต

แผนงานยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในผืนป่าตะวันตก : เป็นยุทธศาสตร์งานในส่วนการจัดการพื้นที่ใช้ประโยชน์ของชุมชนทั้งในพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่รอบๆ ป่าอนุรักษ์ โดยมีการพัฒนาอาชีพและผลผลิตของชุมชนในแนวทาง ที่เรียกว่าวิถีชีวิตเป็นมิตรกับผืนป่า มีการพัฒนาและส่งเสริมในเรื่องวิสาหกิจผ้าทอพื้นเมืองเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี ลดค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้ให้ชุมชน พัฒนาอาชีพการปลูกกาแฟเพื่อวัตถุประสงค์ในการทดแทนการทำเกษตรเคมีและนำไปสู่การผลิตกาแฟในระบบอินทรีย์ การพัฒนาวิสาหกิจสมุนไพรในป่าตะวันตกเพื่อลดปัญหาการผลิตพืชเคมีเชิงเดี่ยวและปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินชุมชนในผืนป่าตะวันตก พัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ที่มาจากกลุ่มศูนย์เรียนรู้และบ้านเรียนรู้ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เพื่อต่อยอดการพัฒนาศูนย์และบ้านเรียนรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากป่าชุมชนเพื่อการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์และคุณค่าในการใช้ป่าชุมชนในเชิงการอนุรักษ์

แผนงานยุทธศาสตร์ที่ 5 เพื่อผู้พิทักษ์ป่า : ยังคงบทบาทช่วยเหลือในกรณีบาดเจ็บ เสียชีวิต ทุนการศึกษาบุตรเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ควบคู่ไปกับการเผยแพร่เรื่องราวเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้เป็นที่รู้จักของสาธารณะชนให้สังคมตระหนักถึงบทบาทภารกิจที่สำคัญของบุคคลที่ทำหน้าที่รักษาผืนป่าและสัตว์ป่า เพื่อให้เกิดกระแสและมีการขับเคลื่อนเชิงนโยบายให้เป็นภาระหน้าที่ที่กรมอุทยานฯ จะดูแลสวัสดิการ สวัสดิภาพ รวมถึงการเพิ่มทักษะความรู้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เหล่านี้อย่างจริงจัง จนนำไปสู่การยุติช่วยเหลือของมูลนิธิสืบฯ

แผนงานยุทธศาสตร์ที่ 6 พัฒนาระบบรายได้ เพื่อเป็นการสนับสนุนองค์กรอนุรักษ์อย่างยั่งยืน : พัฒนาการออกแบบและจำหน่ายสินค้าที่ทันสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านช่องทางการจำหน่ายที่แพร่หลายและสาธารณชนเข้าถึง อีกทั้งผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้คนเห็นคุณค่าของผืนป่าตะวันตก นำไปสู่การบริจาคผ่านช่องทางต่างๆ ของมูลนิธิฯ ควบคู่ไปกับกิจกรรมอนุรักษ์ที่ภาคประชาชนและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ตามความเหมาะสมโดยมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพในการบริหารงานระดมทุนมีช่องทางจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกมูลนิธิฯ ให้มียอดเพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ

แผนงานยุทธศาสตร์ที่ 7 To Professional Organization : บริหารงานโดยธรรมาภิบาล สร้างสมดุลของการจัดการ 4M (management, Man, Money, Material) พัฒนาตำแหน่งโครงสร้าง เพื่อให้รองรับกับการจัดกลุ่มงาน ให้บุคลากรมีความคล่องตัวในการกระจายไปในกลุ่มภารกิจต่างๆ อย่างยืดหยุ่นและคล่องตัว พัฒนาระบบตอบแทนและสวัดิการให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับค่าครองชีพและรักษาระบบสวัสดิการให้อยู่ในระดับมาตรฐาน พัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปสู่ความรับผิดชอบในการบริหารแผนงานกิจกรรมของมูลนิธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาการทำงานในองค์กรให้อยู่ในระดับมาตรฐานและมีความโปร่งใสในทุกมิติในรูปแบบขององค์กรที่พึ่งพาตนเองได้