อัตราการปล่อย “ก๊าซเรือนกระจก” ในปัจจุบันพุ่งขึ้นสูงมากจนโลกมีเวลาประมาณ 11 ปีในการควบคุมปริมาณ เพื่อให้ประเทศต่างๆ สามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เลวร้ายที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต
.
รายงานประจำปีของ Global Carbon Budget ระบุว่า แม้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะลดลงในปี 2020 เนื่องจากการระบาดใหญ่ทั่วโลก แต่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็กำลังกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด
ผลการวิจัยซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบก่อนเผยแพร่อย่างเป็นทางการ เน้นย้ำว่าเรามีความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้นเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เคยคาดไว้ หากต้องการหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยที่มากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีสเมื่อปี 2015 และดำเนินการโดยประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์
Global Carbon Budget รวบรวมข้อมูลจากนักวิจัยหลายสิบคนทั่วโลก โดยได้ตรวจสอบปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มนุษย์ปล่อยออกมาและจำนวนพื้นที่ของการปล่อยเพื่อให้อยู่ภายในขีดจำกัด 1.5 องศาเซลเซียส
ในครั้งที่จัดทำรายงานฉบับแรกเมื่อปี 2015 นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าโลกมีเวลา 20 ปี ก่อนที่การปล่อยมลพิษจะส่งผลให้โลกร้อนเกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้ภายในสิ้นศตวรรษ แต่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลับเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาด โดยครึ่งหนึ่งของที่ปล่อยออกมานั้นเกิดขึ้นในช่วงหกปีที่ผ่านมา
จากระดับการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน มีโอกาส 50% ที่อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2033 หากไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อลดปริมาณลง ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมีความเป็นไปได้ที่อุณหภูมิจะสูงถึง 1.7 องศาเซลเซียส อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ภายในปี 2042 และจะกระโดดเป็น 2 องศาเซลเซียส อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ภายในปี 2054
อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในช่วง 150 ปีที่ผ่านมาสูงขึ้นประมาณ 1.1 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดไฟป่า น้ำท่วม และพายุเฮอริเคนทั่วโลก
“การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลก (ไม่รวมซีเมนต์คาร์บอเนต) ในปี 2021 กำลังกลับสู่ระดับของปี 2019 หลังจากที่ลดลง 5.4% ในปี 2020” รายงานระบุ
ผู้เขียนรายงานตั้งข้อสังเกตว่าการไปถึงวิถีปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งเป็นเป้าหมายของการผลักดันการดำเนินการด้านสภาพอากาศในการประชุม COP26 “ต้องนำมาซึ่งการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากมนุษย์ทั้งหมด” ด้วยจำนวน “เทียบกับการลดลงในปี 2020”
การปล่อยก๊าซจากประเทศจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้แซงหน้าสหรัฐอเมริกา ในฐานะประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเพิ่มขึ้น 5.5% ตามข้อมูลในรายงานล่าสุด ขณะที่ประเทศอินเดียเพิ่มขึ้น 4.4%
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณสนับสนุนด้านบวกบางประการในรายงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยมลพิษได้ลดลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาใน 23 ประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตก่อนการระบาดของโคโรนาไวรัส รวมถึงสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร รายชื่อดังกล่าวซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกนั้นยังประกอบด้วยประเทศที่ร่ำรวยหลายประเทศในยุโรปและญี่ปุ่น
เรียบเรียงจาก Earth has 11 years to cut emissions to avoid dire climate scenarios, a report says
ผู้เขียน
ทำงานอิสระที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ การเขียน เรื่องสิ่งแวดล้อมและดนตรีนอกกระแส - เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตใช้ไปกับการนั่งมองความเคลื่อนไหวของใบไม้และสายลม
