โครงการธรรมชาติปลอดภัย ร่วมกับ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มอบเสบียงอาหาร และข้าวสาร 200 ถุง เพื่อสนับสนุนภารกิจป้องกันและควบคุมไฟป่าของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการภารกิจป้องกันไฟป่าในพื้นที่ป่าห้วยขาแข้ง เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
กิจกรรมส่งมอบในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อสร้างขวัญและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง โดยเฉพาะหน่วยควบคุมไฟป่า ซึ่งเป็นด้านหน้าของงานดูแลงานด้านนี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่มีโอกาสพบเจอไฟมากกว่าช่วงไหนๆ
แม้ตามสถิติจะพบว่า เดือนมีนาคม 2568 สถานการณ์ไฟป่าไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากสภาพดินฟ้าอากาศที่มีฝนมากกว่าปีก่อน ตลอดจนการทำงานที่เข้มข้นขึ้น แต่ก็หาได้วางใจได้ไม่ – คนทำงานก็ยังคงออกมาทำหน้าที่ตามภารกิจต่อไปอย่างไม่ลดละ
ในภาคป่า เรื่องราวของคนทำงานไล่เรียงตั้งแต่งานป้องกันอย่างการทำแนวกันไฟ เก็บกวาดใบไม้ร่วงโรยที่อาจกลายเป็นเชื้อเพลิงในอนาคต ทำเสวียนใส่ใบไม้ ตามโครงการชิงเก็บลดเผา ตรวจวัดและบันทึกสภาพอากาศ วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศ
ไปจนถึงการทำงานเชิงรุก อาทิ การออกไปประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับชุมชนถึงเรื่องไฟป่า ข้อดี และข้อเสีย (เคาะประตูบ้าน) พบปะกับประชาชน การตั้งจุดสกัดเฝ้าระวังไฟป่า (จ้างงานประชาชนในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการปกปักษ์รักษาทรัพยากร) บูรณาการทำงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล หน่วยงานปกป้องส่วนท้องถิ่น เข้าระงับเหตุไฟป่าในทั้งภายในและรอบๆ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เดินทางด้วยรถบ้าง เรือบ้าง (ตอนใต้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า) และบางนาทีต้องเดินเท้า แบกอุปกรณ์ดับไฟและเสบียงอาหารออกไปยังจุดหมายทันทีเมื่อได้รับแจ้งเหตุ
เหล่านี้เป็นภารกิจคร่าวๆ ที่ปรากฏและมีรายงานออกมาให้ทราบ ไม่นับงานเบื้องหลังอีกนับไม่ถ้วนที่ต้องทำควบคู่กันไป ที่มีทั้งงานเบา งานหนัก และงานเสี่ยงภัย
จิรเดช บุญมาก ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ผู้รับมอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ไฟป่าในวันนั้น ได้กล่าวขอบคุณโครงการธรรมชาติปลอดภัย ที่ได้เข้ามาสนับสนุนงานในภารกิจป้องกันและควบคุมไฟป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งในครั้งนี้ พร้อมกล่าวต่อว่า
งานอนุรักษ์ในปัจจุบันจำเป็นต้องบูรณาการงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงภาคประชาชน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมามันถูกพิสูจน์แล้วว่าการทำงานเพียงส่วนเดียวไม่อาจประสบผลสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อให้งานดูแลรักษาทรัพยากรผืนป่า สัตว์ป่า ไม่เพียงแต่เรื่องของไฟป่า แต่ยังรวมถึงงานอนุรักษ์ในมิติอื่นๆ ก็จะประสบผลสำเร็จได้อย่างยิ่งยวดมากขึ้น
อุดม กลับสว่าง เจ้าหน้าที่โครงการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ผู้ทำงานฝังตัวอยู่กับชุมชนรอบผืนป่าห้วยขาแข้งและทำงานร่วมกับทีมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อธิบายว่า เสบียงอาหารอาจดูเหมือนเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต และการทำงาน หรืออย่างน้อยๆ ก็เป็นสิ่งที่บอกว่า ยังมีคนห่วงใยคอยเคียงข้างเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน และพร้อมจะสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
ครอบครัวห้วยขาแข้ง
หมายเหตุ พบเห็นไฟป่า โปรดแจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362
ผู้เขียน
ทำงานอิสระที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ การเขียน เรื่องสิ่งแวดล้อมและดนตรีนอกกระแส - เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตใช้ไปกับการนั่งมองความเคลื่อนไหวของใบไม้และสายลม