จำได้ว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว (ปัจจุบันผู้เขียนอายุ ๔๒ ปี) ผมและเพื่อนรักคนหนึ่งมีความตั้งใจเอาไว้ว่า อยากจะไปเที่ยวภูกระดึงสักครั้งในชีวิต แล้วความปรารถนานั้นก็เป็นผลสำเร็จในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนอันหนาวเหน็บ
รถบัสสีแดงเขลอะสนิมพาผมกับเพื่อนและผู้โดยสารคนอื่น ๆ (ส่วนมากจะเป็นพ่อค้าแม่ขายที่มาซื้อของในตลาดตัวเมืองหนองคาย เพื่อนำไปขายตามหมู่บ้านต่าง ๆ ตามรายทางนอกเมือง) ออกจากสถานีขนส่งจังหวัดหนองคายมุ่งสู่จังหวัดอุดรธานีตั้งแต่เช้าตรู่ และไปต่อรถกันอีกทีที่ขนส่งอุดรธานีเพื่อต่อไปยังภูกระดึง จังหวัดเลย
เราไปถึงตีนภูกระดึงประมาณเก้าโมงเช้า สมัยนั้นนับได้ว่ามีคนไปเที่ยวกันเยอะพอสมควร หนุ่มสาว คนแก่อายุห้าสิบขึ้นไปก็ยังมี ส่วนมากจะไปเป็นคู่ ๆ โดยเฉพาะหนุ่มสาวนั้นเป็นที่น่าอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง เดินไปคุยกันไป หยอกเย้าหัวเราะคิกคักกันตลอดทาง ช่วยเหลือดึงแขนกันบ้างเวลาขึ้นสู่ที่ชัน ๆ แต่ก็มีอยู่บ้างในบางคู่ที่ทะเลาะกัน ดูเหมือนจะขึ้นไม่ไหวแล้ว ผู้หญิงบางคนถึงกับนั่งร้องไห้เมื่อโดนฝ่ายชายทิ้งระยะห่างเหมือนไม่ใยดี ผมกับเพื่อนได้แต่มองตากันปริบ ๆ ไม่รู้จะช่วยยังไง สัมภาระที่หอบมาก็เต็มหลังแล้ว คล้าย ๆ เหมือนตั้งใจจะมานอนที่ภูกระดึงสักสิบคืนกันเลยทีเดียว
สองข้างทางที่ปีนป่ายขึ้นไป นอกจากมีโขดหินแล้วก็มีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเต็มสลับกับกอไผ่เป็นระยะ ๆ แรก ๆ ก็เดินคุยกันดีเหมือนจะมีความสุขที่ได้เห็นสิ่งแปลกตา ต้นไม้เขียว ๆ ผู้คนที่กลมกลืนกับธรรมชาติ บรรยากาศรอบ ๆ ดูดีมากและไม่ค่อยร้อน แต่ก็รู้สึกเหนื่อยเมื่อไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
เราไปเผลอตัวนั่งพักตั้งนานเมื่อถึงซำแฮก (ซำ คือที่ต่ำของเนินป่า เป็นที่พักระหว่างทางของนักท่องเที่ยว) นึกว่าถึงยอดภูแล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องใช้เวลานานในการเดินขึ้นไปอีก แรกเริ่มตั้งใจจะถึงยอดภูประมาณสามชั่วโมง แต่ที่ไหนได้กินเวลาไปตั้ง ๔–๕ ชั่วโมงกันเลยทีเดียว บ่อยครั้งที่ต้องหลบนั่งใต้ต้นไม้หายใจระรัวจนซี่โครงบานทั้งคู่ มองหน้ากันไปมาเหมือนมีคำถามว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ ?
