SEUB INSPIRE รายการสิ่งแวดล้อมใหม่ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรว่าด้วยเรื่องราวแรงบันดาลใจของคนทำงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ในเอพพิโซดแรกเราได้ชวน ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ ช่างภาพสัตว์ป่า และกรรมการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร มาพูดคุยถึงเหตุผลที่ผันตัวเองมาทำงานถ่ายภาพและเล่าเรื่องสัตว์ป่า
พร้อมเรื่องราวการติดตาม “กวางผา” สัตว์ชนิดแรกที่ใช้วิธีฝังตัวเพื่อเฝ้าติดตามความเป็นไปของสัตว์ป่าบนดอยสูง
.
จุดเริ่มต้นของการเป็นช่างภาพสัตว์ป่า
ผมเริ่มจากการดูนกก่อน จะเรียกว่าเป็นการดูแบบบ้าคลั่งก็ได้ เพราะผมพยายามจะไล่เก็บชนิดนกตามหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่ง เลขะกุล ซึ่งมีรายชื่อนกอยู่ 900 ชนิด แต่พอดูๆ ไปมันรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่แค่การดูนกหรือการตามเก็บชนิด แต่เราได้รู้จักว่านกแต่ละตัวมันทำหน้าที่อะไร
หลังจากดูนกมาหลายปีก็เริ่มเอากล้องถ่ายรูปมาใช้ ผมเริ่มจากเลนส์ 50 มิลลิเมตรก่อน ได้ลองถ่ายและค่อยๆ พัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ กระทั่งวันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราน่าจะอยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้ จากที่ไปดูแล้วก็ต้องกลับก็ไม่อยากกลับ ผมคิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่น่าจะทำรายได้ให้เราพออยู่ได้ จึงเปลี่ยนมาทำงานอย่างนี้
.
ความสวยงามสู่ความหมาย
การดูนกมันเป็นความสวยงาม ผมจำนกตัวแรกที่ดูได้ มันเป็นนกอีโก้งธรรมดาที่ดูมันผ่านกล้องสโคป ผมตะลึงว่าทำไมสีของมันสวยได้ขนาดนี้ มันเริ่มจากความสวยแล้วพัฒนาต่อไปว่า ทำไมนกตัวนี้ถึงเป็นแบบนี้ ทำไมปากถึงเป็นแบบนี้ ทำไมมันต้องมีหนวด สุดท้ายเราได้รู้ว่ามันถูกออกแบบมาให้เหมาะกับหน้าที่มัน นกที่มีหนวดเพราะมันมีหน้าที่กินแมลง หนวดจะป้องกันไม่ได้แมลงปีกแข็งมาทิ่มตามัน หรืออย่างเช่นการบินของนกจาบคา เรารู้สึกว่ามันบินจังหวะเดียวกับผีเสื้อ เพราะหากมันจะโฉบผีเสื้อกินในอากาศ มันก็ต้องบินให้เข้าจังหวะกับผีเสื้อ
.
มองเห็นสัตว์ป่าด้วยสายตา
ผมเคยเขียนงานชิ้นหนึ่งไว้ว่า “ผมมองเห็นมันตอนที่ละสายตาจากกล้องมองภาพ” เพราะจริงๆ แล้วเราควรจะมองมันด้วยสายตาของเรา ผมเขียนต่อไปว่า “โดยผ่านหัวใจ” ก็คือสายตาที่ผ่านหัวใจ
ถ้าเรามองผ่านเลนส์มันจะมีอะไรมากั้นเรากับเขา แต่ถ้าเรามองมันด้วยสายตาของเราเองจริงๆ เราจะได้เห็นชีวิตของมันบนความเป็นจริง
.
ความสนใจต่อกวางผา
กวางผา เป็นสัตว์ตัวแรกๆ ที่ผมเริ่มติดตาม ซึ่งต้องย้อนไปถึงพี่สืบ (สืบ นาคะเสถียร) เพราะผมเคยอ่านรายงานของพี่สืบว่ามีกวางผาอยู่ที่ดอยม่อนจอง (ขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย) ก็เลยตามไปดู
กวางผาเป็นงานชิ้นแรกที่ผมลงไปฝังตัวอยู่ในพื้นที่นานมาก กว่าจะทำเสร็จแล้วได้เผยแพร่ขึ้นหน้าปกและเป็นสกู๊ปลงนิตยสารสารคดีใช้เวลาทำงานอยู่ 4 ปี หลังจากนั้นก็ยังเดินทางไปติดตามต่อเนื่องอีกหลายปี
สิ่งที่ผมเห็น กวางผาเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และเป็นสัตว์ที่โชคร้าย เพราะคนมีความเชื่อว่ามันเป็นยารักษาโรค มันถูกมองว่าไม่มีมูลค่าตอนที่ยังมีชีวิต คนเชื่อว่ามันจะมีมูลค่าก็ต่อเมื่อมันตาย ได้เอาน้ำมันเอากระดูกมาทำยา
ตอนนั้นคุณสืบบอกว่ากวางผาเป็นสัตว์ที่มีอนาคตน่าเป็นห่วง เพราะที่อยู่อาศัยเหลือเพียงตามดอยที่ถูกเมืองและพื้นที่ทำการเกษตรล้อมรอบ มันเป็นเหมือนเกาะที่อยู่กลางทะเล ซึ่งมันเป็นปัญหาของสัตว์ป่าบนโลกนี้ในปัจจุบัน หรือก็คือการที่ผืนป่าถูกตัดแบ่งออกเป็นหย่อมๆ แล้ว ในสมัยนั้นสถานะของกวางผาชัดเจนมากว่าเป็นสัตว์ป่าที่ติดอยู่บนเกาะ
.
กวางผาในมุมของช่างภาพ
การถ่ายภาพกวางผาค่อนข้างง่ายกว่าสัตว์อื่นๆ เพราะมันมีที่ประจำที่มันเกาะ เราแค่ก็ต้องรอ ความยากมันอาจอยู่เราต้องไต่ไปตามดอย เหนื่อยหนักกับสัมภาระ
ชาวมูเซอเรียกกวางผาว่าม้าเทวดา เป็นพาหนะของพระเจ้า จริงๆ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของพวกแพะภูเขาที่กีบเท้ามันถูกออกแบบมาให้เดินบนหน้าผาชันๆ ได้ ความที่เห็นมันกระโดดชาวบ้านก็คิดว่าคงมีแต่พาหนะของเทวาเท่านั้นแหละที่ทำแบบนี้ได้ แต่ในมุมช่างภาพกวางผาเป็นสัตว์ที่นิ่งมาก นิ่งจนเรารู้สึกอยากให้มันกระโดดบ้าง วิ่งบ้าง เพื่อที่เราจะได้รูปที่มันแตกต่างจากรูปส่วนใหญ่ที่เห็นมันยืนอยู่นิ่งๆ
แต่สุดท้ายความนิ่งของกวางผาก็สอนเราว่า “ในที่สุดสงบนิ่งหยุดใจที่ร้อนรุ่มกระวานกระวาย นี่อาจเป็นหนทางในการดำเนินชีวิตอีกแบบหนึ่ง รีบร้อนเพียงใดจุดหมายยิ่งห่างไกล หยุดนิ่งความพร่าเลือนกับชัดจน”
อย่างที่ผมเขียนในหนังสือว่า ผมไปดูกวางผาเพื่อตามรอยปริศนาแห่งผาสูง แต่สุดท้ายแล้วหลายปีผ่านไป ผมพบว่าปริศนาข้อนี้มันเฉลยให้ผมเห็นตั้งแต่วันแรกที่ผมไปถึง ผมเห็นมันยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้กระโดดโลดเต้น ชีวิตมันไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวอะไร
.
หน้าที่คือการรอคอย
การรอของช่างภาพสัตว์ป่าเป็นสิ่งที่ติดมากับอาชีพ มันก็เหมือนกับกล้อง ขาตั้ง เลนส์ การรอก็เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ทำให้เจอกับสัตว์ป่า เพราะฉะนั้นเราก็ต้องยอมรับว่ามันต้องรอ เหมือนนักมวยที่อยากเป็นแชมป์ ก็ต้องซ้อม แล้วเราก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นการรอ แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องเจอและต้องอยู่กับมันให้ได้
.
