ป่าแอมะซอน จะได้กลับมาทำหน้าที่ปอดของโลกอีกครั้ง หลังจากความกังวลของนักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อมมากมายจากพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลบราซิลได้ออกมาเผยว่า ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนลดลงมากถึง 68% นับเป็นอีกหนึ่งข่าวที่น่ายินดีของโลกเรา
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าว Reuters ได้เผยแพร่ข้อมูลจาก หน่วยงานวิจัยอวกาศ Inpe (National Institute for Space Research) ที่ได้นำเสนอตัวเลขรายงานสถานการณ์พื้นที่ป่าที่ถูกทำลายไปในช่วงเดือนเมษายนอยู่ที่ 328.71 ตารางกิโลเมตร ซึ่งปกติแล้วค่าเฉลี่ยเดิมจะอยู่ที่ประมาณ 455.75 ตารางกิโลเมตร
สถานการณ์ป่าแอมะซอนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานอย่างเป็นรูปธรรมของ นายลูลา (Luiz Inacio Lula da Silva) ประธานาธิบดีคนล่าสุดของบราซิลที่พึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่ผ่านมา ในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งเขาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าลงให้ได้
ทำไมการยกเรื่องป่าแอมะซอนขึ้นมาพูดถึงได้รับความสนใจมาโดยตลอดนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้สมัยของประธานาธิบดีโบลโซนาโร (Jair Bolsonaro) ได้ตัดเงินทุนและลดเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมลง พร้อมกับสนับสนุนให้มีการทำฟาร์มและเหมืองแร่บนพื้นที่คุ้มครองเพิ่มมากขึ้น ทำให้ในสมัยของนายลูลา หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอย่าง IBAMA (Brazilian Institute of Environment and Renewable Natural Resources) ประสบกับปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ดี นายลูลาก็สามารถทำได้ตามที่เขากล่าวไว้ จากตัวเลขพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายลดลงจากค่าเฉลี่ยเดิม ทำให้พื้นที่ป่าทำลายในปีนี้ลดลงไปกว่า 40.4% เหลือเพียง 1,173 ตร.กม.
ทั้งนี้นายลูลากล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่ไม่เป็นเพียงการปกป้องสิ่งแวดล้อมทั่ว ๆ ไป แต่มันคือส่วนหนึ่งของการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อให้บรรลุพันธสัญญาที่จะยุติการตัดไม้ทำลายป่าให้หมดไปภายในปี 2573
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ายังเร็วไปที่กล่าวว่าแนวโน้มการตัดไม้ลดลงแล้ว เนื่องจากรัฐบาลยังไม่พ้นช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการตัดไม้ทำลายป่าสูงสุดที่สุดในแต่ละปี อย่างไรก็ตามนี่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีหลังจากที่ตัวเลขการทำลายป่าพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
แดเนียล ซิลวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ของ WWF-Brasil กล่าวว่า “มีหลายปัจจัยที่มีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขพื้นที่ป่าแอมะซอน รัฐบาลเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ถึงแม้ว่าวาระด้านสิ่งแวดล้อมจะกลับมาดำเนินการอย่างจริงจังอีกครั้ง แต่เราก็ต้องใช้เวลาพอสมควร เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ออกมามากขึ้น”
นอกจากเรื่องพื้นที่ป่าแล้ว นายลูลายังให้ความสำคัญกับชนพื้นเมืองในผืนป่าด้วย โดยเขาได้รับรองดินแดนของชนพื้นเมืองอย่างถูกกฎหมาย ร่วมกับการเพิ่มตำแหน่งงานในกระทรวงสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่นของชนพื้นเมืองอย่าง Funai ด้วย ซึ่งนี้ถือเป็นการยกเลิกนโยบายด้านการใช้ประโยชน์ในที่ดินของชนพื้นเมืองในนการทำฟาร์มและทำเหมืองของนายโบลโซนาราด้วย
การที่พื้นที่โล่งเตียนของป่าแอมะซอนลดลงนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง อย่างที่ทราบกันว่าป่าแอมะซอนมีความสำคัญต่อโลกของเราอย่างมาก เพราะมันสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว ๆ 2 พันล้านตันต่อปี และยังช่วยผลิตออกซิเจนกลับสู่โลกกว่า 20% ถ้าวันหนึ่งป่าผืนนี้หายไป นั่นหมายความว่าโลกของเรากำลังก้าวขาเข้าสู่วิกฤตอย่างแท้จริง
ในอนาคตเราอาจต้องติดตามกันต่อไปว่านายลูลานั้นจะสามารถลดตัวเลขการตัดไม้ลงได้อีกหรือไม่ ถ้าสามารถทำได้จริง ก็เป็นที่น่าสนใจว่าโมเดลการจัดการผืนป่านั้นอาจมาประยุกต์กับผืนป่าของประเทศเราได้ด้วยเช่นกัน “เพื่อรักษาผืนป่าเอาไว้ ก่อนที่จะไม่เหลืออะไรเลย”
อ้างอิง
- Deforestation in Brazil’s Amazon falls 68% in April, first major drop under Lula
- ภาพประกอบ Renaldo Matamoro
ผู้เขียน
หนุ่มน้อยผู้หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบ ออกเดินทางเพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ และชอบอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจ
