ผนึกกำลังเสือไฟทั่วประเทศ เจ้าหน้าชุดปฎิบัติการเสือไฟจากภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมสู้ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ด้านรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯให้กำลังใจ พร้อมคุมสถานการณ์ไฟป่าด้วยตัวเอง
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ (รอง ออส.) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
โดยเบื้องต้นได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลดับไฟป่า (ชุดปฏิบัติการเสือไฟ) ณ ฐานที่พักบริเวณศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ ซึ่งชุดเสือไฟ ได้เดินทางมาจากภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 210 นาย มีฐานที่ตั้งและกระจายกำลังสนับสนุนภารกิจด้านไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ดังนี้
1. จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วยชุดเสือไฟของศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ พิษณุโลก อุทัยธานี นครศรีธรรมราช นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา และแพร่ รวมทั้งหมด 8 ชุด กำลังพล 120 นาย ที่ตั้งฐานศูนย์ฝึกอบรมไฟป่าภาคเหนือ
2. จังหวัดลำปาง ประกอบด้วยชุดเสือไฟของศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงราย และชุมพร รวมทั้งหมด 2 ชุด กำลังพล 30 นาย ที่ตั้งฐานสถานีควบคุมไฟป่าดอยพระบาท-ม่อนพระยาแช่
3. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วยชุดเสือไฟของศูนยปฏิบัติการกาญจนบุรี ขอนแก่น และอุบลราชธานี รวมทั้งหมด 3 ชุด กำลังพล 45 นาย ที่ตั้งฐานสถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน
4. จังหวัดตาก ประกอบด้วยชุดเสือไฟของศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าตาก กำลังพล 15 นาย ที่ตั้งฐานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ อุ้มผาง
หลังจากมีการประชุม หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันไฟป่า ผ่านการประชุม Video Conference ซึ่งมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการประชุม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามนโยบายของทส. อย่างเร่งด่วน ณ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่
ต่อมานายจงคล้าย รอง ออส. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่กำลังพล ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว และอุทยานแห่งชาติผาแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยมีนายประกาศิต ระวิวรรณ หน.ขสป.เชียงดาว นายศรัญญวิทย์ ทอดเสียง หน.อช.ผาแดง และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์ข้อมูลในพื้นที่ให้นายจงคล้าย รอง ออส.ได้รับทราบ
ทั้งนี้ได้มีการเน้นย้ำเรื่องการรายงานผลจุด Hotspot และการรายงานผลคดี การบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกันของหน่วยงานย่อยในพื้นที่ การนำเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเข้ามาร่วมลาดตระเวนเฝ้าระวัง และเนื่องจากในขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ปิดการท่องเที่ยวในป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศแล้ว ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่พบเห็นบุคคลเข้าไปในเขตพื้นที่ป่า ให้ดำเนินการแจ้งความตามข้อสั่งการของ รมว.ทส.ทันที ทั้งนี้ ให้แนบแผนที่แนวเขตควบคุมที่มีจุด Hotspot ที่ขึ้นอยู่ใกล้กับพื้นที่เกษตรของราษฎร ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบการแจ้งความด้วย พร้อมทั้งยกตัวอย่างกรณีการจับกุมบริเวณ อช.ดอยสุเทพ-ปุย ให้คณะเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 หน่วยงานได้ทราบด้วย