ทีมอัยการชี้แจงสำนวนเปรมชัยยังไม่ครบถ้วน สั่งสอบคดีเพิ่มอีกหลายประเด็น ขณะนี้เจ้าตัวและคนขับรถ ยังคงให้การปฏิเสธข้อหาติดสินบน ด้านกรณีงาช้างภรรยาเปรมชัยอาจโดนคดีแจ้งความเท็จอีกหนึ่งข้อหา
20 มีนาคม 2561 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน ล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นครั้งแรก หลังจากที่รับสำนวนการสอบสวนกว่า 800 หน้า 9 ข้อกล่าวหา จากสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่ทางสำนักอัยการได้แถลงไว้เมื่อวันรับสำนวนคดีว่าจะแจ้งความคืบหน้าในทุกๆ 7 วัน
โดยคณะทำงานซึ่งมีนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงานได้ร่วมกันตรวจพิจารณาสำนวนโดยละเอียดแล้วเห็นว่า คดีมีประเด็นจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกหลายประเด็นเพื่อให้การสอบสวนสมบูรณ์และสิ้นกระแสความ จึงได้ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็นที่คณะทำงานได้เสนอ และได้มีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็นที่กำหนดโดยด่วนแล้ว และกำชับให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมภายในวันที่ 26 มีนาคม 2561 นี้
ส่วนรายละเอียดในประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมถือเป็นความลับทางคดี จึงไม่อาจแถลงหรือเปิดเผยในประเด็นที่สอบสวนเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ คดีนี้นายเปรมชัย กรรณสูตร ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก รวม 4 คน ดังกล่าวข้างต้น พนักงานสอบสวนได้ฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว โดยจะครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มีนาคม 2561 หากผลการสอบสวนเพิ่มเติมไม่แล้วเสร็จภายในกำหนด พนักงานอัยการยังคงมีอำนาจที่จะฝากขังผู้ต้องหาได้อีก 3 ฝาก (3 ครั้ง ครั้งละ 12 วัน) ตามที่กฎหมายกำหนด
ในวันเดียวกัน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้เรียกนายเปรมชัย และนายยงค์ โดดเครือ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมติดสินบนพนักงาน”
ในข้อกล่าวหที่แจ้งเพิ่มนี้ นายเปรมชัยและนายยงค์ ยังคงได้ปฏิเสธข้อหาดังกล่าว และพร้อมให้การในชั้นศาล
อีกด้านหนึ่ง ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยาของนายเปรมชัย และนางสาววันดี สมภูมิ ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาในการสอบสวนคดีครอบครองงาช้างโดยผิดกฎหมาย ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 (หมายเรียกครั้งแรก 14 มีนาคม แต่ทั้งคู่ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหา)
โดยงาช้างที่นางคณิตาได้แจ้งครอบครองไว้ตาม พ.ร.บ.งาช้าง บังคับใช้เมื่อปี พ.ศ.2558 ว่าเป็นงาช้างบ้าน ไม่ตรงกับผลตรวจดีเอ็นเอโดยกองนิติวิทยาศาสตร์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ระบุว่าเป็นงาช้างแอฟริกา
ซึ่งการนำงาช้างแอฟริกาไปจดแจ้งว่าเป็นช้างบ้านของไทย ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง มีความผิดตามพ.ร.บ. งาช้าง พ.ศ. 2558 มีโทษยึดงาช้างให้ตกเป็นของแผ่นดิน แต่ไม่มีโทษปรับหรือโทษจำคุก อย่างไรก็ตามการครอบครองงาช้างนั้นยังเข้าข่ายความผิดฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ปฏิเสธข้อกล่าวหาและให้การว่าได้รับงานช้างมาจากคนรู้จักเมื่อปี พ.ศ. 2524 และเสียชีวิตไปแล้ว กระทั่งปี พ.ศ. 2558 ได้นำงาช้างไปจดแจ้งขึ้นทะเบียนงาช้างกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ
ขณะเดียวกันบก.ปทส. ได้ประสานกรมศุลกากร ให้เข้าไปตรวจสอบงาช้างทั้งหมด ว่ามีการแจ้งนำเข้าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าไม่มีการนำเข้าถูกต้องก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.การนำเข้าของกรมศุลกากร
นอกจากนี้ นางคณิตายังไม่ได้รับใบอนุญาตครอบครองอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากยังไม่ได้รับการตรวจสอบงาช้างดังกล่าวว่าเป็นงาช้างบ้านของไทยตามที่มีการจดแจ้งไว้หรือไม่ อาจนำไปสู่การร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนโดยกรมอุทยานฯ ให้ดำเนินการในข้อหาแจ้งความเท็จอีกหนึ่งข้อหา
หลังสอบปากคำและเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว บก.ปทส.พร้อมทนายความและผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง โดยไม่คัดค้านการประกันตัว (เนื่องจากเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา) ทางทนายความของภรรยานายเปรมชัย ได้เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัว 300,000 บาท และศาลให้ประกันตัวนางคณิต และนางสาววันดี ในวงเงินคนละ 3 แสนบาท โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
สำหรับสถานะการสอบสวนคดีต่างๆ ของนายเปรมชัยในส่วนกำลังอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวนทั้ง 3 คดี อันได้แก่ ร่วมกันติดสินบน ครอบครองซากสัตว์ป่า (งาช้าง) และเรื่องอาวุธปืนนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนทั้ง 3 คดีนี้ให้แล้วเสร็จและส่งมอบอัยการภายในวันที่ 30 มีนาคม 2561
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร