ยูเนสโก มีมติเสียงส่วนใหญ่ขึ้นทะเบียน “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย แม้จะมีเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย
.
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 44 (ประเทศจีน) ได้พิจารณาวาระการเสนอ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
การลงคะแนนเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. โดยมี 12 เสียงจากตัวแทนทั้งหมด 21 ประเทศที่ลงคะแนนรับรองให้ผืนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ทำให้ประเทศไทยมีมรดกโลกทางธรรมชาติเป็นแห่งที่ 3 นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และกลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548
โดยเหตุผลที่ทำให้ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ มีคุณค่าโดดเด่นระดับโลก เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยเขตสัตวภูมิศาสตร์ ได้แก่ Sundaic, Sino-Himalayan, Indochinese และ Indo-Burmese
ผืนป่าขนาดใหญ่ที่ต่อเนื่องไปกับเทือกเขาตะนาวศรี มีเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่มากกว่า 200 กิโลเมตร ทำให้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และบริเวณต้นแม่น้ำเพชรบุรียังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์เลื้อคลานขนาดใหญ่ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างจระเข้น้ำจืด
รวมไปถึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์
ซึ่งเป็นไปตาม เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ กล่าวคือ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด ซึ่งรวมไปถึงถิ่นที่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และ/หรือชนิดพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือเชิงอนุรักษ์ระดับโลก
.
.
กลุ่มป่าแก่งกระจาน มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 1 แห่ง ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การที่พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้ นอกจากเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของคนในประเทศแล้ว ยังทำให้คนในประเทศเกิดการตระหนัก รู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหนทรัพยากรที่เรามีอยู่ด้วย
โดยประโยชน์หลักๆ ที่ได้รับ เช่น (1) ส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาวิจัยในระดับสากล (2) ยกระดับการอนุรักษ์พื้นที่ด้วยการบริหารจัดการที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ให้คงคุณค่าของแหล่ง เพื่อส่งต่อไปยังอนุชนรุ่นต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
(3) ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชน และ (4) สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากกองทุนมรดกโลกได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนการลงคะแนน ทาง IUCN ได้ขอให้เลื่อนการพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลกออกไปก่อน เนื่องจากยังมีข้อกังวลในประเด็นชาติพันธุ์พื้นเมืองตามข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และการยินยอมต้องเกิดจากคำยินยอมของประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะที่ผู้แทนของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งไม่เห็นด้วยในการขึ้นทะเบียนมรดกโลกในวาระนี้ ได้ชี้ถึงความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน และเสนอให้ผู้แทนพิเศษด้านชนเผ่าพื้นเมืองได้พูดก่อน แต่ที่ประชุมไม่เห็นชอบ
โดยก่อนหน้านี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของ UN ได้ส่งคำเตือนถึงคณะกรรมการมรดกโลก ขอให้มีมติยกเลิก การขอขึ้นทะเบียนผืนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เหตุมีชนพื้นเมืองกะเหรี่ยงถูกละเมิดสิทธิอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบังคับอพยพ การเผาบ้าน รวมถึงแกนนำชาวบ้านถูกฆาตรกรรมหลังการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่อุทยาน รวมทั้งกรณีการจับกุมชาวบ้าน 28 รายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในข้อหาบุกรุกแผ้วถางที่ดินดั้งเดิม
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 26 กรกฎาคม กลุ่ม ภาคี Save บางกลอย ราว 30 คนได้รวมตัวกันด้านหน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงออกในประเด็น “มรดกโลก มรดกเลือด คัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลก กลุ่มป่าแก่งกระจาน” เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้ของสิทธิชุมชนในพื้นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขแม้ว่าจะต่อสู้มาแล้วกว่า 25 ปี
.
อ้างอิง
-
ไทยเฮ! มติคณะกรรมการมรดกโลก ขึ้นทะเบียน ‘กลุ่มป่าแก่งกระจาน’ เป็นมรดกโลก
-
ผู้แทนชนเผ่าพื้นเมืองโลก จวกประชุม กก.มรดกโลกไม่เคารพสิทธิมนุษชน หลังเห็นชอบขึ้นทะเบียนป่าแก่งกระจาน
-
“เลื่อนพิจารณาแก่งกระจาน” ภาคีประชาสังคมไทยเรียกร้องคณะกก.มรดกโลก