วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นวัน World Ranger Day หรือวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก กำหนดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และยกย่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ช่วยปกป้องคุ้มครองสมบัติทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมต่างๆ 54 สมาคม ที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ผู้พิทักษ์ป่าระหว่างประเทศ (International Ranger Federation : IRF) ตลอดจนพันธมิตรอย่าง Thin Green Line Foundation และบุคคลทั่วไปที่สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และ IRF ซึ่งวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก กำหนดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2550 ในโอกาสครบรอบ 15 ปี ของการก่อตั้ง IRF
ในปีนี้ประเทศไทยจัดกิจกรรมวันผู้พิทักษ์ป่าโลกที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้เป็นครั้งแรก ซึ่งในหลายๆ ปีก่อนนั้นงานวันผู้พิทักษ์ป่าโลกจะถูกจัดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์ที่สำคัญต่างๆ เช่น อุทยานแห่งชาติปางสีดา กรมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
บรรยากาศการจัดงานที่กรมอุทยานฯ ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจำนวนมากเข้าร่วมงานอาทิจากกรมป่าไม้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืชกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายในงานจะมีกิจกรรม Rangers Talk ภายใต้ธีม ‘จากทะเลถึงภูเขา เราดูแล’ ที่จะเป็นการบอกเล่าประสบการณ์เรื่องราวความยากลำบากของการปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์ป่า พิทักษ์สัตว์ และพิทักษ์ทะเลจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อีกทั้งยังมีนิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการมอบเกียรติคุณและเงินช่วยเหลือแก่ญาติเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและมอบเงินเข้ามูลนิธิพิทักษ์ป่า และยังมีการเดินสวนสนามของเหล่าเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า
ในวันนี้เราอยากจะขอเสนอบทสัมภาษณ์ความรู้สึกเล็กๆ ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวันผู้พิทักษ์ป่าโลกมาให้ได้อ่านกัน
คุณวุฒิพงษ์ ดงคำฟู หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปืม (จังหวัดพะเยา) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) หนึ่งในเจ้าหน้าพิทักษ์ป่าที่ได้มาร่วมงานได้กล่าวว่าผู้พิทักษ์ป่าเป็นบุคคลตัวเล็กๆ คนหนึ่งถ้าในสายตาของคนที่อยู่วงนอกแต่ว่าเราทำงานที่ยิ่งใหญ่เราดูแลรักษาทรัพยากรที่เป็นสมบัติของประเทศให้เกิดความมั่นคงด้านทรัพยากรจนทุกวันนี้อาชีพนี้ก็ถือเป็นอาชีพที่ได้รับความสนใจและผู้พิทักษ์ป่าเองก็มีผลงานที่ออกมาปรากฏในสายตาของประชาชน
“งานหลายๆ อย่างที่เราทำเราก็ทำงานด้วยความมุ่งมั่น ถึงแม้ว่าเงินเดือนเองหรือสวัสดิการเองถ้าเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ อย่างทหาร ตำรวจ อาชีพเราอาจจะน้อยกว่าแต่ทว่าตอนนี้เราก็เห็นทิศทางที่ดีขึ้น”
คุณวุฒิพงษ์ ขยายความว่า ทางผู้บริหารของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เข้ามาดูแลเหล่าผู้พิทักษ์ป่าและสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า ตลอดจนองค์กรภาคเอกชนต่างๆ และภาคประชาชนที่เริ่มเห็นว่าผู้พิทักษ์ป่าก็เป็นบุคคลหนึ่งที่สร้างความมั่นคงให้กับประเทศไทยของเรา
