ผลจากการประชุม COP26 อาจจำกัดอุณหภูมิโลกไว้ที่ 1.8 องศา

ผลจากการประชุม COP26 อาจจำกัดอุณหภูมิโลกไว้ที่ 1.8 องศา

COP26 : หากประเทศต่างๆ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกดังที่กล่าวไว้ในการประชุม COP26 อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นภายในสิ้นศตวรรษนี้อาจอยู่ที่ 1.8 องศาเซลเซียส ตามการวิเคราะห์ใหม่ของ International Energy Agency (IEA)

.
ตามรายงานของ IEA แม้สิ่งนี้จะไม่ใช่เป้าหมายที่กำหนดโดยผู้นำโลกเมื่อหกปีที่แล้ว (ในข้อตกลงปารีส) แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าวิถีที่โลกเป็นอยู่ในปัจจุบัน

การวิเคราะห์สถิติรอบใหม่ของ IEA รวมถึงสัญญาที่ทำขึ้นในสัปดาห์แรกของการประชุมสภาพภูมิอากาศ COP26 ในเมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ หลายประเทศในการประชุมที่กำลังดำเนินอยู่ได้ให้คำมั่นที่จะกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนภายในปี 2050 และหลายสิบประเทศกล่าวว่าพวกเขาจะลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพมากขึ้นไปอีกเกือบหนึ่งในสาม

กลุ่ม Climate Action Tracker ประมาณการว่าภายใต้นโยบายปัจจุบัน อุณหภูมิโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มไปที่ 2.7-3.1 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของการเพิ่มขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ที่ตกลงไว้ในข้อตกลงปารีสเมื่อปี 2015 เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ก่อนการประชุม COP26 ที่สกอตแลนด์จะเริ่มขึ้น IEA คาดการณ์ว่าหากประเทศต่างๆ สามารถปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการดำเนินการด้านสภาพอากาศ อุณหภูมิโลกเฉลี่ยภายในสิ้นศตวรรษ จะเพิ่มขึ้น 2.1 องศาเซลเซียส ก่อนอุตสาหกรรม

“อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ประเทศต่างๆ ได้เพิ่มความทะเยอทะยานของพวกเขามากขึ้น” รายงานของ IEA กล่าว “นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับเป้าหมายของประเทศในปี 2030 และให้คำมั่นว่าจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2070 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่นๆ เช่นเดียวกับอีกหลายแห่งที่ได้ประกาศคำมั่นที่จะบรรลุการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์”

การวิเคราะห์ยังพิจารณาถึงความมุ่งมั่นจากประเทศจีน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้แซงหน้าสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ก่อมลพิษที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่นเดียวกับความมุ่งมั่นของกว่า 100 ประเทศในการลดการปล่อยก๊าซมีเทนลง 30%

ข้อความในทวีตฟาติห์ บิโรล กรรมการบริหารของ IEA กล่าวว่าผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นสัญญาณของ “ก้าวที่ยิ่งใหญ่” แต่เขาก็เตือนว่ายังจำเป็นต้องทำอีกหลายอย่าง
.

การปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาใน COP26 เรื่องสภาพอากาศเป็นกุญแจสำคัญ

การประกาศดังกล่าวทำให้เกิดข้อกังขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศต่างๆ จะต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างแท้จริงสถานการณ์จึงจะดีขึ้นได้ ที่ผ่านมาผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลกหลายรายล้มเหลวในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยตั้งไว้ และการทำตามคำมั่นสัญญาเหล่านี้จะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่

ประเทศใหญ่ๆ หลายแห่ง เช่น ออสเตรเลียและรัสเซีย ยังไม่ได้บอกว่าพวกเขาจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างไร และข้อเสนอของฝ่ายบริหารของไบเดนในการลดการผลิตในสหรัฐฯ ยังคงต้องคอยการอนุมัติจากสภาคองเกรสที่มีความไม่ลงรอยกันอยู่ภายใน

จอห์น เคอร์รี ผู้แทนพิเศษด้านสภาพอากาศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าเขา “ประหลาดใจ” กับการประเมินของ IEA เขากล่าวว่ามันเป็นกำลังใจ และแสดงให้เห็นว่ากสนปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของประเทศต่างๆ นั้นมีสำคัญเพียงใด “การดำเนินการคือกุญแจสำคัญ” จอห์น เคอร์รีกล่าวในการแถลงข่าว

สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนโยบายด้านสภาพอากาศที่ไม่แสวงหากำไร เตือนว่าการคงอุณหภูมิไว้ที่ 1.8 องศาเซลเซียส นั้นเป็นไปได้หากทุกอย่างเข้าที่ แต่ก็ยังชี้ให้เห็นว่า เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิศูนย์จำนวนหนึ่งในก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าคำมั่นสัญญาต่างๆ ยังขาดความน่าเชื่อถือ

ในขณะเดียวกัน การวิเคราะห์อื่นๆโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ คาดการณ์ว่าอุณหภูมิโลกจะสูงถึง 1.9 องศาเซลเซียส หากเราสามารถดำเนินการตามคำมั่นที่ปรับปรุงใหม่ในปัจจุบัน

“ตอนนี้เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเล็กน้อยสำหรับอนาคต” Malte Meinshausen นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นกล่าวตามรายงานของ The Associated Press เขาคาดการประเมินในแง่ดีส่วนใหญ่เป็นผลมาจากคำมั่นสัญญาระยะยาวชิ้นใหม่ของอินเดียและจีน

อย่างไรก็ตามในมุมของ Meinshausen ยอมรับว่า ยังยากที่จะลดให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส และกล่าวเสริมว่า “เรารู้ว่าระบบนิเวศบางแห่งจะต้องทนทุกข์ทรมาน”

“มันเพิ่งผ่านสถานการณ์ที่ลำบากเพื่อให้ต่ำกว่า 2 องศา ดังนั้นจึงยังมีอีกมากที่ต้องทำ” เขากล่าว

 


เรียบเรียงจาก Latest climate pledges could limit global temperature rise, a new report says

ผู้เขียน

Website | + posts

ทำงานอิสระที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ การเขียน เรื่องสิ่งแวดล้อมและดนตรีนอกกระแส - เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตใช้ไปกับการนั่งมองความเคลื่อนไหวของใบไม้และสายลม