จากเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ได้ให้ข้อมูลความคืบหน้าและกรอบเวลาในการสรุปสำนวนคดีนายเปรมชัย กรรณสูต เข้าป่าล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก
พล.ต.ท.กิตติพงษ์ ระบุว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 8 มี.ค.นี้ เรียกพนักงานสอบสวนติดตามความคืบหน้าคดี และเรียกเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สอบข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ 12 มี.ค. 2561 และจะแล้วเสร็จส่งสำนวนให้อัยการได้ก่อนวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งเป็นวันครบฝากขังครั้งที่ 4 ที่นายเปรมชัยและพวกต้องไปรายงานตัวต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ
ขั้นตอนต่อจากนี้จะเป็นการพิจารณาสั่งคดีของอัยการ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายว่า นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า หากสำนวนการสอบสวนของตำรวจครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประเด็น ก็จะใช้ระยะเวลาพิจารณาไม่เกิน 1 เดือน
แต่หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอความเป็นธรรม อัยการต้องหยิบประเด็นที่ขอมาพิจารณาประกอบด้วย เช่น
- หากสำนวนการสอบสวนไม่ครบถ้วนอัยการก็จะส่งสำนวนคืนให้ตำรวจไปสอบสวนเพิ่ม
- หากเกิดความล่าช้าก็จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้เร่งสอบสวนโดยเร็ว
- หากปล่อยให้ล่าช้าโดยไม่มีเหตุสมควรก็เข้าข่ายมีความผิดปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
และโดยระเบียบการสอบสวนกำหนดว่า ตำรวจต้องส่งสำนวนให้อัยการภายใน 12 วัน ก่อนครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย เพื่อให้พนักงานอัยการมีเวลาพิจารณา
สรุปข้อกล่าวหานายเปรมชัยตั้งแต่เหตุการณ์จนถึงขณะนี้ ยังคงประกอบด้วย 9 ข้อหาเดิมที่แจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมอ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ประกอบไปด้วย
1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
4. ฐานร่วมกันพยามยามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
5. ฐานร่วมกัน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
6. ฐานร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของ กฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
7. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
8. ฐานรวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
9. สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490
นอกจากนี้จะแจ้งเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย
1. ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
จากการตรวจสอบงาช้างที่บ้านของนายเปรมชัย โดยกองนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบว่า งาช้าง 4 กิ่ง ได้จดทะเบียนไว้ในชื่อของภรรยาของนายเปรมชัย คือ นางคณิตา วิทยานันท์ (ว่าเป็นงาช้างเอเชีย) ซึ่งเดิมกรมอุทยานฯ ได้เตรียมแจ้งข้อหาต่อนางคณิตา แต่เนื่องจากงาช้างที่พบ ปรากฎอยู่ภายในบ้านของนายเปรมชัย แม้ชื่อจดแจ้งจะเป็นชื่อของภรรยาก็ตาม นั้นหมายความว่า นายเปรมชัยรู้เห็นถึงการมีอยู่ของงาช้างภายในบ้าง จึงสามารถแจ้งความร่วมกันในข้อหานี้ได้
2. ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
สำหรับข้อหาผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พบว่า ปืนบางกระบอก ที่ตรวจพบที่บ้านของนายเปรมชัยก่อนหน้านี้ มีนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ (ดูเพิ่มเติม)
2 ข้อหาข้างต้นนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บุกค้นบ้านนายเปรมชัย เมื่อวันที่ 7 ก.พ.
3. ให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ
ในส่วน ข้อหาติดสินบน ที่จะมีการแจ้งเพิ่มนั้น กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เป็นผู้ดูแลในส่วนข้อกล่าวนี้ ได้สอบปากคำนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในฐานะผู้กล่าวหา เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย ปปป.จะสรุปผลการสอบปากคำเสนอผู้บังคับบัญชา ในวันที่ 12 มีนาคมนี้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชา รับทราบและพิจารณาออกหมายเรียกนายเปรมชัยมารายงานตัวต่อไป
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร