รัฐบาลประเทศอังกฤษได้ประกาศแผนที่หลายฝ่ายเฝ้ารอกันมานานว่าจะจัดการอย่างไรเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้าไร้ถ่านหินภายในปี พ.ศ. 2568 หลังจากได้พูดคุยกับที่ปรึกษาเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว
ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพทมี่สุดในการเปลี่ยนผ่านคือ การตัดสินใจออกกฎหมายจำกัดความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับบริษัทที่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันซึ่งจะช่วยลดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในระดับที่รับได้ คือ 450 กรัมคาร์บอนต่อไฟฟ้า 450 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญมองว่าทางเลือกในการลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวแทบไม่มีทางที่จะคุ้มค่าในมุมของเจ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหิน มาตรฐานด้านการปล่อยมลภาวะนี้จึงเป็นเส้นตายโดยปริยายที่จะทำให้โรงไฟฟ้าถ่านหินทุกแห่งจะต้องหยุดดำเนินการภายใน 7 ปีข้างหน้า
ดร.โจนาธาน มาร์แชล (Dr. Jonathan Marshall) นักวิเคราะห์ที่สถาบันคลังสมองพลังงานและภูมิอากาศ (Energy and Climate Intelligence Unit) ระบุว่า “การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานไร้ถ่านหินจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพันธมิตรนานาประเทศที่ร่วมกันรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นการตอกกลับสองประเทศคือสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียที่ยังพยายามอย่างสิ้นหวังเพื่อให้อุตสาหกรรมถ่านหินยังคงอยู่รอด ซึ่งตรงข้ามกับความเป็นจริงในตลาด”
อย่างไรก็ดี เขาแสดงความกังวลต่อความจริงที่ว่ารัฐบาลได้ตัดสินใจอนุมัติให้โรงไฟฟ้าถ่านหินได้โควต้าสำหรับการเดินโรงไฟฟ้าเพื่อเป็นกำลังไฟสำรองของระบบในกรณีฉุกเฉิน โดยเขามองว่า “จากท่าทีของรัฐบาลเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ติดตามหลายคนอาจคาดหวังให้รัฐบาลออกกฎเกณฑ์ที่เข้มข้นและหนักแน่น โดยใช้กลไกตลาดในการลดปริมาณการใช้ถ่านหินให้เร็วที่สุด แทนที่จะยังมีทางเลือกเพื่อต่อชีวิตอีก”
“ผลการวิเคราะห์สรุปได้ว่า สหราชอาณาจักรจะข้ามพ้นถ่านหินภายใน พ.ศ. 2568 โดยไม่มีความเสี่ยงด้านอุปทาน จึงเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่รัฐบาลนี้ไม่ตัดสินใจยุติการทำงานของโรงไฟฟ้าถ่านหินให้เร็วกว่านี้”
ปัจจุบัน มีโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสิ้น 8 แห่งที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าราว 14 กิกะวัตต์ โดยรัฐบาลประมาณการว่าโรงไฟฟ้าทั้ง 8 แห่งเดินเครื่องโดยไม่สามารถทำกำไรได้ เนื่องจากการเก็บภาษีคาร์บอนและต้นทุนแก๊สธรรมชาติที่ถูกลง
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2555 การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็วถึงร้อยละ 80 และตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอังกฤษมีไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหินอยู่ในระบบคิดเป็นเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น
อ่านแผนการเปลี่ยนผ่านฉบับเต็มได้ที่นี่
