เมื่อช่วงสายของวันนี้ 18 เมษายน 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกเข้ารายงานตัวต่อศาลทองผาภูมิตามกำหนดฝากขังครั้งที่ 6
การรายงานตัวต่อศาลของนายเปรมชัย และพวก เป็นไปตามที่พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก นายเปรมชัยกับพวกรวม 4 คน ไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา และทั้งหมดก็ได้ประกันตัวไป โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 150,000 บาท
ศาลจังหวัดทองผาภูมิ อนุญาตให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ มีสิทธิยื่นคำร้องฝากขังตามกฎหมายได้ 7 ครั้ง (ครั้งละ 12 วัน) รวม 84 วัน เพราะมีบางข้อหามีโทษจำคุกอย่างสูงถึง 10 ปี
โดยปกติผู้ต้องหาต้องมารายงานตัวทุกครั้งที่ครบกำหนดฝากขังคือทุก 12 วัน แต่เนื่องจากศาลจังหวัดทองผาภูมิ มีโครงการลดระยะเวลาในการมารายงานตัวชั้นสอบสวน เพื่อเป็นการลดภาระในเรื่องเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไม่ต้องหยุดงานทุก 12 วัน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิ อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และได้กำหนดนัดให้นายประกันส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมด รายงานตัวต่อศาล ในวันที่ 26 มีนาคม ตามสัญญาประกัน
ดังนั้นแล้วในช่วงระยะเวลาฝากขังในช่วงต้น ครั้งที่ 1 – 3 นายเปรมชัยกับพวกจึงไม่ต้องมารายงานตัวต่อศาลทองผาภูมิ
และเมื่อครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4 วันที่ 26 มีนาคม 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวก ประกอบด้วย นายยงค์ โดดเครือ นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ได้เข้ารายงานตัวต่อศาลทองผาภูมิตามกำหนด
และเมื่อครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 5 คือ เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายเปรมชัยพร้อมพวกก็ยังเดินทางไปรายงานตัวตามปกติ เช่นเดียวกับครั้งล่าสุด วันนี้ (18 เมษายน 2561) ซึ่งเป็นครั้งที่ 6
สำหรับการรายงานตัวครั้งต่อไป คือ กำหนดฝากขัง ครั้งที่ 7 และเป็นครั้งสุดท้าย คือ วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 (ตามที่นายวิฑูรย์ พรายแย้ม ทนายของนายเปรมชัยให้สัมภาษณ์)
ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ความคืบหน้าตอนนี้ยังอยู่ระหว่างอัยการสูงสุดพิจรณาความเห็นแย้งของทางตำรวจที่ส่งเพิ่มเติมจากเดิมที่อัยการภาค 7 ไม่มีคำสั่งฟ้องนายเปรมชัยและพวกในบางข้อกล่าวหา
ล่าสุด (18 เมษายน 2561) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ส่อมวลชนถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพิจารณาความเห็นแย้งและพิจารณาหลักฐานต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนส่งให้ควบคู่กับการพิจารณาข้อกฎหมายและพยานหลักฐานในคดีว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงความเห็นตามที่พนักงานสอบสวนส่งความเห็นแย้งมาหรือไม่ ส่วนจะทันกำหนดฝากขังผัดสุดท้ายของ นายเปรมชัยหรือไม่ ต้องรอความการชี้แจ้งจากคณะทำงานชุดดังกล่าวเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้รับมอบความเห็นแย้งจากทางตำรวจ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า อัยการสูงสุดจะพิจารณาแล้วเสร็จทันฝากขังและสุดท้าย ถ้าคดีจะขาดอายุความ หรือมีเหตุอย่างอื่นอันจำเป็นต้องรีบฟ้อง ก็ให้ฟ้องคดีนั้นตามความเห็นของอธิบดีกรมตำรวจ รองอธิบดีกรมตำรวจ ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดไปก่อน แต่หากไม่ปรากฎเหตุจำเป็นก็ต้องรออัยการสูงสุดชี้ขาดเท่านั้น
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร