ป่าชายหาด – หลายคนอาจยังไม่รู้ว่านอกจากระบบนิเวศชายหาดแล้ว ยังมีอีกระบบนิเวศริมทะเลที่มีความสำคัญไม่แพ้ระบบนิเวศชายหาดเลย นั่นคือ ระบบนิเวศป่าชายหาด
หลายต่อหลายครั้งผู้คนมักจะละเลยและมองข้ามป่าชายหาดไป มองว่าป่าที่มีต้นไม้เพียงน้อยนิดนี้ไม่ได้มีความสลักสำคัญมากพอที่จะอนุรักษ์ไว้
อย่างไรก็ดี ป่าชายหาดนั้นก็มีความสำคัญอย่างมาก หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ป่าชายหาดอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกธรรมชาติที่จะมาแก้ไขปัญหาชายฝั่งถูกกัดเซาะด้วย วันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จักป่าชายหาดให้มากขึ้นกัน
ป่าชายหาดคืออะไร
ป่าชายหาด (Beach Forest) คือ ลักษณะของป่าประเภทหนึ่ง จัดเป็นป่าละเมาะหรือป่าโปร่งไม่ผลัดใบ มักจะพบตามแนวชายฝั่งทะเลหรือเนินทรายริมทะเลที่ยกตัวสูงขึ้น ซึ่งพื้นที่ป่าอาจเป็นเพียงแนวแคบ ๆ หรือ กระจัดกระจายเป็นหย่อม ๆ โดยดินที่ในบริเวณป่าชายหาดจะเป็นดินทรายที่น้ำทะเลท่วมไม่ถึงหรือบริเวณที่หินชิดฝั่งทะเล ด้วยป่าชายหาดนั้นติดริมทะเล ทำให้ดินในบริเวณดังกล่าวค่อนข้างเค็มและมีไอเค็ม (salt spray) จากทะเลพัดเข้ามาตลอด
ในประเทศไทยเราสามารถพบป่าชายหาดได้ทั้งชายฝั่งภาคตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชลบุรีลงไปถึงจังหวัดตราด และทางภาคใต้แถบฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยจากจังหวัดเพชรบุรีลงไปจนต่อเขตแดนประเทศมาเลเซียรวมถึงเกาะต่าง ๆ ในอ่าวไทยด้วย ในทางฝั่งตะวันตกมีพบตั้งแต่จังหวัดระนองลงไปจนถึงจังหวัดสตูล
ลักษณะโครงสร้างของป่าชายหาดแปรผันไปตามปัจจัยแวดล้อมในแต่ละท้องที่ พืชส่วนใหญ่ของป่าชนิดนี้เป็นพืชทนเค็ม (halophytes) และทนความแห้งแล้ง (xerophytes) ทั้งนี้จะเป็นพืชที่เติบโตได้ในบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารในดินต่ำ ทำให้พืชเหล่านี้มีการปรับตัวจนมีลักษณะเป็นพุ่มลำต้นคดงอและแตกกิ่งก้านมาก กิ่งสั้น ใบหนาแข็ง ประกอบด้วยไม้ใหญ่น้อยส่วนมากเป็นไม้หนามขนาดไม้พุ่มและเถาวัลย์ เพื่อช่วยลดการคายน้ำ ซึ่งพืชที่ปรากฏในพื้นที่ป่าชายหาดนั้นมีทั้งที่เป็นระบบนิเวศแบบหลากหลายพันธุ์ไม้ ในบางพื้นที่อาจพบเพียงแค่สนทะเล (Casuarina equisetifolia) เป็นพืชที่มักก่อตัวในหาดทรายที่เกิดใหม่ โดยทั่วไปแล้วป่าสนทะเลก็จะมีเพียงแค่สนทะเลขึ้นเพียงชนิดเดียว นอกจากสนทะเลแล้วป่าชายหาดยังมีพรรณพืชอีกมากมาย อาทิ รังกะแท้ ตะบูน หูกวาง โพธิ์ทะเล ผักบุ้งทะเล ฯลฯ
ความสำคัญของป่าชายหาด กับบทบาทในการรักษาระบบนิเวศชายฝั่ง
