รู้จัก เกรต้า ธันเบิร์ก เด็กสาววัย 16 ปี กับคำตำหนิผู้นำโลกของเธอ – “พวกคุณขโมยความฝันและวัยเด็กของเราด้วยคำพูดจอมปลอม”

รู้จัก เกรต้า ธันเบิร์ก เด็กสาววัย 16 ปี กับคำตำหนิผู้นำโลกของเธอ – “พวกคุณขโมยความฝันและวัยเด็กของเราด้วยคำพูดจอมปลอม”

เกรต้า ธันเบิร์ก เด็กสาววัย 16 ปี ที่วันนี้ทั่วโลกให้ความสนใจการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เธอเรียกร้องให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อโลก ให้ผู้นำโลกหันมาสนใจแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เธอถูกพูดถึงในวงการสิ่งแวดล้อมมาสักพักผ่านกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อเเก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ Climate Change ซึ่งเธอมองว่านี่คือภัยคุกคามรุนแรงที่จะส่งผลกระทบต่อโลก ดังนั้นมนุษยชาติจะนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้แล้ว

เกรต้าได้ยินเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 8 ปี (ค.ศ. 2011) ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นกับโลก หนึ่งปีต่อมาเธอเริ่มให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง แรงบันดาลใจของเกรต้าคือ “เรื่องการประหยัดพลังงาน” เธอถูกสอนให้ปิดไฟเพื่อประหยัดพลังงาน ถูกสอนให้นำกระดาษกลับมาใช้ใหม่ พยายามใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามว่า “หากมนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกได้จริง แต่ทำไมกลับไม่มีใครสนใจและไม่มีใครพูดถึง”

ความคิดเรื่องการเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของเธอเริ่มชัดเจนมากขึ้นเมื่อเกรต้าอายุ 12 ปี เธอแสดงจุดยืนที่จะเลิกการเดินทางด้วยเครื่องบิน โดยให้เหตุผลว่า เครื่องบินสร้างมลพิษทำลายชั้นบรรยากาศได้มากกว่ารถยนต์หลายเท่า และไม่กินเนื้อสัตว์เลยเพราะการทำปศุสัตว์เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหานี้กว่าจะได้เนื้อสัตว์ต้องทำลายป่า เพื่อปลูกพืช เอามาเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการทานพืชผักโดยตรง

วัย 13 ปี เกรต้ายืนกรานให้ครอบครัวของเธอลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต้องเปลี่ยนมาเป็นครอบครัววีแกน และห้ามเดินทางด้วยเครื่องบินเด็ดขาดนั่นหมายความว่าแม่ของเธอต้องเลิกอาชีพนักร้องโอเปร่าระหว่างประเทศ 

ความพยายามของเกรต้าเริ่มต้นจากการตั้งคำถามว่าทำไมมนุษย์ถึงไม่เปลี่ยนแปลงและจะไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องโลกทั้ง ๆ ที่ทำได้ เธอค่อย ๆ เริ่มจากตัวเอง ขยายไปยังคนรอบข้าง และเมื่อเธออายุ 15 ปี เกรต้าออกมาส่งเสียงให้ผู้คนได้ยินความคิดของเธอ ด้วยวิธีการง่าย ๆ ที่เธอทำได้เลย วันที่ 20 สิงหาคม 2018 ซึ่งเป็นวันเปิดเรียน แทนที่เธอจะไปโรงเรียนเหมือนเด็กเกรด 9 คนอื่น ๆ เกรต้าตัดสินใจเดินตรงไปยังรัฐสภา เพื่อชูป้ายที่เขียนว่า “โดดเรียนเพื่อโลก” (Skolstrejk för klimatet) เธอนั่งอยู่ที่นั่นจนถึงเวลาเดียวกับที่เสียงออดเลิกเรียนดัง และค่อยเก็บของเดินกลับบ้านอย่างเงียบ ๆ เธอตัดสินใจหยุดเรียนและออกมาประท้วงที่หน้าอาคารรัฐสภาสวีเดนทุกวัน นาน 3 สัปดาห์ ซึ่งในขณะนั้นเธอเริ่มต้นประท้วงด้วยตัวคนเดียว เธอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน

หลังการเลือกตั้งทั่วไปของสวีเดนสิ้นสุดลง เกรต้า ได้เปลี่ยนจากโดดเรียนทุกวันมาเป็นหยุดทุกวันศุกร์ การประท้วงของเธอเข้มข้นขึ้นเพราะเริ่มมีเด็กคนอื่น ๆ เข้ามาช่วยเธอส่งเสียง ทำให้ความคิด ความเชื่อของเธอขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นกระแส มีเด็กนักเรียนกว่า 20,000 คน ใน 270 เมืองทั่วโลกเข้าร่วมประท้วงเพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาเรื่องโลกร้อนอย่างจริงจัง 

ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน เธอขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกครั้งที่ 24 หรือ COP24 ที่ประเทศโปแลนด์ บางส่วนของสุนทรพจน์เกรต้ากล่าวว่า 

