แผ่นน้ำแข็งในอาร์กติกที่ลดลง ไม่เพียงแต่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น แต่ยังทำให้พฤติกรรมของสัตว์น้ำเปลี่ยนไป
.
นักวิจัยสังเกตได้จากพฤติกรรมของ ‘วาฬออร์กา’ หรือที่คุ้นกันในชื่อ ‘วาฬเพชรฆาต’ ว่าพวกมันกำลังขยายพื้นที่ล่าเหยื่อไปทางซีกเหนือของโลกบ่อยขึ้น และใช้ชีวิตอยู่ในน่านน้ำขั้วโลกนานขึ้น
การพบเห็นวาฬเพชฌฆาตเดินทางขึ้นเหนือ เป็นการบ่งชี้ว่าสมาชิกครอบครัวปลาโลมาลายขาวดำกำลังเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับน่านน้ำที่เพิ่งละลายในมหาสมุทรอาร์กติก
วันนี้ที่กลางมหาสมุทรอาร์กติกในแถบแชร์วอย (นอร์เวย์) สามารถพบเห็นวาฬเพชฌฆาตได้ 70-80 ตัว
ตามปกติทุกๆ ปี แผ่นน้ำแข็งทะเลอาร์กติกจะขยายตัวเนื่องจากผิวน้ำถูกแช่แข็งในช่วงฤดูหนาวอันยาวนาน
ซึ่งแผ่นน้ำแข็งจะมีขนาดเท่ากับมหาสมุทรอาร์กติก หรือเกือบ 16 ล้านตารางกิโลเมตร และก่อนละลายลงในฤดูร้อนและฟื้นกลับมาวนเวียนเป็นวัฎจักรแบบนี้อยู่ร่ำไป
โดยการพบวาฬเพชฌฆาตเข้าไปหากินในน่านน้ำอาร์กติกเป็นเรื่องที่มีมานับศตวรรษ แต่พบไม่มากนัก และส่วนใหญ่พวกที่อยู่นาน – ไม่ยอมย้ายลงใต้จะตายเมื่อฤดูหนาวมาเยือน
พวกมันจะติดแหง็กอยู่ใจกลางแผ่นน้ำแข็ง ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ สุดท้ายถูกความเย็นแช่แข็งตายไปในที่สุด
แต่วิกฤตโลกร้อนทำให้แผ่นน้ำแข็งมีแต่จะลดลง จากพื้นที่ปิดตายก็กลายเป็นสถานที่สาธารณะเปิดให้สัตว์น้ำนานาชนิดสามารถแวะเวียนเข้าไปใช้ประโยชน์ได้แทบจะเกือบตลอดเวลา
การเดินทางไปล่าเหยื่อของวาฬเพชฌฆาตในปัจจุบันทำให้เกิดข้อกังวลว่า นักล่าลำดับต้นๆ ในมหาสมุทรอย่างพวกมัน อาจทำให้ระบบนิเวศเกิดการปั่นป่วน และเสี่ยงทำให้สัตว์บางชนิดพบกับการสูญพันธุ์เร็วยิ่งขึ้น
วาฬเพชฌฆาตซึ่งมีประชากรประมาณ 50,000 ตัวทั่วโลก และพบได้ในทะเลเกือบทั้งหมดของโลก กำลังทยอยล่าเหยื่อในแถบอาร์กติก เช่น วาฬเบลูก้า วาฬโบว์เฮด และแมวน้ำบางสายพันธุ์
รูปแบบการย้ายถิ่นที่เปลี่ยนแปลงไป ยังเชื่อมโยงกับความจริงที่ว่าอาหารของพวกมัน ซึ่งก็คือปลาเฮอริ่งกำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือ – แต่ยังระบุเหตุผลที่ชัดเจนไม่ได้ว่าปลาเฮอริ่งเดินทางขึ้นเหนือเพราะอะไร
ผลของการขยายพื้นที่ล่าเหยื่อไม่เพียงกระทบต่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แต่ยังก่อให้เกิดความขัดแย้งกับมนุษย์อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ในน่านน้ำนอกเมืองนุก เมืองหลวงของกรีนแลนด์ วาฬเพชรฆาตสี่ตัวถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่ไม่น่าเห็นใจของชาวประมงท้องถิ่น
เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน วาฬเพชรฆาตทั้งสี่ตัวนั้นก็ถูกชาวประมงสังหาร – ซึ่งเป็นการกระทำที่อนุญาตภายใต้กฎหมายกรีนแลนด์
ก่อนหน้านี้ มีการพบเห็นฝูงวาฬเพชฌฆาตไล่ล่า ‘วาฬนาร์วาล’ เจ้าของสมญา ‘ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล’ สัตว์ท้องถิ่นที่ส่วนใหญ่พบในบริเวณอาร์กติกของแคนาดาและเขตทะเลของกรีนแลนด์
แม้วาฬชนิดนี้จะไม่ใช่สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แต่ก็มีความกังวลว่าการรุกรานของวาฬเพชฌฆาตอาจนำไปสู่ความขัดแย้งกับคนในไม่ช้า
เพราะนาร์วาลยังถือเป็นแหล่งอาหารดั้งเดิมของคนที่อาศัยอยู่ในแคนาดาและกรีนแลนด์อาร์กติก ดังนั้น หากนาร์วาลลดลงเพราะถูกคุกคามจนต้องหนีหาย หรือถูกล่าจากการหลั่งไหลเข้ามาของฝูงวาฬเพชฌฆาตมากขึ้น ก็อาจส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารของคนท้องถิ่น
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมื่อต้นเดือนธันวาคมพบว่า การอพยพของซูเปอร์นักล่าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากฤดูกาลที่มหาสมุทรอาร์กติกปราศจากน้ำแข็งมีช่วงเวลายาวนานขึ้น
ปัจจุบัน อาร์กติกร้อนขึ้นเร็วกว่าส่วนอื่นๆ ของโลกถึง 3 เท่า ส่งผลกระทบต่ออาณาเขตของก้อนน้ำแข็งและระบบนิเวศที่พึ่งพาอาศัยกัน
น้ำแข็งในทะเลอาร์กติกซึ่งกำลังบางลงได้หดตัวเฉลี่ยประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ต่อทศวรรษในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
ในช่วงปลายฤดูร้อนปี 2012 พื้นที่ดังกล่าว มีน้ำแข็งแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.4 ล้านตารางกิโลเมตร หรือหายไปเกือบครึ่งหนึ่งของขนาดในช่วงทศวรรษ 1980
การหลั่งไหลของเข้าไปใช้ประโยชน์จนเกิดผลกระทบของวาฬเพชฌฆาตหลังน้ำแข็งละลายเป็นเพียงตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงแรกของอีกหลายกรณีที่จะตามมาในอนาคต
หากเราหยุดอุณหภูมิไว้ที่ 1.5 องศาไม่สำเร็จ
อ้างอิง
-
Melting Arctic ice draws killer whales further north
-
Narwhals beware: Killer whales are on the rise in the Arctic
-
Killer Whales Are Expanding into the Arctic, Then Dying as the Ice Sets In
ผู้เขียน
โซเชียลมีเดียที่เขียนบันทึกประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคแอนโทโปรซีน