1
หากมีกระดาษสีขาวหนึ่งแผ่น พร้อมกับโจทย์ให้เราวาดภาพอะไรก็ได้ลงไป คุณจะแต่งแต้มสิ่งใดลงในความว่างเปล่าตรงนั้น
ลายเส้นตัวการ์ตูนตามภาพจำที่เคยพบเห็น
ทิวทัศน์ทุ่งนาอันมีภูผาใหญ่ตั้งตะหง่านเป็นฉากหลัง กับเงาของนกกาที่กำลังบินกลับรัง และเศษส่วนของดวงตะวันค่อย ๆ ลอยลาลับหลังแนวเหลี่ยมเขา
หรืออาจเปลี่ยนโฟร์กราวนด์เป็นท้องทะเลสีฟ้าแต่ยังคงเฉดสีแดงฉานของอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบสมุทรไว้เช่นเดิม
แต่สำหรับ เม – สาธิดา ราหุละ เธอบอกว่าสิ่งที่เธอจะวาดคือต้นไม้เพราะต้นไม้หมายถึงอิสระ
นั่นคือภาพบันดาลใจต่อการสร้างสรรค์ผลงานของเจ้าหน้าที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ มูลนิธิสืบนาคะเสถียรคนนี้
2
ในวัยเยาว์ที่จินตนาการบานสะพรั่ง – ทรงจำนั้นเมมีดินสอและกระดาษเป็นเพื่อนคู่คิด
หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่ – เมื่อนั้นภาพตัวละครตัวใดตัวหนึ่งจากหนังสือการ์ตูนที่เคยอ่านจะกลับมาทักทายเธออีกครั้งด้วยเรื่องราวบทใหม่ที่มีเธอเป็นผู้กำกับ
บางครั้งอาจเป็นทิวทัศน์ที่จดจำระหว่างเดินทาง
หรืออาจเป็นจินตภาพที่ปล่อยให้หัวใจเป็นเข็มทิศ พาข้อมือตวัดลากเส้นขึ้นมาเอง
แต่สิ่งที่ เม วาดบ่อย คือ ต้นไม้ และสัตว์ป่า
เพราะทั้งสองอย่างเป็นสิ่งไร้กฏเกณฑ์ เป็นอิสระที่เคลื่อนไหวในธรรมชาติ อันไร้ข้อผูกมัดตายตัว ต่างจากโต๊ะ เก้าอี้ หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งมีแพลตเทิร์นบังคับให้มันต้องเป็นอย่างนั้น
ด้วยความรู้สึกชอบวาดภาพอันพบเจอตั้งแต่แรกจำความได้ เม เข้าศึกษาในด้านศิลปะ โดยหวังเรียนรู้ ฝึกปรือฝีมือ ให้มีทักษะเพิ่มมากขึ้น
ทว่า เรื่องราวกลับผิดเพี้ยนไปจากความหมายเดิม – ในบทเรียนที่เธอได้รับ ผลของมันกลับต่างออกไป
อิสระที่เคยพยุงความคิดและจินตนาการมลายหายไปกับข้อบังคับที่ระบุลงไปว่า คุณต้องวาดภาพด้วยรายละเอียดตามแบบฟอร์ม 1… 2… 3… 4… เพียงเท่านั้นไม่อนุญาตให้ปฏิบัติอื่นใดเหนือเกณฑ์ที่กำหนด
เธอสารภาพ – เมื่อมี กฏ ความรู้สึกอยากวาดรูปก็ลดน้อยลง จนบางนาทีอดไม่ได้จนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราชอบวาดภาพจริง ๆ หรือเปล่า (?)
