เมื่อกลางเดือนมิถุนายน – กระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ประเทศอินโดนเซีย ได้เปิดเผยภาพถ่ายลูดแรดชวา 2 ตัว ซึ่งถ่ายได้จากกล้องดักถ่ายภาพในอุทยานแห่งชาติอูจุงกูลอน นับเป็นเรื่องน่ายินดี และถือเป็นประกายแห่งความหวังต่องานอนุรักษ์สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้ให้กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง
.
โดยลูกแรดชวาที่บันทึกภาพได้ ตรวจสอบทราบว่าเป็นเพศเมีย น่าจะมีอายุระหว่าง 3-5 เดือน และเพศผู้ซึ่งน่าจะมีอายุประมาณ 1 ปี ถูกพบแยกกันที่กับดักกล้องในอุทยานแห่งชาติอูจุงกูลอนทางปลายด้านตะวันตกของเกาะชวา
อุทยานแห่งชาติอูจุงกูลน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เมื่อปี 2534 และถือเป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติแห่งสุดท้ายของแรดชวา
แถลงการณ์ของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ประเทศอินโดนเซีย ระบุว่า “นี่เป็นการค้นพบแรดชวาเกิดใหม่ครั้งแรกในปี 2564” จากที่การสำรวจก่อนหน้านี้มักพบแต่ร่องรอยและแรดชวาที่โตเต็มวัย
ปัจจุบันสถานะแรดชวาเป็นสิ่งมีชีวิตในกลุ่ม “เสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์” (Critically Endangered) ตามสถานะการอนุรักษ์ ในบัญชีแดงของ IUCN
แรดชวา ในป่าฝนอินโดนีเซียมีเหลืออยู่เพียง 73 ตัว เป็นเพศผู้ 40 ตัวและเพศเมีย 33 ตัว คาดว่าถิ่นที่อยู่อาศัยจะเหลือเพียงแค่ในป่าอนุรักษ์ของประเทศอินโดนีเซียและในประเทศเวียดนามเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในประเทศเวียดนามมีรายงานว่า แรดชวาน่าจะสูญพันธุ์ไปแล้วเป็นเวลากว่า 10 ปี เนื่องจากการผืนป่าในประเทศถูกทำลายอย่างรุนแรง
ดังนั้น ป่าอนุรักษ์ของประเทศอินโดนีเซีย จึงถือเป็นพื้นที่แห่งความหวังในการอนุรักษ์สายพันธุ์นี้ไม่ให้สิ้นสูญไปจากโลก และการพบลูกแรดในป่าธรรมชาติก็แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ และความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ได้ต่อไป
สำหรับสิ่งที่ทำให้จำนวนแรดชวาลดลงมีสาเหตุหลัก มาจากการล่าเพื่อเอานอของพวกมันในอดีต
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ยังได้รับผลกระทบจากการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย เนื่องจากพื้นที่ป่าถูกทำลายกลายเป็นที่ดินทำการเกษตร
เช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นบ้านของแรดชวา (และกระซู่ หรือแรดสุมาตรา – ทั้งคู่ได้รับการประกาศเป็นสัตว์ป่าสงวนตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535) แต่ก็ได้สูญพันธุ์ไปจากถิ่นที่อยู่อาศัยเรียบร้อยแล้ว หลังไม่พบเห็นตัวและร่องรอยมาอย่างยาวนาน
อ้างอิง
ผู้เขียน
ทำงานอิสระที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ การเขียน เรื่องสิ่งแวดล้อมและดนตรีนอกกระแส - เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตใช้ไปกับการนั่งมองความเคลื่อนไหวของใบไม้และสายลม