ฮานาโกะ เป็นช้างเอเชีย (Asian elephant) เพศเมีย จากประเทศไทย โดยเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจาก ร้อยเอกสมหวัง สารสาส ผู้ซึ่งมีความผูกพันกับประเทศญี่ปุ่น ได้ซื้อลูกช้างวัย 2 ขวบ จำนวน 1 เชือก ส่งไปให้สวนสัตว์ Inokashira Park Zoo ในปี ค.ศ. 1949 ณ กรุงโตเกียว เพื่อเป็นการปลอบโยนเด็กๆ ที่ต้องหวาดกลัวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พึ่งจบไป ทางสวนสัตว์ได้ตั้งชื่อให้ว่า ‘ฮานาโกะ’ แปลว่า ‘ดอกไม้เด็กเพศหญิง’ (flower child) แต่ชื่อเดิมของฮานาโกะคือ ‘พังคชา’ และผู้ดูแลชาวญี่ปุ่นก็เคยเรียกเธอว่า ‘คชาโกะ’
ระหว่างที่ฮานาโกะใช้ชีวิตอยู่ในสวนสัตว์ Inokashira Park Zoo ในโตเกียว เรื่องราวชีวิตของเธอช่างน่าเศร้า สะท้อนถึงความเหงาและความสิ้นหวังอันลึกซึ้งที่อาจเกิดกับสัตว์ที่ถูกกักขังอยู่เพียงเชือกเดียวในคอกคอนกรีตที่มีพื้นผิวแข็งเย็นและล้อมรอบด้วยรั้วไฟฟ้า ปราศจากองค์ประกอบทางธรรมชาติ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจที่ชัดเจนถึงชีวิตที่ถูกกักขังอย่างโดดเดี่ยวในสภาพอากาศที่ต่างออกไปจากแหล่งกำเนิด เป็นสัญลักษณ์ของความเหงาและความทุกข์ทรมานสุดขีดที่สัตว์ในกรงต้องเผชิญ
สิ่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสภาพแวดล้อมทางสังคมและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์และซับซ้อนของช้างที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ในป่าที่สามารถตระเวนออกไปในระยะทางอันกว้างใหญ่ มีชีวิตด้วยการถักทอสายใยเข้าด้วยกันเสมือนผืนผ้าแห่งความผูกพันของครอบครัว แบ่งปันความสุขและความเศร้าโศกจากเครือข่ายทางสังคมที่สลับซับซ้อนของช้าง
เรื่องราวชีวิตของ ฮานาโกะ ที่ถูกกักขังเข้าถึงใจผู้คนทั่วโลก และดึงความสนใจไปที่ความเป็นจริงอันโหดร้ายที่สัตว์หลายชนิดต้องเผชิญในสวนสัตว์ สถานการณ์ของเธอกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์และข้อพิจารณาทางจริยธรรมในการเลี้ยงสัตว์ในกรง ผู้คนที่สนับสนุนอิสรภาพของเธอต่างโต้เถียงกันอย่างกระตือรือร้นให้เธอย้ายไปยังสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งเธอสามารถเดินบนพื้นหญ้า อาบแดด และบางทีในวาระสุดท้ายของชีวิตเธอจะได้จากไปอย่างสงบบนผืนแผ่นดินเกิด
ฮานาโกะผูกพันกับผู้ดูแลสวนสัตว์ของเธอมาก เพราะเธอไม่มีเพื่อนช้างตัวอื่น เวลา 20 นาที วันละสองครั้งที่พวกเขาแปรงฟันและให้นมเธอ นอกเหนือจากนั้นนหมายความว่าเธอถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังนานกว่า 23 ชั่วโมงต่อวัน
แม้จะมีคำวิงวอนเหล่านี้ แต่ความท้าทายในการย้ายช้างสูงอายุออกไปจากกรงขังนี้ก็ไม่บรรลุผลด้วยปัจจัยหลายอย่าง
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 ฮานาโกะจากไปอย่างสงบเนื่องจากความชรา ด้วยวัย 69 ปี อย่างโดดเดี่ยวในคอกคอนกรีตแคบๆ บนผืนแผ่นดินของญี่ปุ่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นช้างเชือกที่อายุมากที่สุดในญี่ปุ่นตอนนั้น และการตายของเธอถือเป็นเครื่องเตือนใจถึงความโดดเดี่ยว การขาดอิสระที่สัตว์ในกรงต้องพบเจอ
แม้ว่าฮานาโกะจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวของเธอยังคงยังคงอยู่เพื่อเตือนใจถึงความความเป็นจริงของการกักขังสัตว์ และตั้งคำถามถึงรากฐานทางศีลธรรมของกฎหมายที่ให้ความสำคัญแต่เพียงมนุษย์ เพื่อไตร่ตรองและเปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อมที่เคารพในศักดิ์ศรีโดยธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด และยอมรับแนวทางที่มีความเห็นอกเห็นใจและมีจริยธรรมมากขึ้นในการดูแลสัตว์เลี้ยงในกรง อาทิ ช้างเป็นสัตว์ที่ชอบเข้าสังคม ฉลาด และมีความรู้สึกที่ซับซ้อน มีโครงสร้างการอยู่ร่วมกันเป็นฝูงป่า ช้างถูกเลี้ยงไว้ตามลำพังและขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมตามธรรมชาติ ก็ไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็น
เรื่องราวของฮานาโกะซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “ช้างที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เป็นอนุสรณ์สถานของโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นตามมาเมื่อเราไม่ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตในทุกรูปแบบ มันเรียกร้องให้เราเป็นพยาน จดจำ และต่อสู้เพื่ออนาคตที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดต้องทนต่อชะตากรรมเช่นเธอ
อ้างอิง
- ฮานาโกะ : ช้างไทยผู้โดดเดี่ยวที่สุดในโลก ที่ถูกส่งไปเยียวยาหัวใจเด็กญี่ปุ่น
- Hanako the Elephant: 61 Years (and Counting) Alone in a Concrete Prison
- The world’s loneliest elephant, Hanako, lived ALONE for over 60 years in a barren, concrete prison
- Hanako the elephant
ผู้เขียน
ชายหนุ่มผู้หลงไหลในกาแฟไม่ใส่น้ำตาล รักการเดินทางไปกับสินค้าของแบรนด์ Patagonia