สวีเดนบรรลุเป้าหมาย ปิดโรงงานไฟฟ้าถ่านหินแห่งสุดท้ายได้สำเร็จ

สวีเดนบรรลุเป้าหมาย ปิดโรงงานไฟฟ้าถ่านหินแห่งสุดท้ายได้สำเร็จ

ในขณะที่หลายประเทศกำลังล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายเรื่องการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่สวีเดนกลับทำให้หลาย ๆ ประเทศกำลังรู้สึกขายหน้า นั่นไม่ใช่เพราะว่าประเทศนอร์ดิกได้สร้างคนอย่าง Greta Thunberg หากเพราะสวีเดนเพิ่งทำการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหลือเป็นแห่งสุดท้ายลงได้สำเร็จ ก่อนเป้าหมายเดิมถึง 2 ปี

โรงไฟฟ้าพลังความร้อน KVV6 ใน Värtaverket ซึ่งตั้งอยู่ที่ Hjorthagen ทางตะวันออกของกรุงสตอกโฮล์ม ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 อ้างอิงข้อมูลจาก Stockholm Exergi บริษัทพลังงานท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของโรงงาน และเป็นเจ้าของร่วมกับเทศบาลสตอกโฮล์ม และ Fortum บริษัทด้านพลังงานของประเทศฟินแลนด์ที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วยุโรปและเอเชีย

จากคำอธิบายของบริษัท Stockholm Exergi บริษัทมีแผนปิดหม้อไอน้ำสองตัวก่อนฤดูหนาวปี 2562-2563 และเนื่องจากฤดูหนาวที่ไม่รุนแรง บริษัท Stockholm Exergi จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้พลังงานจากแหล่งสำรอง ซึ่งหมายความว่า บริษัทสามารถปิดโรงงานได้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนเวลาเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะปิดในปี 2565

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของ COVID-19 มีผลกระทบต่อการใช้พลังงานของสวีเดนในช่วงที่ผ่านมา เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ อย่างสหราชอาณาจักรที่เพิ่งทำลายสถิติการใช้พลังงานในประเทศโดยไม่พึ่งพาพลังงานจากถ่านหินได้นานกว่า 18 วัน

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในช่วงนี้สภาพอากาศกำลังดี การใช้พลังงานในครัวเรือนจึงไม่สูงมากนัก แต่เหตุผลหลัก ๆ มาจากเหตุที่ผู้คนใช้พลังงานกันน้อยลงระหว่างการระบาดของ COVID-19 หลายพื้นที่มีมาตรการกักกันการใช้ไฟฟ้าของผู้คนลดน้อยลง รถราไม่วุ่นวายขวักไขว่ ภาพรวมการใช้พลังงานจึงลดลงเป็นเงาตามมา

ในแถลงการณ์ของ Anders Egelrud ซีอีโอ Stockholm Exergi เขาบอกว่า เป้าหมายของพวกเขาคือการผลิตทั้งหมดของบริษัทจะมาจากพลังงานหมุนเวียนหรือการพลังงานรีไซเคิล “โรงงานแห่งนี้ได้มอบพลังงานความร้อนและไฟฟ้าให้แก่กรุงสตอกโฮล์มมาเป็นเวลานาน วันนี้เราทราบดีว่าเราต้องหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมด ดังนั้น โรงไฟฟ้าถ่านหินจะต้องถูกยกเลิก และเราสามารถทำได้สำเร็จก่อนแผนเดิมของเราหลายปี”

“นับจากเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว กรุงสตอกโฮล์มทั้งหมดต้องพึ่งพาพลังงานทั้งหมดจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และตอนนี้เรากำลังก้าวออกไปพ้นจากความเป็นเมืองคาร์บอนฯ ทั้งยังก้าวไปสู่ระบบการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานรีไซเคิล” ซีอีโอบริษัทกล่าวเสริม

ในปี 2561 ร้อยละ 54.6 ของพลังงานที่ใช้ในประเทศสวีเดนมาจากพลังงานหมุนเวียน แม้ว่าตัวเลขนี้ยังห่างไกลเป้าหมายของประเทศที่ต้องการให้เป็นพลังงานหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม แต่ก็นับว่าสวีเดนเดินมาไกลมาประเทศอื่น ๆ มาก เปรียบเทียบได้กับสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนของสหรัฐอเมริกาในปี 2561 ที่มีเพียงร้อยละ 11 เท่านั้น ตามข้อมูลของ U.S. Energy Information Administration

ตามรายงานของสื่อมวลชน สวีเดนได้กลายเป็นชาติที่สามในยุโรปที่สามารถลดการพึ่งพาพลังงานจากถ่านหินได้สำเร็จ ต่อจากประเทศเบลเยี่ยมที่ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งสุดท้ายไปเมื่อปี 2559 และประเทศออสเตรียที่ได้กล่าวคำอำลาไปยังโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งสุดท้ายเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ซึ่งหวังว่า จากที่ทั้งสามประเทศในยุโรปสามารถปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินลงได้สำเร็จ จะกลายเป็นตัวอย่างให้ประเทศอื่น ๆ ทั่วทุกมุมโลก เพิ่มความพยายามเพื่อดำเนินไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

 


เรื่อง : เอกวิทย์ เตระดิษฐ์
เรียบเรียงจาก Two Years Early, Sweden Shuts Down Its Final Coal-Fired Power Plant
ภาพเปิดเรื่อง Flickr / Tony Webster