หลังจากการประชุมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้จัดประชุมคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มีวาระพิเศษ เกี่ยวกับการติดตามการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ. และได้มีคำสั่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ได้มีการประชุมนัดแรกเพื่อรายงานความคืบหน้าคดี ซึ่งมีผลสรุปการประชุมในประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า หลักฐานที่มีสามารถเอาผิดนายเปรมชัยและพวกรวม 4 คนได้แน่ แต่กำลังรอผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจน จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ บางส่วน ส่งไปประกอบสำนวน
2. พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หนึ่งในอนุกรรมการ ระบุว่า วันจันทร์ที่ 5 มี.ค.นี้ หากนายเปรมชัยไม่เข้ารายงานตัวตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนจะทำหนังสือถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อขอถอนประกันตัว
3. พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการพิสูจน์หลักฐานและนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ผลตรวจดีเอ็นเอ สามารถเชื่อมโยงกับตัวบุคคลที่ถูกกล่าวโทษในคดีนี้ได้ ซึ่งชิ้นเนื้อที่ส่งตรวจย้ำว่าเป็นเสือดำและไก่ฟ้าหลังเทาชัดเจน
4. รายงานผลการตรวจสอบงาช้าง 2 คู่ที่ยึดได้จากบ้านของนายเปรมชัย กรรณสูต เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ได้เก็บตัวอย่างนำมาตรวจดีเอ็นเอ สรุปว่าเป็นงาช้างแอฟริกา และมีความผิด ฐานครอบครองซากสัตว์ป่า หลังจากนี้จะใช้เวลาตามขั้นตอน ยึดงาช้างเป็นของแผ่นดิน คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ และเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
5. ประเด็นคลิปเสียงการเจรจาระหว่างคณะของนายเปรมชัยกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ยืนยันว่า เป็นการเจรจาต่อรองกันระหว่างนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถของนายเปรมชัย กับเจ้าหน้าที่เขต ชื่อนายกิตติ โดยคลิปต้นฉบับอัดจากโทรศัพท์มือถือของนายปิยะพงษ์ สืบเสน ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ซึ่งมีการลบออกจากเครื่องไปแล้ว ซึ่งนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัต์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ขอไม่ตอบคำถามเรื่องนี้
6. นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสอบสวนข้อเท็จจริง น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และนายวิเชียร ชิณวงษ์ ไม่มีความผิด การอนุญาตให้เข้าพื้นที่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และเป็นคนละส่วนกับการที่นายเปรมชัย เข้าไปล่าสัตว์ป่า ซึ่งเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการละเลยต่อหน้าที่
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
ร่วมลงชื่อ “ดำเนินคดีกับผู้ล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ ต้องโปร่งใส และมีมาตรฐานแบบเดียวกันทุกคดี”
ในวันที่ 5 มีนาคมนี้ ติดตามชมการถ่ายทอดสด มูลนิธิสืบนาคะเสถียรออกแถลงการณ์มวงถามความคืบหน้าคดี และวิเคราะห์รูปคดีได้ทาง facebook.com/SeubNakhasathienFD
