กาแฟไล่โว่ จิบแล้ว เลิกยาก

กาแฟไล่โว่  จิบแล้ว เลิกยาก

คงจะดีไม่น้อยหากวันนี้เราดื่มกาแฟและเสพเรื่องราวดีๆจากกาแฟไปพร้อมๆกัน

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเส้นทางสู่วงการกาแฟดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ร้านกาแฟหรือค่าเฟ่ใหม่ๆผุดขึ้นมามากมาย จนหลายครั้งเราแอบคิดว่า “หากาแฟดื่มยังง่ายกว่าหาข้าวกินซะอีก”

ไม่ใช่เฉพาะแต่ตลาดกาแฟเท่านั้นที่ดูคึกคัก ในสายกาแฟพิเศษเองก็ดูจะเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าในบ้านเรานั้นก็มีจากหลากหลายพื้นที่ปลูก ขึ้นแท่นเป็นกาแฟพิเศษคุณภาพสูง

แต่หากพูดถึงกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า หลายคนอาจนึกไม่ออกว่ามาจากแหล่งใดบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วคิดว่าก็คงไม่ค่อยมีที่ไหนนำเอากาแฟโรบัสต้ามาเป็นกาแฟพิเศษ เพราะที่ผ่านมาเรามีภาพจำและคิดเสมอว่ากาแฟสายพันธุ์นี้เป็นกาแฟที่โรงงานนำไปทำกาแฟกระป๋อง

หมู่บ้านเกาะสะเดิ่ง ที่เราเดินทางมาในครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อก่อนชาวบ้านเก็บเมล็ดกาแฟแบบรูดไปทั้งแถบ ไม่แยกเมล็ดว่าเขียวหรือแดง เสียหรือไม่เสีย เก็บเสร็จก็ใส่ปี๊บใส่กระสอบไว้รอพ่อค้ามารับซื้อเพื่อนำไปเข้าโรงงานผลิตกาแฟ ขายได้กิโลละไม่กี่บาท

จนเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว พี่วัธ (ธวัชชัย ไทรสังขทัศนีย์) เจ้าของไร่กาแฟในเกาะสะเดิ่ง ได้เริ่มปฎิวัติวิถีการผลิตกาแฟอีกครั้ง ไม่ใช่แค่เฉพาะหมู่บ้านเกาะสะเดิ่งเท่านั้น หากแต่ยังขยายไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงด้วย จนปัจจุบันมีการรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กาแฟอินทรีย์ ภายใต้แบรนด์ กาแฟไล่โว่ ซึ่งเป็นชื่อของตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีเป้าหมายหลักคือพัฒนาคุณภาพกาแฟที่มีอยู่ให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น และเพื่อรักษาผืนป่าบ้านเกิดให้คงอยู่ตลอดไป (สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของงานวิสาหกิจชุมชนฯได้ที่ วิสาหกิจชุมชนในผืนป่าตะวันตก )

 

 

พัฒนาคุณภาพกาแฟที่มีอยู่ให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น

เมื่อกาแฟโรบัสต้า จะเข้าสู่วงการของกาแฟชนิดพิเศษ จึงเป็นการบ้านชิ้นสำคัญของ พี่วัธและสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน แบรนด์กาแฟไล่ จากคนที่ไม่เคยรู้เรื่องกระบวนการ Process กาแฟ (การแปรรูปกาแฟ) แต่ยังโชคดีที่มีพี่ซ้ง (ณรงศักดิ์ มาลีศรีโสภา) ผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการผลิตกาแฟ ภายใต้โครงการวิสาหกิจชุมชน ที่หมู่บ้านแม่กลองน้อย อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้กับกลุ่มกาแฟไล่โว่

ความตั้งใจของพี่วัธที่อยากทำให้กาแฟไล่โว่ก้าวเข้าสู่ตลาดกาแฟพิเศษนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ไกลเกินเอื้อมนัก เพราะด้วยความพิเศษของเมล็ดกาแฟและแหล่งปลูก ผสานเข้ากับความพิถีพิถันในแต่ละกระบวนการการผลิต ทำให้กาแฟที่นี้ มีรสชาติชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ มีความเป็นผลไม้สูง และยังมีบอดี้ที่เต็ม ซึ่งก่อให้เกิดความซับซ้อนของรสชาติอีกด้วย

 

พี่ซ้ง (ณรงศักดิ์ มาลีศรีโสภา) เจ้าหน้าที่โครงการวิสาหกิจชุมชนฯ / ผู้ผลิตกาแฟทีลอซู อ.อุ้มผาง จ.ตาก

