รัฐบาลญี่ปุ่นขอความร่วมมือประชาชน ‘ประหยัดไฟฟ้า’ ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์

รัฐบาลญี่ปุ่นขอความร่วมมือประชาชน ‘ประหยัดไฟฟ้า’ ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์

‘ประหยัดไฟฟ้า’ – รัฐบาลญี่ปุ่นขอความร่วมมือประชาชน 37 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบให้ประหยัดพลังงานและลดการใช้เครื่องปรับอากาศท่ามกลางคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณภูมิสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยบางพื้นที่ของประเทศอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

รัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนในเมืองหลวงปิดสวิตช์ไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เป็นเวลาสามชั่วโมงในช่วงบ่ายและเปิดเครื่องปรับอากาศ “อย่างเหมาะสม” เนื่องจากประเทศเข้าสู่สภาวะเสี่ยงที่จะขาดแคลนพลังงาน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอากาศร้อนเป็นประวัติการณ์อาจต่อเนื่องยาวนานหลายสัปดาห์

“กรุณาประหยัดพลังงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น การปิดไฟในเวลาที่ไม่ใช้งาน” รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งระบุว่าการใช้เครื่องปรับอากาศอย่างเหมาะสมคือการเปิดเพื่อ “ป้องกันอาการลมแดด”

กำลังการผลิตไฟฟ้าของญี่ปุ่นค่อนข้างตึงตัวตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อแผ่นดินไหวบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ พ.ศ. 2554 รัฐมนตรียังระบุอีกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นแต่กำลังการผลิตที่น้อยลงกำลังอยู่ในภาวะ “วิกฤติ”

อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจนอยู่ในระดับอันตรายอาจทำให้การปันส่วนการใช้ไฟฟ้าไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อวันอังคารที่กรุงโตเกียวเผชิญความร้อนต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ หลังจากที่ทุบสถิติวันสุดสัปดาห์ที่ร้อนที่สุดในเดือนมิถุนายน

เมื่อวันเสาร์สัปดาห์ที่แล้ว อุณหภูมิในเมืองหลวงสูงถึง 35.4 องศาเซลเซียส ขณะที่เมืองอิเซกิทางตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียวอุณหภูมิสูงถึง 40.2 องศาเซลเซียส นับเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดในเดือนมิถุนายนนับตั้งแต่เก็บข้อมูลย้อนไปร่วม 200 ปี ส่วนในเมืองนากาโนะในภาคกลางอุณหภูมิแตะระดับ 35.1 องศาเซลเซียส ขณะที่อำเภอทาคาดะในจังหวัดนีงาตะบริเวณชายฝั่งตะวันตกอุณหภูมิ 36.7 องศาเซลเซียส

อากาศร้อนอบอ้าวจะอยู่ยาวนานนับสัปดาห์และอาจมีแนวโน้มเลวร้ายลงในอนาคต นั่นหมายความว่าความต้องการใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากประชาชนที่อยู่บ้านอาจต้องการเปิดเครื่องปรับอากาศ คลื่นความร้อนในญี่ปุ่นเป็นเพียงหนึ่งในปรากฎการณ์คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นอีกหลายแห่งทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าสภาพภูมิอากาศสุดขั้วจะเกิดบ่อยครั้งขึ้นเนื่องจากวิกฤติภูมิอากาศที่เลวร้ายลง

ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อุณหภูมิที่สูงขึ้นในอินเดียและปากีสถานก็ทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อแปลงเกษตร และสร้างแรงกดดันต่อกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ขณะที่ประชาชนต้องหลบอยู่ในบ้าน ผู้เชี่ยวชาญบางคนถึงกับตั้งคำถามว่ามนุษย์ยังสามารถอาศัยได้หรือไม่ในความร้อนสูงเช่นนี้

ภาวะโดมความร้อนปกคลุมบางพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นกว่า 37 องศาเซลเซียสในเขตเมืองใหญ่ อาทิ มินนีแอโพลิส ชิคาโก แนชวิลล์ เมมฟิส ดัลลาส นิวออร์ลีนส์ และแอตแลนต้า นอกจากคลื่นความร้อนแล้ว อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนยังเผชิญกับอุทกภัย ขณะที่แอริโซนาและนิวเม็กซิโกเผชิญกับไฟป่า ส่วนพายุฝนฟ้าคะนองก็ทำให้พื้นที่ลุ่มแม่น้ำมิดเวสต์และโอไฮโอไฟดับเป็นบริเวณกว้าง

“คลื่นความร้อนจะทวีความรุนแรงและบ่อยครั้งยิ่งขึ้นในเมืองเมื่อสภาวะโลกร้อนเลวร้ายลงในอนาคต” Winston Chow นักวิทยาศาสตร์จาก Singapore Management University กล่าว “เราเกรงว่าสำหรับบางพื้นที่ที่เผชิญกับวิกฤติ นี่คือสภาพภูมิอากาศปกติใหม่ หากยังไม่มีการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ต้นเหตุ”

สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูงลิ่วต่อผู้สูงอายุ ซึ่งคิดเป็น 28 เปอร์เซ็นต์ของประชากรญี่ปุ่น “ลักษณะทางกายภาพของผู้สูงอายุจะเปราะบางต่ออาการบาดเจ็บที่เกี่ยวกับความร้อน ประชากรกว่า 1 ใน 4 ของญี่ปุ่นอายุมากกว่า 65 ปี ความเสี่ยงจากอาการลมชักและความเครียดจากความร้อนจึงมีสูงมากในโตเกียวหากไม่มีการปรับตัว”


ถอดความและเรียบเรียงจาก Japan tells millions to save electricity as record heat wave strains power supply

ผู้เขียน

+ posts

บัณฑิตการเงินและการบัญชีที่สนใจความเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน เขียน เรียนคอร์สออนไลน์ และเลี้ยงลูกชายวัยกำลังน่ารัก