นักอนุรักษ์เตือนจีน แบนค้าสัตว์ป่าถาวร ป้องกัน ไวรัสโคโรน่า ระบาดซ้ำรอยเดิม

นักอนุรักษ์เตือนจีน แบนค้าสัตว์ป่าถาวร ป้องกัน ไวรัสโคโรน่า ระบาดซ้ำรอยเดิม

ประเทศจีนได้ประกาศห้ามมิให้มีการค้าสัตว์ป่า ในประเทศเป็นการชั่วคราว เนื่องจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรน่า ที่เชื่อว่ามีต้นตอมาจากสัตว์ป่า อย่างไรก็ตามบรรดาหน่วยงานอนุรักษ์ องค์กรที่ทำงานด้านสัตว์ป่า นักกิจกรรม และประชาชนต้องการเห็นมาตรการที่มากกว่าการยุติเพียงชั่วคราว เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสให้ได้อย่างถาวร

โดยการระบาดของไวรัสโคโรน่าถูกระบุว่ามีต้นตอมาจากตลาดสดอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ และยังเป็นแหล่งค้าขายสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ซึ่งนับจากการระบาดตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 44,00 คน และเสียชีวิตไปแล้วกว่า 1,100 คน อ้างอิงตามรายงานของรัฐบาลจีนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

การระบาดของไวรัสทำให้เกิดกระแสกดดันให้ทางการจีนปราบปรามการค้าสัตว์ป่าในตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ทางการจีนได้ทำการห้ามการค้าสัตว์ป่าชั่วคราว ระบุชนิดพันธุ์ตั้งแต่งูไปจนถึงนกหายาก ค้างคาวไปจนถึงเต่า ทั้งในตลาดสด ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงยังบังคับใช้ข้อห้ามนี้ครอบคลุมไปถึงการค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์

ต่อเรื่องแหล่งที่ว่าไวรัสโคโรน่าหรือในชื่อใหม่โควิด-19 (COVID-19) ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจมาจาก ตัวนิ่มหรือตัวลิ่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (และได้รับการคุ้มครอง) และมักมีการลักลอบนำเข้าประเทศเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบปรุงยาแผนโบราณอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่

ค่านิยมการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าถูกมองว่าเป็นอาหารไฮโซและเลิศรสของบรรดาเศรษฐีชาวจีนบางคน เช่นเดียวกับในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลก ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการลักลอบล่าและซื้อขายสัตว์ป่าเกิดขึ้น

ในการออกคำสั่งห้ามค้าสัตว์ป่าชั่วคราวนี้ ทางการจีนระบุว่า การฝ่าฝืนบทบัญญัติของประกาศจะถูกสอบสวนและได้รับบทลงโทษอย่างรุนแรงตามที่ระบุในกฎหมายและข้อบังคับ

อย่างไรก็ตาม การห้ามกลับครอบคลุมเพียงเฉพาะช่วงเวลาที่ไวรัสกำลังระบาดเท่านั้น

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีประเทศจีน และประธานการประชุมเพื่อศึกษาการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ได้ส่งสัญญาณที่ดีถึงการแบนตลาดค้าสัตว์ป่า เขากล่าวว่า มันมีความจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างการกำกับดูแลตลาด ต้องทำการแบนอย่างเด็ดขาดและปราบปรามด้วยมาตรการที่เข้มงวดต่อการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย เพื่อควบคุมความเสี่ยงด้านสาธารณสุขจากแหล่งที่มา

หลังจากนั้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สภาประชาชนแห่งชาติจีน ได้ประกาศว่าจะแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อยกระดับงานปราบปรามการค้าสัตว์ป่าให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเนื้อหาในรายงานระบุว่า ควรมีการส่งเสริมการกำกับดูแล การตรวจสอบ และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดค้าสัตว์ป่าจะถูกแบนและปิดตัวลง

ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า การปิดตลาดอย่างถาวรนั้นเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ดร.โจว จินเฟิง ผู้อำนวยการมูลนิธิอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการพัฒนาสีเขียวของจีน หนึ่งในแกนนำเรียกร้องให้มีการห้ามค้าขายสัตว์ป่าโดยถาวร กล่าวชื่นชมทางการจีนที่เริ่มแสดงทิศทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม ดร.โจว ตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะมีกฎหมายใหม่ออกมาใช้ แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเห็นรัฐบาลบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมันถูกพิสูจน์แล้วจากข้อเท็จจริงที่ล้มเหลวในอดีต

ผู้อำนวยการมูลนิธิอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพฯ​ กล่าวว่า ในการก้าวไปข้างหน้า จำเป็นต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงพื้นฐานสำคัญ 3 ประการ เรื่องแรก คือ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน การแจ้งเบาะแสจากประชาชนถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหา และการบังคับใช้กฎหมายจำเป็นต้องนำข้อมูลที่ได้จากประชาชนมาใช้อย่างจริงจัง

ประการที่สอง องค์กรทางภาคสังคมควรมีสิทธิฟ้องร้องรัฐบาลท้องถิ่นได้ หากภาครัฐไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือละเลยหน้าที่นี้ไป

และสุดท้าย ต้องมีกลไกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เขากล่าวว่ามันมีประเด็นซับซ้อนในการซื้อขายสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจการค้าเนื้อสัตว์ป่าและการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ในบางแห่งได้รับใบอนุญาตบางอย่างเพื่อกลบเกลื่อนที่มาของสินค้าให้ดูเหมือนนำมาจากฟาร์มเพาะเลี้ยง ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นเนื้อที่ถูกล่ามาจากป่า

นักอนุรักษ์ยังกล่าวอีกว่า ประเทศจีนควรผ่านกฎหมายอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพให้สำเร็จภายในปี 2020 โดยเฉพาะเมื่อจีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความหลากหลายทางชีวภาพในช่วงปลายปีนี้

ข้อเสนอให้หยุดการค้าสัตว์ป่ากำลังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ดังที่ชาวจีนได้แสดงออกถึงความไม่พอใจผ่านทางโซเชียลมีเดียต่อปัญหาการค้าสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันกลายเป็นแหล่งต้นตอของไวรัสโคโรน่า

และสิ่งนี้อาจสร้างแรงกดดันต่อทางการจีนได้ดีกว่าการเรียกรองจากองค์กรเอ็นจีโอในต่างประเทศ

 


เรื่อง เอกวิทย์ เตระดิษฐ์
เรียบเรียงจาก China’s wild animal trade should be banned for good if future viruses are to be stopped, activists warn
Photo: The Huanan Seafood Wholesale Market in Wuhan, closed on January / AFP