“วันผู้พิทักษ์ป่าโลกเป็นงานที่จัดทั่วโลก ที่แสดงให้เห็นว่าความสำคัญมันไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่มันคือความมั่นคงของทรัพยากรของโลกนี้เราเป็นคนไทยที่ดูแลทรัพยากรที่อยู่ในประเทศไทย เราก็ดีใจที่ผู้บริหารได้เห็นความสำคัญและได้จัดงานมาต่อเนื่อง”
“ปีนี้เป็นปีแรกที่เข้ามาจัดในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถือว่าคนที่ไปเฝ้าป่า ได้ก็กลับเข้าสู่บ้านหลังใหญ่หรือกรมของตนเอง ได้มารวมพลังกับผองเพื่อนผู้พิทักษ์ป่า ได้พบปะผู้บริหาร ก็คิดว่าคงจะได้กำลังใจ ได้สิ่งดีๆ กลับไปเพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจที่จะกลับไปดูแลทรัพยากรให้กับคนไทยทุกคน อีกทั้งจากวันนี้ไปก็คงจะสื่อสารให้กับพี่น้องประชาชนได้เห็นอีกอาชีพหนึ่งที่สำคัญ”
เราพูดถึงผู้พิทักษ์ป่าที่อยู่ในป่ากันไปแล้ว เราลองมาดูผู้พิทักษ์ทางฝั่งทะเลกันบ้าง
คุณรัชชัย พรพา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็มีเจ้าหน้าที่แผนกนี้ หรือว่าการทำงานด้านนี้อยู่ ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน
“เรามีหน้าที่ในการปกป้องดูแลรักษาป่าชายเลน กิจกรรมทวงคืนป่าชายเลนที่เราทำกันมาได้สำเร็จ 4-5 หมื่นไร่ ถ้าถามว่าเราทวงมาทำอะไร เราทวงมาเพื่อฟื้นฟู และการที่เราทำได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่มีส่วนร่วมช่วยกับพวกเรา เพราะว่าลำพังข้าราชการระดับสูงระดับกลางถ้าขาดพวกเขางานไม่มีทางสำเร็จ พวกเขาก็เป็นบุคคลส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญเทียบเท่ากันหมด”
“ทุกกรมมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลป้องกันรักษาป่า ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งช่วยให้พวกเราทำงานได้สำเร็จ คือ พวกเราก็ให้ความสำคัญกับเขา ความสำคัญก็ไม่ใช่แค่จัดงานในวันนี้ จริงๆ เราพัฒนาศักยภาพให้สวัสดิการเขาเป็นหลักมากกว่า”
ทั้งคุณวุฒิพงษ์ และคุณรัชชัย คือ ตัวแทนของคนทำงานรักษาป่าโดยหน้าที่ แต่ในงานวันผู้พิทักษ์ป่ายังมีเรื่องราวจากอีกฝั่ง จากกลุ่มที่คอยสนับสนุนผู้พิทักษ์ป่ามาเล่าเรื่องราวให้ฟังเป็นการปิดท้าย
คุณมานนีย์ พาทยาชีวะ เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิไทยรักษ์ป่า กล่าวว่า เราเป็นองค์กรเล็กๆ ที่จะสนับสนุนการทำงานผู้พิทักษ์ป่าให้มีกำลังใจในการทำงาน เช่น การสนับสนุนงานลาดตระเวน เรื่องของอุปกรณ์ และเรื่องของระบบการลาดตระเวณเชิงคุณภาพ
สำหรับ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า มีภารกิจสนับสนุนคนที่ดูแลเรื่องป่าต้นน้ำ ในพื้นที่ เช่น อินทนนท์ นครศรีธรรมราช – เทือกเขาหลวงป่าต้นน้ำภาคใต้ และป่าต้นน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลำปะทาว จึงทำให้มีโอกาสทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า
คุณมานนีย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า อีกภารกิจหนึ่งที่ทำงานกับผู้พิทักษ์ป่า คือเรื่อง ของการสื่อความหมายเรื่องธรรมชาติ มูลนิธิไทยรักษ์ป่าจะจัดค่ายเยาวชน มีทั้งค่ายเยาวชนในระดับประถมปลายและมัธยมต้น โดยทำงานร่วมกับพี่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เป็นทีมสื่อความหมาย ให้กับเยาวชนให้เห็นถึงความสำคัญของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ นอกเหนือจากการถือปืน ไล่จับผู้หวังกอบโกยเอาประโยชน์จากธรรมชาติ
แม้ว่าวันผู้พิทักษ์ป่าจะจบไปแล้ว แต่การทำงานของพวกเขาเหล่านี้ก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เพื่อปกป้องผืนป่า ปกป้องทรัพยากรอันมีค่าให้ปลอดภัยจากการรุกรานและการทำลาย