 

กาแฟรุ่นพี่ “ทีลอซู” และน้องใหม่ “ไล่โว่”

 

รักษาผืนป่าให้คงอยู่ตลอดไป

ในช่วงที่เราเดินทางมาเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โชคดีที่กาแฟยังพอมีหลงเหลืออยู่กับต้นบ้าง พี่วัธจึงพาพวกเราไปช่วยเก็บกาแฟรอบสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งไร่กาแฟอยู่เพียงแค่หลังบ้านเท่านั้น

แต่เดี๋ยวก่อน…หากแต่พื้นที่หลังบ้านของพี่วัธนั่นคือภูเขาขนาดย่อมๆเลยนะ!
เรามองเห็นต้นกาแฟตั้งแต่ตีนเนินเขา มองขึ้นไปสุดลูกหูลูกตา ที่ความลาดชันประมาณ 45 องศา ไร่กาแฟที่เราพูดถึง ปลูกแซมอยู่กับต้นไม้หรือจะเรียกให้ถูกก็คือป่านั่นแหละ  แน่นอนว่าการจะปลูกต้นกาแฟได้นั้น ต้องมีร่มเงาของไม้ใหญ่ด้วย กาแฟจึงจะสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดี นี่จึงเป็นเสมือนเครื่องมือในการรักษาระบบนิเวศของพื้นที่ และทำให้คนอยู่ร่วมกันกับผืนป่าได้อย่างสันติสุข

 

ผืนป่าและภูเขาที่รายล้อมหมู่บ้าน

 

ลำห้วยโรคี่ มีน้ำใสสะอาด ไหลอยู่ตลอดทั้งปี ซึ่งมาจากผืนป่าที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ช่วยกักเก็บน้ำไว้

 

เรียนรู้กระบวนการ

ครั้งนี้พี่วัธให้พวกเราได้ลองลงมือทำเกือบทุกกระบวนการผลิตกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บ คัดเมล็ด ล้าง ตาก ตำ คั่ว บด ดริป จนกระทั่งดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟ

หลายคนคงสะดุดกับคำว่า “ตำ” ใช่แล้ว! เราไม่ได้พิมพ์ผิด เพราะที่นี่จะตำเมล็ดกาแฟ ในครกกระเดื่อง ไม่ใช้การสี หรือใช้เครื่องกะเทาะเปลือก โดยกาแฟที่นี่มีเพียง Dry Process ซึ่งเป็นการนำเอากาแฟสุกฉ่ำมาตากทั้งผล เมื่อแห้งได้ที่แล้วจึงตำเพื่อเอาเปลือกออก ก่อนนำไปคั่วในระดับที่พอเหมาะ เพื่อดึงเอาเสน่ห์ของกาแฟไล่โว่ออกมาให้ได้มากที่สุด

เรียกได้ว่าขั้นตอนการผลิตนั้นเกิดขึ้นในที่เดียวจบครบทุกกระบวนการ เพื่อให้ได้กาแฟคุณภาพดีส่งตรงถึงมือผู้บริโภค

 

ลงมือเก็บเมล็ดกาแฟ
คัดเลือกเมล็ดสีเขียวและเมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง
ล้างทำความสะอาดแล้วตากแดดให้แห้ง
Dry Process เป็นการนำเอากาแฟสุกฉ่ำมาตากทั้งผล จนแห้ง
ตำเพื่อเอาเปลือกออก
นำไปคั่ว บด และดริป พร้อมดื่ม
บรรจุซองพร้อมเสริฟความสดชื่น กลมกล่อม ถึงมือคุณ

 

มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะลองลิ้มชิมรสกาแฟโรบัสต้าแห่งแบรนด์ไล่โว่กันแล้วใช่ไหมล่ะ

โปรดอดใจรออีกนิด….เพราะเรากำลังจะยกขบวนเกษตกรผู้ผลิตกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟไล่โว่ไปไว้ในงาน Thailand Coffee Fest 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม 2562 ณ อิมแพค เอกซิบิชั่นฮอลล์ 5-6 เมืองทองธานี
โดยครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแต่กาแฟไล่โว่เท่านั้นนะ รุ่นพี่อย่างกาแฟทีลอซู ก็มาอยู่ในงานนี้ด้วย

รู้อย่างนี้แล้วรีบล็อควันรอไว้ได้เลย!

 


เรื่อง / ภาพ เกศรินทร์ เจริญรักษ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร