หมื่นสปีชีส์เสี่ยงสูญพันธุ์ พืชและสัตว์ในป่าแอมะซอนกำลังตกอยู่ในอันตราย

หมื่นสปีชีส์เสี่ยงสูญพันธุ์ พืชและสัตว์ในป่าแอมะซอนกำลังตกอยู่ในอันตราย

การตัดไม้ทำลายป่า การทำเหมือง ไฟป่า เหล่านี้คือภัยคุกคามที่กำลังกัดกินผืนป่าแอมะซอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ผลจากการกระทำทำให้ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาผืนป่าแอมะซอนในเขตประเทศบราซิล กลายเป็นแหล่งปล่อยคาร์บอนมากกว่าที่เก็บกักได้

หักล้างความเชื่อเก่าที่บอกว่าแอมะซอนเป็นปอดของโลกไปโดยสิ้นเชิง

แต่ในงานวิจัยใหม่ที่เพิ่งเผยแพร่มาล่าสุด ได้ขยายภาพความหายนะที่มากกว่านั้น

นักวิจัยพบว่า ป่าแอมะซอนกำลังสูญเสียพืชและสัตว์มากกว่า 10,000 สายพันธุ์ที่อาจจะนำไปสู่สถานะสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้

การทำลายล้างอย่างต่อเนื่องที่เกิดจากการแทรกแซงของมนุษย์ ทำให้พืชเฉพาะถิ่นมากกว่า 8,000 ชนิดและสัตว์ 2,300 ตัวมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์

และมีความเป็นไปได้ว่า 35% ของสิ่งมีชีวิตในผืนป่าแห่งนี้อาจสูญพันธุ์จากหน้าที่ไปแล้ว

รายงานใหม่นี้จัดทำโดย Science Panel for the Amazon (SPA) โดยรวบรวมงานวิจัยเกี่ยวกับป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากนักวิทยาศาสตร์ 200 คนจากทั่วโลก

เป็นการประเมินที่ละเอียดที่สุดเกี่ยวกับสภาพแอมะซอนในปัจจุบัน

รายงานระบุว่า การทำลายล้างแอมะซอนอาจทำให้ป่าแห่งนี้ไม่เหลืออะไรเลยภายในเวลาไม่ถึงทศวรรษ

ภายใต้หมายเหตุว่า หากไม่ฟื้นฟูดูแล และปล่อยปะปัญหาให้ดำเนินต่อไป

ในบราซิล การตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ประธานาธิบฌาอีร์ โบลโซนาโร เข้ารับตำแหน่งในปี 2019

ในปี 2020 บราซิลเสียพื้นที่ป่าไป 1.7 ล้านเฮกตาร์

โบลโซนาโร อนุญาตให้มีการทำเหมืองและเกษตรกรรมในพื้นที่คุ้มครองของแอมะซอน

และลดทอนอำนาจงานบังคับใช้กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมให้อ่อนแอลง

ส่งผลให้เกิดการทำลายล้างเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านโคลอมเบียเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานว่าการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2020

โดยเกือบ 64% เกิดขึ้นแอมะซอน

คุกคามและระรานกันอย่างต่อเนื่อง

ในวันที่ป่าแห่งนี้ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดินและพืชพรรณในแอมะซอนมีคาร์บอนประมาณ 2 แสนล้านตัน มากกว่าการปล่อยคาร์บอนฯ ประจำปีของโลกถึงห้าเท่า

ทว่าการทำลายล้างได้ลบความสามารถของป่าฝนในการทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนฯ ไปหมดเสียแล้ว

 


อ้างอิง

ผู้เขียน

Website | + posts

โซเชียลมีเดียที่เขียนบันทึกประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคแอนโทโปรซีน