จากผลการศึกษาใหม่ที่นำโดยมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นในออสเตรเลียและสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศในฝรั่งเศส พบว่ามีโอกาสเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะจำกัดอุณหภูมิภาวะโลกร้อนไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียสมากกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม (เป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีสในปี 2558)
.
อย่างไรก็ตาม คำมั่นสัญญาที่เกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศ COP26 ตั้งแต่ปี 2564 ที่จะรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส อาจยังคงเป็นไปได้ “หากคำมั่นสัญญาทั้งแบบที่มีเงื่อนไขและไม่มีเงื่อนไขทั้งหมดได้รับการดำเนินการอย่างครบถ้วนและตรงเวลา” ตามที่ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการศึกษาได้กล่าวไว้
นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์แหล่งข้อมูลและเป้าหมายสภาพภูมิอากาศของ 196 ประเทศตั้งแต่ที่ทำข้อตกลงปารีสจนถึงการประชุมสุดยอด COP26 และใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อคาดการณ์สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่างๆ พวกเขาพบว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุเป้าหมายการรักษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีส แต่เรื่องของภาวะโลกร้อนยังคงสามารถรักษาอุณหภูมิไว้ในที่เหมาะสมได้ (ระหว่าง 1.9 – 2องศาเซลเซียส) หากประเทศต่างๆ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ว่าที่พวกเขาทำไว้เมื่อปีที่แล้วในกลาสโกว์
“ผลลัพธ์ของเราแสดงให้เห็นผลในแง่ดี – ภาวะโลกร้อนอาจถูกจำกัดไว้ที่ 2 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่านั้น หากคำสัญญาที่ตกลงไว้ถูกนำไปใช้อย่างครบถ้วนและตรงเวลา” ตามรายงานผู้เขียนการศึกษา “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มากที่สุดจากทั่วโลกสามารถเกิดขึ้นได้ในทศวรรษนี้” แต่ผลลัพธ์ของเราแสดงให้เห็นถึงการประเมินอย่างรอบคอบว่าคำมั่นสัญญาในปัจจุบันนั้นยังห่างไกลที่จะจำกัดภาวะโลกร้อนไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส ความมุ่งมั่นที่ทำมาจนถึงตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทศวรรษนี้ ต่ำกว่าข้อกำหนดที่จำเป็นในการจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส”
นักวิจัยแย้งว่าประเทศที่มีเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ควรพยายามหาเป้าหมายใหม่ในอนาคต หรือแม้แต่ตั้งเป้าหมายที่เป็นผลที่สุดไว้ ความล่าช้าใดๆ ในการยับยั้งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างแพร่หลาย และการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืนอาจนำไปสู่ภัยพิบัติด้านสภาพอากาศในอนาคตอันใกล้
ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม Zeke Hausfather และ Frances Moore ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “เป้าหมายระยะยาวควรได้รับการปฏิบัติด้วยความสงสัย หากพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากความมุ่งมั่นในระยะสั้นเพื่อให้ประเทศต่างๆ อยู่บนเส้นทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นในทศวรรษหน้า”