รำลึก 34 ปี สืบ นาคะเสถียร 1 กันยายน 2567

รำลึก 34 ปี สืบ นาคะเสถียร 1 กันยายน 2567

คืนแล้วคืนเล่าในคืนแล้งร้อนปี 2533 

สืบ นาคะเสถียร จุดเทียนเล่มแล้วเล่มเล่าเพื่อนั่งเขียนเอกสารวิชาการเสนอให้ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลก เอกสารวิชาการกองโตถูกเปิดอ่าน เพื่ออ้างอิงในงานสำคัญชิ้นสุดท้ายของชีวิต เพื่อเสนอให้โลกรับรู้คุณค่าแห่งผืนป่าที่โอบล้อมลำห้วยทับเสลา อันส่งเสียงรินไหลเป็นเพื่อนของเขาในยามสงัดดึก

เสียงพิมพ์ดีดกลางดึกเริ่มพิมพ์ว่า… “ป่าผืนสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่ของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ข้อมูลการสำรวจยังไม่สมบูรณ์ที่สุด”

สืบ ยังพิมพ์คำอธิบายต่อไปว่า “คำกล่าวเหล่านั้นก็ยังเป็นจริงอยู่ถึงทุกวันนี้ เพราะแม้จะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร แต่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ยังคงเป็นหนึ่งในพื้นที่ป่าที่มีคนเข้าถึงได้น้อยที่สุดและถูกรบกวนน้อยที่สุดของประเทศไทย…”

“ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ยังเชื่อมต่อกับแนวพื้นที่คุ้มครองที่สำคัญอื่นอีก… และยังเชื่อมต่อกับป่าผืนใหญ่ในประเทศพม่า… ปัจจุบันป่าตะวันตกยังนับได้ว่ามีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่คุ้มครองอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

“ภัยคุกคามพื้นที่ในขนะนั้น คือ การถูกสัมปทานเพื่อทำป่าไม้ โดยบริษัทค้าไม้ในประเทศไทย…” 

“ทั้งนี้สัตว์ชนิดต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในหุบเขา กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะเกือบทุกหุบเขาในประเทศไทย ถูกเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชน การทำธุรกิจค้าไม้ หรือการสร้างเขื่อน ซึ่งยังเหลือแต่จุดสำคัญคือพื้นที่หุบเขาของแม่น้ำแควใหญ่ตอนบน และหุบห้วยขาแข้ง”

“สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้งถือเป็นป่าผืนสุดท้ายของสัตว์กลุ่มนี้ในประเทศไทย และอาจจะเป็นพื้นที่อนุรักษ์เพียงแห่งเดียวในประเทศที่มีขนาดใหญ่พอที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่สุด สามารถที่จะดำรงชีวิตรอดในระยะยาว ณ ที่แห่งนี้”

“นอกจากนี้ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งอาศัยสำคัญของสัตว์ผู้ล่าขนาดใหญ่อย่างเช่นเสือโคร่ง ที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ถูกรบกวน…”

กลางฤดูฝนปี 2533

สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหนุ่มสะสางการงานประจำวัน สั่งลูกน้องวิทยุไปบอกยกเลิกนัดหมายที่จะไปบรรยายวิชาการที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกครั้งหลังจากเปลี่ยนใจจะไปเองอยู่รอบหนึ่ง ก่อนนั้นเขาเคยตั้งใจจะส่งม้วนวีดีโอไปเปิดแทน 

การยกเลิกนัดหมายครั้งนี้ เพราะเขาตัดสินใจแน่วแน่ที่จะอยู่ ‘ที่นี่’

หลังอาหารค่ำ

‘หม่อม’ ลูกน้องคนสนิทของหัวหน้าสืบ เดินออกมาส่งหัวหน้าสืบที่ซุ้มเฟื่องฟ้า ที่ทางเดินผ่านห้องพักของเขา ลงเนินเดินไปยังบ้านพักหัวหน้าเขต ที่ปลูกอยู่โดดโดดค่อนไปทางตลิ่งริมห้วยทับเสลา ที่ข้ามไปก็เป็นตีนเขาหินแดง ลำน้ำที่ไหลจากป่าผ่านหน้าบ้านพักหัวหน้าเขต ก่อนอ้อมวกไปทางหมู่บ้านด้านตะวันออก

หัวหน้าสืบใช้แววตาสดใส มีความสุข โบกมือลาหม่อมแล้วบอกว่า “พี่ไปนะหม่อม” 

หม่อมจำได้ว่าเป็นสีหน้าแววตาของคนที่ปลอดโปร่ง แววตามีความสุข ไร้ความกังวลใดๆ หม่อมจำสีหน้าและแววตานั้นได้ตลอดมา แม้ผ่านเวลานั้นมายี่สิบกว่าปี ก่อนที่ชายร่างสูงโปร่งคนนั้นจากก้าวเท้าหายไปทางบ้านพักในความมืด…

ก่อนรุ่งสางคืนนั้น มีเสียงปืนดังขึ้นเบาๆ ที่บ้านพักริมห้วยทับเสลาหลังโดดหลังนั้น – ไม่มีใครสนใจ – เพราะเมื่อสามสิบปีที่แล้ว เสียงปืนในราวป่าย่อมเป็นเสียงที่คุ้นเคยที่สุดของคนทำงานในป่า

ตอนเช้าหัวหน้าไม่ได้ขึ้นมาจากบ้านพักริมห้วยเหมือนเคย ไม่มีใครสงสัยเพราะคิดว่าคงทำงานจนดึก จนกระทั่งสิบเอ็ดโมง หม่อมเดินลงไปตาม เมื่อค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป พบภาพอีกภาพ ที่จะติดตาอยู่จนวันตาย

หัวหน้าสืบ นอนตะแคงเหมือนคนหลับ ที่ศีรษะมีรอยลูกปืนเป็นรูแดง เลือดซึมแห้ง หม่อมใช้มือต่อยเสาบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างบ้าคลั่ง

34 ปีผ่านไป

บนบันไดทั้งแปดขั้น ระหว่างบ้านพักหัวหน้าสืบกับรูปปั้น สืบ นาคะเสถียร เหมือนเจตนาของเขาจะถูกสืบสาน

ปัจจุบัน ยูเนสโก้มีมติรับรองให้ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง เป็นมรดกโลกตามเอกสารนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเอกสารของ สืบ นาคะเสถียร เป็นใช้ประกอบการเสนอพิจารณา

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้พิทักษ์ป่าได้รับการพัฒนาและฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการทำงานในการปกป้องผืนป่า รวมถึงการยกระดับสวัสดิภาพและสวัสดิการของพวกเขา การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถในการปกป้องป่า แต่ยังสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ทำงานในแนวหน้า

ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกชุมชนได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการรักษาความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์ ชุมชนเหล่านี้มีความเข้าใจและความเคารพในธรรมชาติ พร้อมทั้งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลและฟื้นฟูป่าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน วันนี้ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกชุมชนมีป่าชุมชนของหมู่บ้าน และร่วมเป็นเครือข่ายอนุรักษ์ป่าร่วมกับห้วยขาแข้ง

สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ยืนยันผลงานวิจัยว่าป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง มีประชากรเสือโคร่งมากขึ้น ทำให้เห็นว่าการทุ่มเทรักษาป่าที่ผ่านมาได้ผล หากมีเสือมากขึ้นสืบขยายพันธุ์แบบนี้ ก็หมายถึงเหยื่อของเสือ และพืชพรรณต่างๆ ก็สมบูรณ์ ตอนนี้ป่าแห่งนี้กลายเป็นความหวัง และตัวอย่างของการอนุรักษ์เสือโคร่งของโลกไปแล้ว รวมถึงการฟื้นฟูประชากรแร้งที่หายไปจากป่าห้วยแข้งนานนับ 30 ปี

การสื่อสารเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสังคม ได้แก่ การเพิ่มความตระหนักรู้ในสังคม การสร้างแรงบันดาลใจและความร่วมมือ การเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย การใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย และการเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ความพยายามเหล่านี้ทำให้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืนและได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชน โดยทำให้เกิดความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนของสังคม นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่สามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพไว้สำหรับอนาคต

วันนี้ ผืนป่าอนุรักษ์ของประเทศที่ สืบ นาคะเสถียร เสนอให้มีพื้นที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศไทย ได้ขยายพื้นที่จนเกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจในการผนวกรวมพื้นที่ป่าเป็นป่าอนุรักษ์ และในทุกๆ ปี ได้มีการติดตามสถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบถึงสภาพปัจจุบันของผืนป่าในประเทศไทย แม้ว่าผืนป่าอนุรักษ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่ที่ 101,818,155.76 ไร่ หรือ 31.47 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันประเทศไทยยังมีความพยายามที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของประเทศ และต้องการความร่วมมือในการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญนี้ยังคงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป

แม้ว่าสภาวะโลกร้อนที่กำลังคุกคามความมั่นคงของการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ จะเหลือเวลาให้พวกเราในการฟื้นฟูรักษาโลกอีกไม่มากแล้ว 

แต่ความสำเร็จของการสืบสานเจตนาของสืบ นาคะเสถียร และการรักษาระบบนิเวศแหล่งใหญ่ขยายผลออกไปได้อย่างที่ผ่านมา จะเป็นสัญลักษณ์และแรงบันดาลใจของพวกเราจะมุ่งมั่นทำงานอนุรักษ์ รักษาฟื้นฟูระบบนิเวศของโลก ให้ทันการต่อความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

ขอพวกเราจุดเทียนต่อกัน และร่วมรวมใจปักเทียน ส่องสว่างในหัวใจของกันและกัน บอกพี่สืบถึงเจตนาอันจะสืบสานไป ดั่งเช่นแสงเทียนที่ไม่เคยดับเสมอมา

รำลึก 34 ปี สืบ นาคะเสถียร