3
ยามเมื่อความว้าวุ่นเดินมาสะกิดความรู้สึกภายใน เม บอกว่าไม่มียาใดรักษาได้ดีไปกว่าการออกไปสัมผัสธรรมชาติ
“แค่เราเข้าไปนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติก็ช่วยให้เราสงบขึ้น ใจเย็นขึ้น”
สำหรับ เม ใจที่ร้อนรนมันอาจหมายถึงความผิดพลาด
หากวันใดพบความตื้อตันระหว่างการทำงาน หาทางจบให้กับภาพที่วาดไม่ได้ วันนั้นเราอาจไม่พบเธออยู่ที่โต๊ะขีดเขียนส่วนตัว
เธอเชื่อว่าการเปลี่ยนอิริยาบทด้วยการออกไปเดินเล่นนอกห้องสี่เหลี่ยมสักพักหรือพาตัวเองไปพบกับความความเคลื่อนไหวอันสงบนิ่งของธรรมชาติจะช่วยให้สมองโปร่งโล่ง
ไม่นานเกินรอ ผลงานที่ค้างอยู่ก็ได้รับการสะสาง
ซึ่งมันได้ผลทุกครั้ง
เม ได้เคล็ด(ไม่)ลับนี้มาโดยไม่รู้ตัว และไม่อาจบอกได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่
บางทีอาจมาจากประสบการณ์ในชีวิตที่ค่อย ๆ บ่มเพาะจนกลายเป็นเรื่องปกติวิสัย
เป็นโชคดีที่ครอบครัวของเธอชอบเดินทาง และมักปักหมุดสถานที่ตั้งแค้มป์ในจุดที่มีธรรมชาติรายล้อมมากกว่าการพักในโรงแรมที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ตัดขาดคนเราออกจากความงดงามที่โลกสร้าง
รวมไปถึงกิจกรรมการออกค่ายในระหว่างเรียนชั้นมหาวิทยาลัยก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ทำให้เธอได้ซึมซับวิถีการอาบป่าไว้ในตัว
และผสานสิ่งนั้นไว้ในกายกับใจจนมาถึงปัจจุบัน
4
ในบทบาทของนักออกแบบผลิตภัณฑ์และเป็นผู้สร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร เม คิดว่าการวาดภาพเป็นการประชาสัมพันธ์อย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้สาธารณชนได้เข้าถึงงานที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรทำ
ภาพวาดจะช่วยสร้างจุดสนใจให้กับผู้คน กระตุกอารมณ์ให้ผู้พบเห็นอยากหยุดมอง
“ภาพวาดอาจให้ความรู้ผู้คนไม่ได้เหมือนข้อมูลทางวิชาการ แต่มันช่วยให้คนที่เห็นได้ฉุกคิด สงสัย แล้วออกไปหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติม ตรงนี้คือหน้าที่ของงานศิลปะ”
เธอตั้งความหวังไว้ว่าอยากช่วยองค์กร และช่วยโลกด้วยความสามารถที่มี อยากสื่อสารเรื่องราวสิ่งแวดล้อมออกไปให้ได้มากที่สุด
โดยเฉพาะกับภาพที่สื่อให้เห็นถึงความล่มสลายแห่งยุคสมัย
“ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าธรรมชาติมีความงดงาม แต่เราอาจไม่รู้ว่าทุกวันนี้มันเสื่อมโทรมอย่างไร เราอยากเล่ามุมเหล่านั้นให้ทุกคนได้เห็น ได้เข้าใจ”
5
ในวันทำงาน จันทร์ถึงศุกร์ เม ขับมอเตอร์ไซต์ จากเขตสายไหมข้ามจังหวัดมาเข้างานที่แครายทุกวัน รวมเวลาไปกลับไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง
ตามเวลาเข้างาน มูลนิธิสืบฯ เริ่มเปิดทำการเวลา 9.00 น. ถึง 17.00 น.
แต่ในความเป็นจริงเธอทำงานล่วงเวลาไปถึง 18.00 น. หรือ 19.00 น. อยู่เสมอ และเป็นการทำไปโดยไม่รู้ตัว
“เรารู้สึกว่าถ้ามีชีวิตอยู่เพื่อการทำงานที่เราชอบ เราจะไม่ได้จดจ่อกับเวลาเลย”
เธอสารภาพว่าไม่ได้วางแผนกับอนาคตที่ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ไกลแค่ไหน บางนาทีเธอคิดว่าอยากทำงานไปจนวันที่ผมสีดำเปลี่ยนเป็นสีดอกเลา แต่บางนาทีเธอก็ไม่แน่ใจว่าความสามารถที่มีจะยังเป็นที่ต้องการอีกหรือเปล่า – ในวันที่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาแทน และบอกเล่าเรื่องราวอีกแบบตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
แต่นั่นก็เป็นเพียงความกังวลที่ยังมาไม่ถึง
อาจใช่หรือไม่ใช่ก็ได้
แต่สำหรับเป้าหมายของปัจจุบัน เม ปักหมุดความคิดว่าอยากทำวันนี้ให้ดีที่สุด ด้วยสิ่งที่ตนปรารถนาที่จะทำ
“เราต้องทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำในวันนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ได้อีกยาวนานแค่ไหน ถ้ามัวทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบมันก็เปลืองเวลาชีวิต”
นั่นเป็นภาพที่เธอวาดสะท้อนออกมาจากเงาของตัวเอง
หรือก็คือภาพที่เธอกำลังสืบทอดเจตนา สืบ นาคะเสถียร
ผู้เขียน
ทำงานอิสระที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ การเขียน เรื่องสิ่งแวดล้อมและดนตรีนอกกระแส - เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตใช้ไปกับการนั่งมองความเคลื่อนไหวของใบไม้และสายลม