‘วันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก’ (Global Tiger Day) ตรงกับวันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี
โดยในปีนี้ 2565 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดกิจกรรมวันเสือโคร่งโลกภายใต้แนวคิด “TIGERS NEXT GEN เสือโคร่งต้องไปต่อ”
เสือโคร่ง (Panthera tigris) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อยู่ในอันดับสัตว์กินเนื้อ (Carnivora) ในวงศ์ Felidae เสือโคร่งจัดเป็นเสือชนิดที่ใหญ่ที่สุด และเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยอีกด้วย
เสือโคร่งมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศคือ เป็นผู้ล่าอันดับสูงสุดของระบบนิเวศ และเป็นหนึ่งใน Keystone species ที่คอยควบคุมประชากรสัตว์กินพืช (Herbivore) ไม่ให้ประชากรของสัตว์กินพืชที่เป็นเหยื่อมีมากเกินไป รวมถึงสัตว์ผู้ล่าขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อรักษาสมดุลในระบบนิเวศป่า การมีอยู่ของเสือโคร่งจึงถือเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและระบบนิเวศได้เป็นอย่างดี
และช่วงครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เสือโคร่งในผืนป่าของไทยมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่นำเอาระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart patrol) เข้ามาใช้ โดยพบเสือโคร่งมากที่สุดในบริเวณผืนป่าตะวันตก ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง จึงเป็นแหล่งอนุรักษ์เสือโคร่งที่สำคัญของประเทศไทย
ถ้ารวมผืนป่าตลอดแนวด้านตะวันตกของไทยเข้ากับป่าตามแนวชายแดนของพม่า จะทำให้พื้นที่นี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอินเดีย
ถึงแม้ว่าในไทยแนวโน้มของประชากรเสือโคร่งจะเพิ่มมากขึ้น แต่ปัจจุบันเสือโคร่งอินโดจีน (Panthera tigris corbetti) ยังอยู่ในสถานะภาพใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) ของ IUCN รวมถึงอนุสัญญา CITES กำหนดให้เสือโคร่งอยู่ในบัญชีที่ 1 คือห้ามทำการค้าโดยเด็ดขาด ซึ่งภัยคุกคามที่สำคัญของเสือโคร่ง ล้วนเกิดจากน้ำมือมนุษย์ทั้งสิ้น ทั้งการทำลายหรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเสือโคร่ง การล่าเพื่อการค้า การซื้อขายครอบครอง รวมถึงการล่าสัตว์ป่าที่เป็นเหยื่อของเสือโคร่งอีกด้วย
วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกๆ ปี จึงกำหนดให้เป็น ‘วันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก’ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเสือในระบบนิเวศ และสร้างความตะหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรเสือโคร่งและถิ่นที่อยู่อาศัย โดยวันอนุรักษ์เสือโคร่งถูกกำหนดขึ้นจากการประชุมว่าด้วยเรื่องเสือโคร่ง (Tiger Summit) ในปี พ.ศ. 2553 ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
และในวันนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร่วมกับองค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องด้านการอนุรักษ์เสือโคร่ง 10 หน่วยงาน และทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียร โดยมีคุณภานุเดช เกิดมะลิ เลขาธิการมูลนิธิ เป็นผู้แทนมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ร่วมกิจกรรมเสวนาภายใต้แนวคิด “TIGERS NEXT GEN เสือโคร่งต้องไปต่อ” ณ ลานกิจกรรมศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี
กิจกรรมถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เราสามารถร่วมกันอนุรักษ์เสือโคร่งได้โดยการปกป้องผืนป่าที่เป็นบ้านหลังเดียวของเสือโคร่ง เพื่อให้สัตว์เหล่านี้ “ได้ไปต่อ” และดำรงอยู่คู่กับโลกตราบนานเท่านาน
เรื่อง/ภาพ ภัสราภรณ์ ล้อประกานต์สิทธิ์
อ้างอิง