ป่าชายหาดนั้นมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศอย่างมาก ป่าเหล่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของการเจริญเติบโตของพันธุ์พืชริมชายหาด และเป็นตัวคอยรักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งกับระบบนิเวศบนบกด้วย
อีกหนึ่งประโยชน์ของป่าชายหาดทีหลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน คือ มันสามารถทำหน้าที่เป็นกำแพงกันคลื่นธรรมชาติให้แก่ชายหาดได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงธรรมชาติด้วยการสร้างกำแพงคอนกรีตด้วยซ้ำ เพราะป่าชายหาดสามารถหน้าที่ในการรักษาและป้องกันการสูญเสียชายหาดจากการกัดเซาะของคลื่นได้ กล่าวคือ เมื่อคลื่น ลม และกระแสน้ำพัดเข้ามาที่ชายฝั่ง จะทำให้ทรายเข้ามาสะสมที่ชายฝั่ง และพัดออกสู่ทะเลไป ป่าชายหาดจะมีบทบาทในฐานะตัวป้องกันไม่ให้ทรายถูกพัดลงทะเลไป เมื่อทรายถูกลมพัดเข้ามาส่วนลึกของชายหาด จนเข้าถึงพื้นที่ป่าชายหาด ด้วยโครงสร้างรากของพืชในป่าบางชนิดที่มีความกว้างและซับซ้อน ก็จะคลุมหน้าดินและยึดทรายที่ถูกพัดเข้ามาให้ไม่ไปไหน จึงเป็นการลดการสูญเสียหาดทรายได้เป็นอย่างดี หรือกล่าวให้เห็นภาพคือ ป่าชายหาดทำหน้าที่คล้ายกับป่าชายเลนนั่นเอง
นอกจากนี้กำแพงกันคลื่นธรรมชาติแล้วยังเป็นกันแพงกันลมธรรมชาติด้วย โดยป่าชายหาดสามารถกันลมทะเลไม่ให้พัดเข้ามาสู่ส่วนลึกของชายฝั่งได้ด้วย เนื่องจากลมไอเค็มที่พัดเขามาจากทะเลจะปะทะกับชั้นเรือนยอดไม้ของต้นไม้ในพื้นที่ป่า ส่งผลให้ไอเค็มผ่านเข้ามาสู่ตัวพื้นที่ด้านในได้น้อยลง ซึ่งถ้าหากพื้นที่ส่วนในเป็นพื้นที่ป่าก็จะช่วยให้ไอเค็มไม่กัดเซาะพืช พืชพรรณในพื้นที่ด้านในก็จะพัฒนาต่อไปเป็นป่าบกได้ต่อไป
ถึงแม้ว่าความสำคัญและประโยชน์ของป่าชายหาดจะมีมากมายขนาดนี้ ทว่าปัจจุบันกลับได้รับความสนใจและการอนุรักษ์ค่อนข้างน้อย อาจเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ป่าชายหาด ดีพอ ประกอบกับป่าชายหาดไม่ได้มีบทบาทและความสำคัญทางเศรษฐกิจมากพอที่จะทำให้คนสนใจได้ จึงทำให้ป่าชายหาดถูกมองข้ามไป หลังจากนี้เราก็อาจจะต้องปรับความคิดและมุมมองต่อธรรมชาติกันใหม่ว่าป่าทุกชนิดล้วนมีคุณค่าและหน้าที่ทางธรรมชาติในตัวของมันเองทั้งสิ้น
อ้างอิง
- ประโยชน์ของป่าชายหาด
- ระบบนิเวศป่าชายหาด
- ภาพประกอบ Claudio Schwarz
ผู้เขียน
หนุ่มน้อยผู้หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบ ออกเดินทางเพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ และชอบอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจ