กลุ่มองค์กรสิ่งแวดล้อม ประกอบไปด้วย กรีนพีช ประเทศไทย กลุ่ม บิ๊กทรี และเฟสบุ๊คแฟนเพจคนอนุรักษ์ ได้ส่งจดหมายถึงนายไกรสร จิตรธรธรรม ประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เสนอให้ยุติบทบาทการบริหารงานของนายเปรมชัย อันสืบเนื่องมาจากกรณีล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
เนื้อความในจดหมายได้ระบุข้อเสนอถึงนายไกรสร จิตรธรธรรม ประธานกรรมการถึงกรณีของนายเปรมชัยว่า นายเปรมชัยได้ละเมิดบรรษัทภิบาลของบริษัทที่ระบุว่า “ผู้บริหารไม่กระทำการใดๆ ที่จะมีผลเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม” จึงสมควรที่จะให้ลูกจ้างคนอื่นเข้ามาดำเนินการแทน และต้องพิจารณากรณีนายเปรมชัยในฐานะลูกจ้างพนักงานของบริษัท ไม่ใช่ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งจากการที่บริษัทยังละเลยต่อความรู้สึกของสังคมและต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะนำไปสู่ความเสียหายของผู้ถือหุ้นรายอื่น พนักงาน และความสัญญาการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ทางกลุ่ม ยังกดดันให้บริษัทมีการตัดสินใจยุติบทบาทการบริหารงานของนายเปรมชัยในทันที ไม่ควรรอให้เรื่องเงียบหรือรอให้มีการตัดสินคดีเสร็จสิ้นก่อน เพราะการชลอเรื่องเพื่อปกป้องความผิดจะยิ่งทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นที่เสื่อมเสียของบริษัทและวงศ์ตระกูล เหมือนอดีตผู้นำประเทศหลายคน เช่นกรณีเหตุการณ์ล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ปี พ.ศ. 2516 จนนำไปถึงการปฏิวัติของประชาชนที่ล้มผู้นำประเทศเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
จดหมายถึงประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561
เรียน อาจารย์ ไกรสร จิตรธรธรรม ประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
เรื่อง ข้อเสนอแนะในการจัดการกรณีนายเปรมชัย ถูกจับข้อหาล่าเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
ท่านคงจะทราบดีถึงความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศดังที่เป็นข่าว ต่อการล่าเสือดำอันเป็นสัตว์สงวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก ท่านคงจะทราบดีถึงความโกรธแค้นของประชาชนชาวไทยได้มีมากขึ้นเป็นเท่าทวีเพราะว่าการล่านี้ไม่ได้เข้าป่าล่าสัตว์ไปเพื่ออาหารเลี้ยงชีวิตของตาสีตาสาจนๆ แต่เกี่ยวข้องกับผู้มั่งมี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถึงแม้ขบวนการพิสูจน์ความผิดทางกฎหมายของนายเปรมชัยยังไม่ได้เป็นที่สิ้นสุด แต่ก็มีความเกี่ยวพันอย่างปฏิเสธไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในฐานะที่ท่านเป็นประธานบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนายเปรมชัยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารสูงสุด ในขณะที่สังคมกำลังทวงถามความรับผิดชอบของคณะกรรมการที่มีท่านเป็นประธาน ท่านคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระทำของนายเปรมชัยไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัทและคณะกรรมการ เพื่อปกป้องผู้ถือหุ้นท่านอื่นและพนักงานของบริษัท ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการกระทำอันน่าละอายนี้ จึงขอนำเสนอแนวทางเพื่อให้ท่านได้พิจารณาดังนี้
1. คณะกรรมการจะต้องพิจารณากรณีนายเปรมชัยในฐานะลูกจ้างพนักงานของบริษัท ไม่ใช่ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ในเมื่อนายเปรมชัยจะต้องมีข้อหาร้ายแรงต้องไปแก้ปัญหา และจะละเมิดบรรษัทภิบาลของบริษัทที่จะให้ผู้บริหารไม่กระทำการใดๆ ที่จะมีผลเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จึงสมควรที่จะให้ลูกจ้างคนอื่นดำเนินการบริษัทต่อไป ตัดตอนไม่ให้เกิดปัญหาติดพันจากปัญหาจากนายเปรมชัย ทางกรรมการมีสิทธิที่จะให้ค่าตอบแทนนายเปรมชัยในการเลิกจ้างหรือพักงานตามความเหมาะสม
2. คณะกรรมการต้องพิจารณาปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อย พนักงาน และของประเทศชาติ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใดรายหนึ่ง หรือผู้บริหารรายใดรายหนึ่ง ในขณะที่ประชาชนและสังคมกำลังกดดันให้บริษัทแสดงความรับผิดชอบอย่างมาก การละเลยไม่ตอบรับความโกรธแค้นของประชาชน จะนำไปสู่ความเสียหายของผู้ถือหุ้นรายอื่น พนักงาน และความสัญญาการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชน
3. คณะกรรมการจะต้องตัดสินใจในทันที เพราะภาระของท่านเป็นการพิจารณาความเสียหายของบริษัทจากความน่าเชื่อถือกับสาธารณชน ไม่สามารถรอผลทางคดี อันจะเป็นการผลักภาระให้เป็นหน้าที่ของตำรวจของศาล ที่พิจารณาความถูกผิดจากหลักฐานที่มี
4. คณะกรรมการสมควรหยุดบทบาทการบริหารงานของนายเปรมชัยโดยทันที ไม่สมควรเลือกหนทางที่จะรอให้เรื่องเงียบหายไป สังคมดิจิตอลในปัจจุบันไม่มีองค์กรใดสามารถหลบความรับผิดชอบได้โดยตลอดไป การชลอเรื่องเพื่อปกป้องความผิดจะยิ่งทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเสื่อมเสียชื่อเสียงตลอดกาล ไม่มีที่ยืนในสังคม ไม่สามารถปรากฏตัวในที่สาธารณะได้อีกต่อไป เป็นที่เสื่อมเสียของบริษัทและวงศ์ตระกูล เหมือนอดีตผู้นำประเทศหลายคน
อาจารย์และกรรมการอิสระท่านอื่น คงยังจำเหตุการณ์ล่าสัตว์สงวนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในปี พ.ศ. 2516 ได้ดี จากการที่ผู้นำประเทศที่ทรงอำนาจในยุคนั้น ปกป้องผู้กระทำผิด คิดว่าอำนาจของตนล้นฟ้า จนนำไปถึงการปฏิวัติของประชาชนที่ล้มผู้นำประเทศเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในเวลาไม่กี่เดือน เวลาที่ผ่านไป 45 ปี ในยุคดิจิตอลทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลอย่างมาก ไม่มีอะไรที่จะซ่อนหลบไปได้ ความโกรธแค้นไปเร็วเหมือนไฟป่า หากท่านจะปล่อยให้ชื่อเสียงความเป็นอยู่ของบริษัทและกรรมการทุกท่าน โดนเผาผลาญให้ย่อยยับเป็นบริษัทแรกของประเทศไทย เป็นตัวอย่างในประวัติศาสตร์ถึงพลังของมวลชน ท่านจึงน่าที่จะรีบดำเนินการก่อนที่จะสายเกินที่จะแก้ไขได้ทัน
ลงชื่อ
กรีนพีซ ประเทศไทย (Green Peace Thailand: www.greenpeace.org/seasia/th)
เพจคนอนุรักษ์ (www.facebook.com/Khonanurak)
เพจบิ๊กทรี (www.facebook.com/BIGTreesProject)