หากเราไม่พุ่งเป้าไปยังสิ่งที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ไม่ใช่สิ่งที่แค่พอจะทำได้ในทางการเมือง เราไม่มีความหวัง

เราไม่มีทางแก้วิกฤตนี้ได้ ถ้าเราไม่ยอมรับว่ามันเป็นวิกฤตการณ์และแก้ปัญหาเหมือนกับเรากำลังอยู่ในภาวะวิกฤต”

เราต้องเก็บเชื้อเพลิงฟอสซิลไว้ในพื้นโลกและมุ่งสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้น

ถ้าระบบที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่มีทางออก บางทีเราจำเป็นต้องสร้างระบบใหม่ขึ้นมา

 

PHOTO : www.theatlantic.com

 

ไม่ต้องฟังฉัน แต่ฟังนักวิทยาศาสตร์ แล้วลงมือทำให้จริงจังเสียที

“ฉันชื่อเกรตา ธันเบอร์ก ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดอะไรให้คนจดจำฉัน แทนที่จะทำอย่างนั้นฉันขอส่งมอบพยานหลักฐานนี้ มันเป็นรายงานจาก IPCC เกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน 1.5 องศาเซลเซียสหรือที่เรียกว่า SR 1.5 ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2018 ฉันส่งมอบรายงานนี้ในฐานะของหลักฐาน เพราะฉันไม่ต้องการให้คุณฟังฉัน แต่ฉันต้องการให้คุณฟังนักวิทยาศาสตร์ ฉันต้องการให้พวกคุณร่วมมือกันทำงานบนฐานของข้อมูลและความรู้ และฉันก็อยากให้คุณลงมือทำอย่างจริงจังเสียที ขอบคุณค่ะ”

นี่เป็นคำพูดของ เกรต้า ธันเบิร์ก ต่อหน้าสภาสูงของสหรัฐอเมริกา (U.S. Congress) วันที่ 18 กันยายน 2562 โดยเธอได้รับโอกาสให้พูดเพียง 5 นาทีเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดประชุม

และเมื่อไม่นานมานี้เกรต้าขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก Climate Action ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ มีผู้นำสำคัญของโลกหลายคนไม่ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ รวมทั้งผู้นำบราซิล และซาอุดีอาระเบีย เธอตำหนิผู้นำนานาชาติว่า ทรยศต่อคนรุ่นเยาว์ด้วยการนิ่งเฉยต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังคุกคามโลก

นี่มันผิดไปหมด ฉันไม่ควรมาอยู่บนเวทีนี้ ฉันควรกลับไปเรียนหนังสือ ในอีกฟากฝั่งของมหาสมุทร แต่พวกคุณก็เดินทางมาหาความหวังจากพวกเรา เยาวชน คุณกล้าดีอย่างไร

คุณขโมยเอาความฝันและวัยเด็กของเราด้วยคำพูดจอมปลอม

“นี่ฉันถือว่าเป็นกลุ่มคนที่โชคดีแล้วนะ ผู้คนอยู่อย่างทรมาน คนบาดเจ็บล้มตาย และระบบนิเวศกำลังล้มลง เรากำลังจะสูญพันธุ์ แต่พวกคุณกลับพูดกันแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ คุณกล้าดีอย่างไร

วิทยาศาสตร์ตอบชัดเจนมากว่า 30 ปีแล้ว คุณกล้าดีมากที่ไม่ยอมให้ความสำคัญกับมัน แล้วยังมาบอกว่าพวกคุณทำดีพอแล้ว ทั้ง ๆ ที่คำตอบทางการเมืองยังไม่มีให้เห็น

คุณพูดว่าคุณรับฟังและรับรู้ถึงปัญหาที่เร่งด่วน แต่ไม่ว่าฉันจะโกรธและเศร้าเพียงใด ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพวกคุณมันคือปีศาจ ที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังล้มเหลวต่อการลงมือทำงาน”

 

นี่เป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งของ เกรต้า ธันเบิร์ก ที่จริงแล้วเธอได้ทำอะไรไว้อีกมากมาย แม้เธอจะเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แต่มีสิทธิที่จะเรียกร้องการมีชีวิตอยู่บนโลกที่ปลอดภัย สงบสุขในอนาคต เพราะโลกจำเป็นต้องมีอากาศบริสุทธิ์ มีทรัพยากรธรรมชาติเพียงพอ ผู้ใหญ่ในวันนี้จะต้องไม่ทิ้งภัยพิบัติและความเลวร้ายของโลกให้คนรุ่นหลังต้องเผชิญ ทุกคนต้องเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ได้แล้ว

 


เรียบเรียง นรินทร์ ปากบารา เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กรมูลนิธิสืบนาคะเสถียร

อ้างอิงและภาพประกอบ
Teen Climate Activist Greta Thunberg Shot a Brutal Glare at Donald Trump
Why Greta Makes Adults Uncomfortable
Greta Thunberg: “Sweden is not a Role Model”
‘เกรต้า ธันเบิร์ก’ สาว 16 ผู้ออกมาตำหนิผู้นำโลก ไม่ใส่ใจแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลก