มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ร่วมกับคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัดกาญจนบุรีผลักดันแผนจัดการป่าชุมชน 50 ป่า

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ร่วมกับคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัดกาญจนบุรีผลักดันแผนจัดการป่าชุมชน 50 ป่า

วันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ศูนย์ป่าไม้จังหวัดกาญจบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ได้จัดการประชุมคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัดกาญจนบุรีขึ้น ณ ห้องประชุมแควน้อย ชั้น 3 ศาลาว่าการจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายสมหมาย บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในที่ประชุม และมีตัวแทนจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เข้าร่วมประชุมในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ

การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมคณะกรรมการป่าชุมชนครั้งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี ภายหลังจากมีประกาศใช้พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแผนการจัดการป่าชุมชนตามหลักวิธีปฏิบัติการทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการอนุรักษ์ ด้านการฟื้นฟู ด้านการพัฒนา ด้านการควบคุมดูแล และด้านการใช้ประโยชน์ และได้มีมติอนุมัติแผนการจัดการป่าชุมชน จำนวน 50 ป่า พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการป่าชุมชนอีกจำนวน 30 ป่า ใน 20 ตำบล 8 อำเภอ ของจังหวัดกาญจนบุรี

ปัจจุบันจังหวัดกาญจนบุรีมีป่าชุมชนจำนวน 144 ป่า ในพื้นที่ 13 อำเภอ มีจำนวนเนื้อที่ 134,140-0-69 ไร่ โดยจัดทำแผนการจัดการป่าชุมชนและได้รับการพิจารณาแล้ว จำนวน 50 ป่า ส่วนที่เหลือรอพิจารณาเพื่อผลักดันเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามเจานารมณ์ของพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ต่อไป

ป่าชุมชน คือ

ป่าชุมชน (Community Forest) เป็นวิถีปฏิบัติและเป็นการปรับตัวของการจัดการทรัพยากรภายในชุมชนในการช่วยลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคมของคนในชุมชน จากการถูกแย่งชิงทรัพยากรเพื่อการพัฒนาประเทศ และเป็นแนวทางหนึ่งในการรักษาพื้นที่ป่าและความสมบูรณ์ของนิเวศป่าไม้ เพื่อให้ระบบนิเวศคงความสมดุลย์ เนื่องจากป่าชุมชนเป็นกลไกที่สำคัญที่เป็นช่องทางให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ จัดการ ฟื้นฟูให้ป่ามีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้น และมีการใช้ทรัพยากรและผลผลิตจากป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความมั่นคงแห่งชีวิตของคนในชุมชน ดังนั้นเมื่อคนในชุมชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นจึงไม่ต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน และที่สำคัญยิ่งคือเพิ่มความสามารถให้กับมนุษยชาติ ได้เรียนรู้การอยู่อย่างสมดุลกับธรรมชาติและดำรงชีพอยู่ได้อย่างมีความสุข


เรื่อง ปราโมทย์ ศรีใย

อ้างอิง