จากการตรวจสอบของ NASA พบว่า แผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์กำลังละลายเร็วขึ้นเรื่อยๆ
.
การละลายของแผ่นน้ำแข็งเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1990 และเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 แต่การสูญเสียมวลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงก่อนปี ค.ศ. 2000
โดยสถานะในวันนี้น้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายไวขึ้น 6-7 เท่า เมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน
และนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 เป็นต้นมา น้ำแข็งกรีนแลนด์ได้หายไปถึง 4,700 ล้านตัน มีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 1.2 เซนติเมตร
ซึ่งหมายถึงน้ำที่ละลายแล้ว 4,700 ลูกบาศก์กิโลเมตร หรือ ‘เพียงพอที่จะท่วมทั้งสหรัฐฯ ในระดับความสูงครึ่งเมตร’
นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศประเมินว่า แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์มีน้ำเพียงพอที่จะเพิ่มระดับน้ำทะเลได้มากกว่า 7 เมตร
โดยแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์เป็นก้อนน้ำแข็งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีพื้นที่เกือบ 1.8 ล้านตารางกิโลเมตร (695,000 ตารางไมล์) รองจากทวีปแอนตาร์กติกา
แน่นอนว่าเหตุที่ทำให้น้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายอย่างรวดเร็วนี้ เกิดขึ้นเพราะวิกฤตโลกร้อนที่มนุษย์เป็นตัวการเร่งเร้า
ตามความเห็นของ NASA ระบุว่า อากาศในแถบอาร์กติกอุ่นขึ้นเร็วกว่าที่ใดในโลก และน้ำแข็งที่กำลังละลายจากกรีนแลนด์เป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มระดับมหาสมุทรทั่วโลก
ในปีที่ผ่านมา กรีนแลนด์มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติในฤดูร้อนมากกว่า 10 องศาเซลเซียส
ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมพบว่า มีน้ำแข็งละลายมากถึงประมาณแปดพันล้านตันต่อวัน ซึ่งเป็นสองเท่าของอัตราเฉลี่ยปกติในช่วงฤดูร้อน
ทาง NASA ยังระบุต่อว่าการละลายอย่างรวดเร็วของน้ำแข็งใกล้ชายฝั่งของกรีนแลนด์อาจเกิดจากภาวะโลกร้อนของมหาสมุทรอาร์กติก การค้นพบนี้มาจากการรณรงค์ระยะเวลาห้าปีที่เรียกว่าภารกิจ Ocean Melting Greenland (OMG)
ภารกิจ OMG ทำให้ NASA สามารถวัดการสูญเสียน้ำแข็งและอุณหภูมิมหาสมุทรรายปีในกรีนแลนด์
การวัดนี้ดำเนินการผ่านการสำรวจทางทะเลที่ครอบคลุมนอกชายฝั่งกรีนแลนด์ การสร้างแผนที่ทะเล และการกำหนดความเค็มของน้ำ
วิกฤตโลกร้อนอย่างต่อเนื่องปรากฏชัดจากการศึกษาก่อนหน้านี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยใน ค.ศ. 2021 นักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรปสรุปว่า ค.ศ. 2021 เป็นปีที่ร้อนที่สุดอันดับ 5 ตาม รายงาน ของThe New York Times
Carlo Buontempo ผู้อำนวยการ Copernicus Climate Change Service กล่าวว่าเหตุการณ์ในปี 2021 เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงวิธีการของเรา ที่ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดและมีประสิทธิภาพเพื่อสังคมที่ยั่งยืน และทำงานเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฯ ให้สำเร็จ
อ้างอิง
ผู้เขียน
โซเชียลมีเดียที่เขียนบันทึกประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคแอนโทโปรซีน