การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำในมหาสมุทร กำลังสร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงให้กับระบบนิเวศทางทะเล
ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในทันที คือ การอพยพย้ายถิ่นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก เพื่อเข้าไปอาศัยในน่านน้ำที่มีอุณหภูมิพอเหมาะกับการดำรงชีวิต
แต่เมื่อสิ่งมีชีวิตหายไปจากที่หนึ่ง ระบบนิเวศตรงนั้นก็เปลี่ยนไป ชีวิตของมนุษย์เราเองก็ได้รับผลกระทบตามด้วย
เป็นต้นว่า จากที่เคยจับปลาได้คราวละมากๆ ที่ทะเลหน้าบ้าน ก็อาจจับได้น้อยลง หรือต้องออกเรือไกลขึ้น สิ้นเปลืองพลังงานที่ใช้เดินทางมากขึ้น
ในกรณีการอพยพย้ายถิ่นสัตว์ทะเลที่นักวิทยาศาสตร์และนักนิเวศวิทยาทางทะเลกังวลกันมาก คือ การย้ายถิ่นที่อยู่ของฉลามขาว
ตั้งแต่ปี 2014 ความร้อนในมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมาสู่จุดสูงสุดในปี 2020 ทำให้ฉลามขาววัยละอ่อนจำนวนหนึ่งนอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย อพยพไปทางเหนือ 600 กม. สู่น่านน้ำที่เย็นกว่าแถบอ่าวมอนเทอเรย์ – ซึ่งเป็นบ้านอันแสนสงบสุขของนากทะเลมานมนาน
พอมีฉลามเข้าไปพัวพันอยู่ด้วยกัน จำนวนนากทะเลกลับลดลงถึง 86% เพราะถูกฉลามฆ่า
นักวิทยาศาสตร์อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เป็นผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และเป็นความผิดของมนุษย์ที่ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง จนอุณหภูมิน้ำในมหาสมุทรร้อนขึ้น
ไม่ใช่ความผิดของฉลามขาวแต่อย่างใด
เมื่อนักล่าต้องย้ายไปอยู่ที่แห่งใหม่ ทำให้พวกมันได้พบเจอเหยื่อชนิดใหม่ๆ มากขึ้น นำไปสู่การล่าที่ไม่เคยมีมาก่อน และนั่นจะทำให้ระบบนิเวศแถบนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
โดยเฉพาะฉลามขาวที่ถูกจัดให้อยู่ในฐานะสัตว์ผู้ล่าลำดับต้นๆ ของห่วงโซ่อาหาร การเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่ ย่อมนำไปสู่ผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง
จากการติดตามการอพยพของฉลามหนุ่มฝูงดังกล่าว ยังทำให้นักวิทยาศาสตร์พบเรื่องน่ากังวลอีกอย่าง – เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลลดลงแล้ว ฉลามฝูงนั้นกลับไม่ยอมย้ายไปอยู่บ้านเก่า ยังคงสะบัดครีบอย่างสบายอารมณ์อยู่ในที่อยู่ใหม่
และอาจหมายความว่า สมดุลของนิเวศทางทะเลจะพังทลายลงถึงสองแห่ง
นอกจากฉลามแล้วยังมีสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรอีกมาก ที่มีส่วนร่วมในการทำลายสมดุล เนื่องจากมีปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นผู้ผลักดัน
ในบางกรณีอาจไม่ใช่สัตว์น้ำทุกตัวที่ย้ายถิ่นแล้วสามารถอยู่รอดได้อย่างฉลามขาว ตรงกันข้าม การย้ายถิ่นอาจทำให้สถานะเหยื่อของสัตว์บางชนิดถูกผลักเข้าสู่คมเขี้ยวของสัตว์ผู้ล่าได้ไวขึ้น
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทำให้การกระจายทรัพยากรตามธรรมชาติในเรื่องอาหาร “หยุดชะงัก” เนื่องจากเกิดการต่อสู้แข่งขันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สิ่งที่เลวร้ายที่สุด สัตว์บางชนิดอาจไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ หากสัตว์เหล่านั้นเอาตัวรอดไม่ได้ จำนวนสัตว์ทะเลจะลดลงอย่างแน่นอน
อ้างอิง
ผู้เขียน
โซเชียลมีเดียที่เขียนบันทึกประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในยุคแอนโทโปรซีน