จะรักษ์โลกทั้งที ทำไมต้องเสียเงินเยอะ : ชวนหาคำตอบว่าทำไมสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมถึงมีราคาที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป  

จะรักษ์โลกทั้งที ทำไมต้องเสียเงินเยอะ : ชวนหาคำตอบว่าทำไมสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมถึงมีราคาที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป  

หากใครเป็นสายกรีนน่าจะเคยสังเกตมาบ้างว่า ราคาของสินค้า Eco-Friendly หรือ ‘สินค้ารักษ์โลก’ มักมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันแต่ไม่ได้ผลิตขึ้นบนมาตรฐานความยั่งยืน 

ด้วยราคาที่สูงริบจึงอาจทำให้หลายคนหันหลังและกลับไปใช้สินค้าแบบเดิมมากกว่าจะยอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า แต่นั่นก็ชวนให้เกิดข้อสังเกตว่า แล้วทำไมผลิตภัณฑ์ที่ประทับตราว่ารักษ์โลกถึงมีราคาแพงกว่าสินค้าทั่วไป เพราะอะไรสินค้ารักษ์โลกถึงแพงแสนแพง ? เราจะพาทุกท่านมาหาคำตอบจากบรรทัดด้านล่างต่อไปนี้

ทำไมสินค้ารักษ์โลกถึงมีราคาสูง? 

สาเหตุที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมมีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปเกิดจากต้นทุนที่ต้องเสียมากกว่ากระบวนการผลิตทั่วไป กล่าวคือ ตั้งแต่ต้นทางของวัสดุที่ใช้ เรื่อยมาจนถึงผู้บริโภคปลายทางนั้นมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ 

ซึ่งที่มาของผลิตภัณฑ์รักษ์โลกไม่ได้หมายถึงแค่ตัวสินค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงซัพพลายเชนของธุรกิจที่ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นจนจบ  

อันดับแรกในเรื่องของวัสดุที่ใช้ผลิต วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นมีต้นทุนการผลิตที่ราคาสูงกว่าวัสดุทั่วไป และกระบวนการผลิตก็จำเป็นต้องใช้ขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าด้วย ทำให้สินค้าที่ออกมามีราคาที่สูงขึ้นตามต้นทุน

ตัวอย่างเช่น ฝ้ายออร์แกนิค คือหนึ่งในตัวอย่างของวัสดุรักษ์โลกที่มีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากจะไม่มีการนำสารเคมีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้การปลูกฝ้ายจำเป็นต้องอาศัยความใส่ใจในการกำจัดแมลงและวัชพืชมากกว่าฝ้ายทั่วไปที่ใช้ปุ๋ยเคมี 

ความใส่ใจที่เพิ่มขึ้น ย่อมต้องใช้ปริมาณแรงงานที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย จึงยิ่งเป็นการไปเพิ่มต้นทุนการการดำเนินงานให้เพิ่มขึ้นด้วย ด้วยเหตุนี้ทำให้ผลผลิตที่ได้มีจำนวนน้อยและราคาสูง   

ถัดมา การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์รักษ์โลกครบวงจรด้วย โดยการเลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ อาทิ กระดาษหรือเส้นใยธรรมชาติ  

วัสดุรีไซเคิลนั้นมีราคาที่สูงกว่าวัสดุทั่วไปหลายเท่า ทำให้การนำวัสดุดังกล่าวมาใช้ เป็นการบวกราคาสินค้าเพิ่มเข้าไปในตัวด้วย ดังนั้น นอกจากเราจะต้องเลือกซัพพลายเออร์ที่สามารถทำบรรจุภัณฑ์ที่รักษ์โลกให้แล้ว บริษัทยังต้องดูถึงเบื้องหลังจริยธรรมของซัพพลายเออร์ด้วย อย่างการที่จะต้องไม่ปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ มีกระบวนการจัดการขยะ มีความรับผิดชอบต่อสังคม  

ท้ายที่สุดคือ ปัญหาความต้องการสินค้ารักษ์โลกค่อนข้างน้อยในตลาด ทำให้ยังไม่มีการผลิตออกมามากพอที่จะทำให้ราคาสินค้าขายในราคาปกติได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ราคาสินค้ายังคงสูง เพื่อครอบคลุมกำไรไม่ให้ขาดทุนได้ ในอนาคตหากในตลาดมีสินค้ารักษ์โลกมากขึ้น แน่นอนว่าราคาสินค้าเหล่านี้จะต้องค่อย ๆ ลดลงมาอย่างแน่นอน  

การหยิบผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมขี้นมาหนึ่งชิ้น เราจึงมั่นใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงหลังการบริโภคโดยแท้จริง หากวันนี้เราช่วยกันใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้กันมากขึ้น มันย่อมเป็นการผลักดันและบอกต่อความต้องการให้ผู้ผลิตให้รับรู้ และในอนาคตเราก็จะได้เห็นสินค้าเหล่านี้มีวางขายมากขึ้นในตลาด และมีราคาที่ถูกลงแน่นอน  

อ้างอิง  

ผู้เขียน

+ posts

หนุ่มน้อยผู้หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบ ออกเดินทางเพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ และชอบอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจ