เวลาที่เราคุยกันในกลุ่มวิสาหกิจกาแฟของบ้านแม่กลองน้อย นอกจากเรื่องรายได้แล้ว เราก็จะคุยกันเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วย คนที่นี่รู้ดีว่าพื้นที่ที่พวกเขาอยู่เป็นแหล่งต้นน้ำของคนอื่นๆ เราอยากให้คนอื่นได้ใช้น้ำที่ใสสะอาด เหมือนอย่างที่พวกเราใช้กัน
นั่นเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาที่เราพูดคุยกับพี่ซ้ง ณรงค์ศักดิ์ มาลีศรีโสภา เจ้าหน้าที่ส่วนงานกาแฟ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เรื่องการทำงานในพื้นที่
พี่ซ้งต้องใช้เวลาอยู่หลายปีในการที่จะให้ความรู้และรวมกลุ่มชาวบ้านให้หันมาประกอบอาชีพที่เป็นมิตรกับผืนป่า ในวันนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้น หลายๆ คนก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการรักษาป่ามากขึ้น
เราในฐานะผู้มาเยือนเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง แม้จะไม่ได้ปรากฎเด่นชัดอย่างการพลิกฝ่ามือ การทำงานบางชิ้นอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ แต่ลึกๆ ก็รู้สึกขอบคุณชาวชุมชนแม่กลองน้อยที่พยายามรักษาผืนป่าต้นน้ำแห่งนี้ไว้ โดยไม่ขยายพื้นที่ทำเกษตรเชิงเดี่ยวเข้าไปยังภูเขาที่ยังคงมีสภาพเป็นป่า และพยายามลดการใช้สารเคมี ที่อาจจะปนเปื้อนลงไปสู่แหล่งน้ำซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ที่ใช้ประโยชน์จากลำน้ำสายนี้
กลับออกมาสู่ชายป่า
เราเดินทางมาถึงน้ำตกที่ไหลมาากต้นน้ำแม่กลอง พักผ่อนด้วยบรรยากาศชุ่มชื่นของธรรมชาติ และทานข้าวกลางวันกันที่นี่ เติมแรงเพื่อเตรียมออกเดินทางกันต่อไปดูในส่วนอื่นๆ ของพื้นที่หมู่บ้านกันต่อ หลายๆ คนเริ่มกรอกน้ำในลำธารใส่ขวดไปดื่มระหว่างทาง วักน้ำล้างหน้าล้างตาชื่นฉ่ำ
ระหว่างการเดินเท้า บางช่วงพงไม้และต้นหญ้าขึ้นสูงท่วมหัว ช่วงลงเนินบางทีเป็นทางดิ่งๆ ชาวคณะต้องลดความเร็วในการเดินลงเพราะความชัน แต่ถึงหนทางจะเป็นอย่างไรเรื่องราวสองข้างทางก็ดูจะดึงดูดความสนใจให้ลืมเลือนความบากลำบากไปได้ไม่น้อย เราพบร่องรอยสัตว์ป่าหลายแห่ง หลายชนิด พี่คนนำทางเล่าว่าที่นี่มีสัตว์ป่าจำพวกกวาง หมูป่า เลียงผา เข้ามาใช้พื้นที่หากินอยู่บริเวณนี้ เจอพวกผัก สมุนไพร อันไหนกินได้ อันไหนมีสรรพคุณอย่างไรพี่แกก็ชี้ให้ดูและอธิบายให้ฟังเป็นวิทยาทานตลอดสาย
ช่วงสุดท้ายของการลุยป่าเป็นทางลงเขาซึ่งมีจุดชมวิวที่มองเห็นหมู่บ้านแม่กลองน้อยทั้งหมู่บ้านรวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง มองเห็นเส้นทางลอยฟ้าสู่อุ้มผางอยู่ไกลลิบๆ ขยับออกไปอีกหน่อยเห็นภูเขาจางๆสลับซับซ้อนหลายเลเยอร์จรดขอบฟ้า ระหว่างนั่งพักชมวิวมีสายลมเย็นๆ พัดมา ช่วยให้หายเหนื่อยได้ดีเดียว
เมื่อออกมาถึงชายป่า พวกเราเดินตัดไร่ผ่านเข้ามาทางด้านหลังหมู่บ้าน แวะหาเครื่องดื่มฟองฟูดื่มดับกระหายพลางนั่งพักกันเสียหน่อย แต่การผจญภัยวันนี้ยังไม่จบ พอหายเหนื่อยแล้วจึงพากันนั่งรถกระบะออกไปไร่เสาวรสตามคำเชื้อเชิญของน้องพงษ์ (น้องชายพี่ซ้ง) ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนที่มูลนิธิสืบฯ ได้หนุนเสริมการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่า เช่น การทำน้ำเสาวรสขาย
