งานวิจัยชิ้นล่าสุดเปิดเผยว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอาจทำให้พบโรคระบาดในพืชมากขึ้นในบางพื้นที่ ในขณะเดียวกันบางภูมิภาคก็อาจเผชิญกับความเสี่ยงดังกล่าวน้อยลง
.
เมื่อโลกร้อนขึ้น ผลกระทบจากโรคระบาดในพืชมีแนวโน้มจะลดลงในพื้นที่เขตร้อนชื้น เช่น บราซิล ภูมิภาคแอฟริกาใต้ซาฮารา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ในพื้นที่ซึ่งละติจูดสูงหรือออกห่างจากเส้นศูนย์สูตรความเสี่ยงที่จะเจอกับโรคระบาดก็มีแนวโน้มมากขึ้น เช่น สหภาพยุโรปและประเทศจีน
งานวิจัยจาก University of Exeter ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Climate Change ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะถูก ‘ติดตามอย่างใกล้ชิด’ ผ่านตัวเลขคาดการณ์ผลิตภาพการผลิตพืชผลภายใต้โลกที่ร้อนขึ้น แบบจำลองระบุว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผลผลิตของพืชส่วนใหญ่ซึ่งปลูกในละติจูดที่สูงดีขึ้น ขณะที่ผลผลิตในเขตศูนย์สูตรแทบไม่เปลี่ยนแปลง
งานชิ้นดังกล่าวยังคาดว่าสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน มีแนวโน้มที่จะเผชิญการเปลี่ยนแปลงของโรคที่ระบาดในแปลงเกษตร “ในแต่ละปี เชื้อโรคในพืชคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสียผลิตภาพทางการเกษตรทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ามหาศาล” Daniel Bebber อาจารย์จาก University of Exeter กล่าว
“งานวิจัยชิ้นนี้ของเราแสดงให้เห็นว่าเชื้อโรคและศัตรูพืชกำลังเคลื่อนตัวจากเส้นศูนย์สูตรสู่พื้นที่ใหม่ ซึ่งแบบจำลองของเราคาดว่าผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่อบอุ่นนั้นจะถูกทำลายลงเนื่องจากภาระส่วนเพิ่มจากการป้องกันผลผลิต การขนส่งและซื้อขายระหว่างประเทศที่คึกคักอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปสู่ทุกพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม”
อัตราการติดเชื้อโรคในพืชนั้นถูกกำหนดโดยหลากหลายปัจจัยโดยหนึ่งในนั้นคืออุณหภูมิ งานศึกษาชิ้นนี้ใช้ข้อมูลอุณหภูมิขั้นต่ำ สูงสุด และระดับที่เหมาะสมในการติดเชื้อและแพร่กระจายของเชื้อราโรคพืชราว 80 สายพันธุ์
นักวิจัยเปรียบเทียบผลผลิตในปัจจุบันกับการคาดการณ์ในอนาคตของพืชหลัก 12 ชนิด โดยใช้แบบจำลองผลิตภาพทางการเกษตรประกอบกับแบบจำลองด้านภูมิอากาศตามรายงาน RCP6.0
Sarah Gurr หนึ่งในผู้ร่วมงานวิจัยชิ้นดังกล่าวระบุว่าการเปลี่ยนแปลงชนิดของโรคพืชที่ระบาดในแต่ละพื้นที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรง “การผสมพันธุ์พืชและบริษัทเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรจะให้ความสำคัญเฉพาะโรคบางชนิดเท่านั้น เช่นในสหราชอาณาจักร สายพันธุ์ข้าวสาลีจะเน้นชนิดที่สามารถป้องกันโรคที่มีจุดเนื้อตายบนใบไม้ (Septoria tritici blotch) และโรคราสนิม แต่ภัยคุกคามดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก”
“ภาคการเกษตรจะต้องวางแผนและเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง” Thomas Chaloner นักศึกษาปริญญาเอก หนึ่งในคณะวิจัยกล่าว “เราเหลือเวลาอีกไม่กี่ทศวรรษ แต่การขยายพันธุ์พืชอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น เราจึงต้องคิดเผื่อเพื่อหาสายพันธุ์ที่ต้านทานโรคซึ่งกำลังจะระบาดในอนาคต เชื้อโรคหลายชนิดโดยเฉพาะที่พบในพื้นที่เขตร้อนชื้นมักจะไม่ได้รับการศึกษาอย่างเข้มข้น เราจึงต้องลงทุนเพื่อทำความเข้าใจโรคดังกล่าว เพราะวันหนึ่งมันอาจจะระบาดหนักในพื้นที่เพาะปลูกสำคัญของโลก”
ถอดความและเรียบเรียงจาก Crop farmers face new disease pressures as climate changes
ผู้เขียน
บัณฑิตการเงินและการบัญชีที่สนใจความเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน เขียน เรียนคอร์สออนไลน์ และเลี้ยงลูกชายวัยกำลังน่ารัก