มองเห็นลูกหาบถึงกับทึ่งว่าพวกพี่ ๆ เขาขึ้นมาได้ยังไง ทั้งสัมภาระก็เต็มบ่าขนาดนั้น มีแต่กระเป๋าใบใหญ่ ๆ พอเห็นโหนกตรงหัวไหล่ที่ปูดโปนดันเสื้อขึ้นมาก็พอเข้าใจได้ นี่แหละเพราะมนุษย์อาศัยธรรมชาติประกอบอาชีพ และธรรมชาติก็อาศัยมนุษย์เช่นกันเพื่อรักษาป่าให้คงอยู่ได้นานที่สุด ทั้งสองต่างก็พึ่งพากลมกลืนเป็นสิ่งเดียวกันจนแทบจะแยกไม่ออก ไม่เฉพาะป่าไม้เท่านั้น สิ่งอื่น ๆ ก็เช่นกัน ภูเขา ทะเล แม่น้ำ สัตว์น้อยใหญ่ ฯลฯ
ยิ่งปีนขึ้นสูงความเมื่อยล้าก็ยิ่งมีมากขึ้น ขาเริ่มสั่น หัวใจเต้นถี่เหมือนกลองเพล เราหยุดพักกันบ่อยขึ้น และคุยกันน้อยลง ได้แต่นั่งมองคนอื่นเดินก้มหน้าผ่านไปช้า ๆ เหมือนภาพสโลโมชั่น จนในที่สุดเราก็ขึ้นไปถึงยอดภูได้สำเร็จ กำลังใจจึงเริ่มมา รู้สึกฮึกเหิมขึ้นบ้าง ยิ่งลมเย็น ๆ พัดโชยมาจนต้องเผลอหลับตาสูดเข้าปอดแรง ๆ
บนลานกว้างมีเต้นท์หลากสีสลับกันเต็มไปหมด ทั้งของอุทยานและนักท่องเที่ยวที่นำเต้นท์ส่วนตัวมากางด้วย ที่สำคัญมีกวางน้อยตัวหนึ่งเดินไปมาดูเหมือนมันไม่กลัวนักท่องเที่ยวเลย ผมเคยได้ยินว่าเมื่อก่อนมีอีกหนึ่งตัวอยู่เป็นคู่กัน แต่ตอนนี้ไม่รู้มันหายไปไหนแล้ว
หลังจากนอนเอาแรงกันหนึ่งคืนด้วยความหนาวเหน็บแล้ว เราต้องตื่นแต่เช้าตรู่ จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานพาไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าผา เป็นภาพที่ประทับใจผมมาก ถึงแม้จะมองเห็นเป็นทะเลหมอกเต็มไปหมดก็ตาม บนสันภูกระดึงเป็นลานกว้าง เราเดินกันทั้งวันจนเย็น อีกสถานที่หนึ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคือผาหล่มสัก เราไปรอดูพระอาทิตย์ตกดินที่นั่น และด้านล่างจะเป็นแนวป่าเขียวขจีไปไกลจนสุดสายตา ขากลับยิ่งสนุก ทุกคนต่างร้องเพลงร่วมกันจนถึงที่พัก บรรยากาศอันแสนอบอุ่นที่หาไม่ได้ง่ายนัก ทุกคนต่างยิ้มไมตรีให้กันทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย
เป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืม จนผมกับเพื่อนรักคนเดิมต้องกลับไปเยือนภูกระดึงเพื่อซึมซับบรรยากาศอีกครั้งในปีต่อมา
ถึงแม้ว่าจะผ่านมานานหลายปีแล้ว ภูกระดึงยังคงตราตรึงอยู่ในใจผมเสมอ ป่าไม้ ภูเขาทำให้เกิดมิตรภาพของผู้คน ความรักความหวงแหนป่านั้นเกิดขึ้นอยู่ภายในโดยอัตโนมัติ
ผมอยากให้คนไทยทุกคนรักและรักษาในสิ่งที่เรามี ป่าไม้ ภูเขาเป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง หากเราทุกคนร่วมมือกัน ไม่ใช่แค่ปลูกทดแทนเท่านั้น แต่หากเราสามารถดำรงรักษาไว้ให้ลูกหลาน โดยการแนะนำ ส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติให้พวกเขาได้เรียนรู้ สัมผัสด้วยตนเอง จะเป็นการดีที่สุด
ผมเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะยังคงอยู่กับเราตราบนานเท่านานแน่นอนครับ.
สมชัย ทาสะโก
WILD-WRITE โครงการเปิดรับต้นฉบับบทความ สารคดี บทกวี บอกเล่าเรื่องราว สืบ นาคเสถียร ในความทรงจำ เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปี สืบ นาคะเสถียร
ชวนเล่าเรื่อง สืบ นาคะเสถียร ในมุมมองความประทับใจของคุณ หรือจะเป็นเรื่องราวที่เก่ียวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คุณประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติ หรือแม้แต่ความประทับใจจากการเดินทางเที่ยวชมไพรกว้างและมหาสมุทรสุดขอบฟ้าก็ยินดีเปิดรับ
บอกสิ่งที่คุณคิด บรรยายสิ่งที่คุณรู้สึก และบอกเล่าเรื่องราวอย่างสร้างสรรค์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ กิจกรรม WILD WRITE ชวนเล่าเรื่องจากป่าสู่เมือง (ซีรีย์ 1)