หลังจากดูไร่เสาวรสแล้วเราก็ไปที่ไร่ถัดไปต่อ เป็นไร่ผสมที่ปลูกผลไม้หลายๆ อย่างในพื้นที่เดียวกัน ด้านข้างมีต้นกาแฟอยู่หย่อมหนึ่งกำลังผลิดอกออกผล เป็นส่วนปลูกใหม่ที่เพิ่งได้ผลในปีนี้เป็นปีแรกหลังจากที่ปลูกมาเป็นระยะเวลาเกือบสามปีเต็ม น้องพงษ์ชี้ให้พวกเราดูดอกกาแฟสีขาวสะอาดตา และเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของบ้านแม่กลองน้อยที่พี่ซ้งได้เอามาแปรรูปทำเป็นชาดอกกาแฟ ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติกลมกล่อมของชาดอกแกแฟทำเอาพวกเราติดใจกันมากทีเดียว
ล้อมวงกาแฟรัก(ษ์)ป่า
ถ้าเป็นคอกาแฟ การมาแวะเวียนเยี่ยมเยียนบ้านพี่ซ้ง จะไม่พบคำว่าผิดหวัง
ในเช้าที่อากาศเย็นสบาย เจ้าบ้านตื่นแต่เช้ามานั่งคั่วกาแฟอยู่นอกเรือน ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาต่างก็ทักทาย บ้างก็แวะเข้ามาล้อมวงอยู่ด้วยกัน ภาษาม้งสำเนียงแปลกหูดังไปทั่วบริเวณ ทำให้บรรยากาศคึกคักและอบอุ่น ทำเอาลืมความเย็นยามเช้าไปเลยทีเดียว
กาแฟที่คั่วในกระทะทองเหลืองเริ่มส่งกลิ่มหอมฉุย สักพักก็ผูกเทใส่กระจาดและฝัดเอาเปลือกที่หลงเหลืออยู่บางส่วนออก เครื่องบดกาแฟมือหมุนโบราณถูกเอามาตั้งไว้บนโต๊ะ พี่ซ้งเทเมล็ดกาแฟเหล่านั้นลงไปในช่องส่วนบนของเครื่องบด หมุนๆ อยู่สักพักก็เปิดลิ้นชักออกมา ได้กาแฟบดหยาบเทลงในที่ชงกาแฟแบบไซฟ่อน ที่เตรียมตั้งรอไว้แล้ว
การชงแบบไซฟ่อนเป็นการชงกาแฟอีกแบบหนึ่งที่เราชอบมาก นอกเหนือไปจากรูปทรงอันประหลาด ที่คล้ายกับเครื่องมือทดลองทางวิทยาศาสตร์ กาแฟที่ได้จากการชงก็ให้รสชาติดีเยี่ยม ความหอมอ่อนๆ แบบเบอร์รี่ รสชาติที่กลมกล่อมลงตัว ติดเปรี้ยวนิดๆ เป็นรสชาติที่เราติดใจมาตั้งแต่เริ่มดื่มกาแฟใหม่ๆ เติมเต็มเช้าของวันอำลาได้อย่างสดใส
ก่อนจบเรื่องในครั้งนี้อยากแนะนำให้รู้จักพื้นที่แห่งนี้อีกสักหน่อย
ข้อมูลพื้นที่
บ้านแม่กลองน้อย ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก ห่างจากตัวอำเภออุ้มผางประมาณ 20 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดตากประมาณ 225 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขา อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง
การเดินทาง
เริ่มที่เส้นทางตาก-แม่สอด ระยะทาง 80 กิโลเมตร ก่อนถึงตัวเมืองม่สอดมีวงเวียนขนาดใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1090 แม่สอด-อุ้มผาง ระยะทางเท่าไหร่ไม่แน่ใจแต่จับเวลาแล้วประมาณสองสามชั่วโมงก็ถึงที่หมาย จุดสังเกตง่ายๆ ก่อนถึงหมู่บ้านจะมีจุดพักรถขนาดใหญ่ ทางด้านขวามือ เรียกว่าจุดพักรถอุ้มเปี้ยม ให้ขับเลยมาอีกสักพักผ่านศูนย์อพยพอุ้มเปี้ยมมาเรื่อยๆ สังเกตุซ้ายมือจะเห็นหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขา ทางช่วงที่เห็นหมู่บ้านจะเป็นช่วงลงเขาตลอด ซ้ายมือจะมีปากทางเข้าหมู่บ้าน ให้เลี้ยวตามทางมาเรื่อยๆ จะผ่านสะพานเล็กๆ ขับตรงไปเป็นร้านค้าสองข้างทางอยู่เยื้องๆ กัน ให้ตรงขึ้นไปอีกนิดจะเห็นบ้านที่อยู่บนเนินทางซ้ายมือ ที่นั่นแหละจุดหมายแรกของเรา
สถานที่ติดต่อ
ปัจจุบันพี่ซ้งได้เริ่มสร้างศูนย์การเรียนรู้เรื่องกาแฟขึ้นมาใหม่ และมีที่พักสำหรับผู้มาเยือน มีห้องน้ำ มีไฟฟ้าใช้ แต่สัญญาณโทรศัพท์บริเวณหมู่บ้านนั้นบอดสนิท สัญญาณอินเตอร์เน็ตมีบ้างจางๆ ประหนึ่งว่าลอยมาตามกระแสลม ควรยินยอมพร้อมใจที่จะตัดขาดจากโลกภายนอกไว้ก่อน
ติดต่อพี่ซ้งได้โดยตรง ที่เบอร์ 080-857-0823 พยามโทรหน่อยนะ สัญญาณไม่ค่อยมี หากจะไปเยือนควรแจ้งล่วงหน้าเพราะบางวันพี่ซ้งต้องเข้าพื้นที่ไปทำงาน ควรนัดหมายกันให้ดีก่อนจะได้จัดวันกันได้อย่างลงตัว
คำแนะนำในการไปเยือน
บ้านแม่กลองน้อยไม่ได้เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ ไม่ได้ติดลิสต์สถานที่น่าสนใจของอำเภออุ้มผาง แทบไม่มีข้อมูลของสถานที่แห่งนี้ปรากฎให้เห็น หากให้แนะนำช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาพักผ่อนและใช้เวลาช่วงวันหยุดในการทำกิจกรรมและเรียนรู้ธรรมชาติไปในตัว ขอบอกเลยว่ามาในช่วง พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศหนาวเย็นแบบไม่ต้องขึ้นเหนือก็สามารถสัมผัสอากาศหนาวยะเยือกได้ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่กาแฟในไร่กำลังออกผลผลิตเต็มที่ อาจมาชมไร่กาแฟ เก็บกาแฟ มาเรียนรู้สิ่งที่พี่ซ้งบอกว่ากาแฟที่นี่รักษาป่าต้นน้ำมันเป็นอย่างไร
หากสนใจกระบวนการต่างๆในการผลิตกาแฟพี่ซ้งก็ยินดีที่จะพาไปดู ไปทดลองทุกกระบวนการ ตั้งแต่เก็บ ตาก คั่ว บด ดริป ดื่ม เรียกได้ว่าได้เรียนรู้และลงมือทำตั้งแต่กล้ามาสู่แก้วเลยทีเดียว
และหากต้องการเดินป่าศึกษาธรรมชาติสำรวจป่าต้นน้ำเหมือนอย่างที่เราไปในครั้งนี้ก็สามารถแจ้งความจำนงไว้ก่อนได้ พี่ซ้งจะได้เตรียมหาคนนำทางให้ มาที่นี่รับรองได้ว่าคุณจะได้อะไรมากกว่าการไปเที่ยวป่า วิวทิวทัศน์ หรือความยากลำบากในการเดินป่าอาจไม่เท่าหลายๆที่ที่เคยไป แต่จบทริปนี้คุณจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างป่า คน วิถีชีวิต และจะเข้าใจป่ามากขึ้น
หากมาถึงที่นี่แล้วมีเวลาสักสองวันเต็มๆ ที่จะปล่อยหัวใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็จะดียิ่ง แล้วอย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-บ้านแม่กล่องน้อยสักสองวันล่ะ (ในกรณีที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว)
สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟรับรองได้เลยว่าคุณจะต้องชอบที่นี่อย่างแน่นอน เพราะพี่ซ้งมีของเล่นเกี่ยวกับอุปกรณ์การชงกาแฟมากมายหลายชนิด อยากดื่มแบบ Moka Pot , French Press ไซฟ่อน หรือแบบดริปกับกระดาษกรอง บอกพี่ซ้งได้เลย พี่ซ้งจัดให้
ร่วมรักษาป่าผืนใหญ่กับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร โดยการสมทบทุนผ่านบัญชีธนาคาร