โรงงานดักจับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ใหญ่ที่สุดในโลกเริ่มเดินเครื่องแล้วในไอซ์แลนด์

โรงงานดักจับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ใหญ่ที่สุดในโลกเริ่มเดินเครื่องแล้วในไอซ์แลนด์

โรงงานที่ออกแบบมาเพื่อดักจับและกักเก็บแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศเริ่มเดินเครื่องแล้วในไอซ์แลนด์ 

.
โรงงานดังกล่าวมีชื่อว่าออร์ก้า (Orca) ก่อสร้างโดย Climeworks บริษัทสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์และ Carbfix บริษัทสัญชาติไอซ์แลนด์ สำนักข่าว The Guardian รายงานว่าโรงงานสองแห่งนี้เริ่มเดินเครื่องในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ผมรู้สึกภูมิใจ ตื่นเต้น และมีความยินดีอย่างยิ่งที่เราเดินมาถึงจุดนี้ที่จะช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” Christoph Gebald ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Climeworks ระบุในแถลงข่าวของบริษัทในการเปิดตัวโรงงานดังกล่าวออร์ก้าได้กลายเป็นความจริงซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก

เว็บไซต์ Gizmodo อธิบายว่าโรงงานดังกล่าวทำงานโดยใช้ระบบสุญญากาศอุตสาหกรรมดูดเอาแก๊สเรือนกระจกจากชั้นบรรยากาศ แก๊สเหล่านั้นจะถูกกักเก็บไว้ใต้ดินและจะกลายเป็นหินภายในระยะเวลาประมาณสองปี Climeworks กล่าวว่าโรงงานนี้จะสามารถดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ 4,000 ทัน (tonne) ซึ่งคิดเป็นประมาณ 4,409 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ในแต่ละปี เทียบเท่ากับการปล่อยแก๊สเรือนกระจกของรถยนต์ 870 คัน

การก่อสร้างโรงงานนี้เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมปีพ.. 2563 โดย Climeworks ระบุว่าใช้อาคารขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ที่เชื่อมต่อกันได้นั่นหมายความว่าโรงงานแบบนี้สามารถสร้างได้ภายในระยะเวลา 15 เดือน Climeworks ระบุว่ามีแผนจะใช้วิธีก่อสร้างแบบเดียวกันนี้เพื่อสร้างโรงงานในพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต

ออร์ก้าคือหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมดักจับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศโดยตรง รวมทั้งเป็นต้นแบบที่สามารถขยายได้ มีความยืดหยุ่น และสามารถลอกเลียนแบบได้เพื่อง่ายต่อการขยับขยายของ Climeworks ในอนาคต Jan Wurzbacher ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทระบุในแถลงการณ์ด้วยความสำเร็จนี้ เราเตรียมพร้อมที่จะเพิ่มความสามารถในการดักจับในปีหน้า การบรรลุเป้าหมายปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยออร์ก้า เราเชื่อว่า Climeworks ช่วยให้เราเข้าใกล้จุดมุ่งหมายไปอีกก้าว

มีการถกเถียงกันพอสมควรเรื่องเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เนื่องจากมันราคาสูงมาก และนักวิจารณ์มองว่ามันอาจใช้เวลานานในการก่อสร้างกว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ Climeworks ระดมเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายจากบริษัทและบุคคลากรที่ต้องการใช้เงินหักกลบการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ของตัวเอง เว็บไซต์ของบริษัทมีกระทั่งแผนสมัครสมาชิกเพื่อลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก

หลายคนกังวลว่าเทคโนโลยีใหม่อาจทำให้ธุรกิจและภาครัฐหันเหความสนใจจากความพยายามลดและขจัดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก อย่างไรก็ดีคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (the Intergovernmental Panel on Climate Change) ระบุว่าทั้งเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอนและการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกต่างก็มีความจำเป็นในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกินสององศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงปารีส

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องรู้สำหรับการดักจับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศคือ มันไม่สามารถทดแทนการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกได้ David Morrow ผู้อำนวยการด้านการวิจัยจาก Institute for Carbon Removal Law and Policy มหาวิทยาลัยอเมริกันให้สัมภาษณ์กับ Gizmodo “แน่นอนว่ามันเป็นกลไกส่วนเสริมที่สำคัญในการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก แต่ไม่ใช่ว่าจะมาใช้ทดแทนกันได้

 


ถอดความและเรียบเรียงจาก World’s Largest Carbon Capture Plant Begins Running in Iceland

ผู้เขียน

+ posts

บัณฑิตการเงินและการบัญชีที่สนใจความเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน เขียน เรียนคอร์สออนไลน์ และเลี้ยงลูกชายวัยกำลังน่ารัก