ภาพกวางผาในหนังสือ อาชิ
หนังสืออาชิเป็นหนังสือที่ค่อนข้างจะหม่น เป็นความตั้งใจตั้งแต่ตอนทำงาน ผมพยายามจะสะท้อนมันออกมาว่าเวลาเรามองสัตว์ป่าเราไม่ได้รู้จักมันจริงๆ เพราะฉะนั้นภาพมันก็จะออกมาไม่ชัด แล้วเป็นโทนภาพที่ค่อนข้างมืดเพราะว่าอนาคตของมันไม่ได้สดใสมากนัก มันอยู่กับอนาคตที่มืดเหมือนตอนกลางคืนและจะไม่เจอพระอาทิตย์อีกแล้วในวันพรุ่งนี้ ก็พยายามสะท้อนสิ่งที่มันเป็น แสดงความรู้สึกแบบนั้นออกมาในรูป
แต่ว่าในความมืดหม่นมันยังมีความหวัง เพราะสิ่งหนึ่งที่สัตว์ป่าสอนผมคือ มันไม่เคยหมดหวังกับการใช้ชีวิต มันก็ยังใช้ชีวิตไปตามปกติ มันก็ยังกินยังกระโดดไปมา มีลูก ไม่ได้ท้อแท้กับสิ่งที่คิดว่าพรุ่งนี้จะไม่มีดวงอาทิตย์อีกแล้ว
.
.
.
ความหวังที่มนุษย์มอบให้
กวางผาได้บอกเราว่าถึงเวลาที่คนต้องกลับไปช่วย อย่างเช่นโครงการที่เราเอากวางผาในกรงเลี้ยงไปปล่อยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ก็เป็นกวางผาตัวแรกที่มีการทำงานอย่างเป็นระบบ มีมูลนิธิสืบนาคะเสถียรร่วมกับกรมอุทยานฯ มีนักวิจัย หน่วยงานสถานีเพาะเลี้ยงร่วมกันทำงาน
เดิมทีที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาเพาะเลี้ยงกวางผามานานแล้ว และก็สามารถผสมพันธุ์จนมีจำนวนมากขึ้น มีนักวิชาการคนทำงานที่เขาพยายามทำงานอยู่ แต่อาจขาดการสนับสนุนที่จริงจัง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ พอมีมูลนิธิสืบนาคะเสถียรเข้าไปช่วยเลยทำให้งานของนักวิชาการที่เขาคิดเอาไว้สามารถขยับได้ดีขึ้น เป็นจริงเป็นจังมากขึ้น
ผมคิดว่าความตั้งใจของคนที่อยากทำงานมันมีเยอะอยู่แล้ว อาจขาดแต่โอกาส เรื่องงบประมาณอาจมีแต่ต้องนำไปใช้กับเรื่องอื่นด้วย ผมคิดว่าคงมีหลายเรื่องหลายอย่างหลายขั้นตอนที่เราอาจไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง แต่เมื่อเราเข้าไปช่วยขั้นตอนเหล่านั้นก็สามารถเดินต่อไปได้
กวางผาเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ปัญหาของสัตว์ป่าไม่ใช่แค่การถูกล่าหรือถูกยิง หรือที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ เราต้องคิดไปถึงว่ามันเจอปัญหามากมายยิ่งกว่านั้น อย่างเช่นการที่ติดอยู่ในเกาะ การที่ต้องผสมกันเองอยู่ในกลุ่ม ความเชื่อเรื่องสัตว์ที่ดีคือสัตว์ที่ตายแล้วไม่เคยหายไปไหน เราต้องเริ่มคิดไปไกลกว่าการป้องกันไม่ให้มันถูกล่า แม้กระทั่งมันอยู่ในป่าดีๆ แล้ว แต่มันก็ยังไม่ดีอย่างที่เราคิด เพราะมีปัจจัยหลายอย่างมาก เช่น บางป่ามันไม่มีสัตว์ผู้ล่าแล้ว หรือบางป่าถูกลุกล้ำถูกบีบเข้าไปจนกระทั่งสัตว์เกิดความเครียด อันนี้เป็นเรื่องที่เราต้องนึกถึงมันมากยิ่งขึ้น
.
ความหวังที่กวางผามี
สัตว์ป่าสอนผมมาตลอดว่าเราต้องมีความหวัง ผมคิดว่าในการทำโครงการกวางผาเป็นโครงการที่เอาวิชาการเข้ามาใช้แบบเต็มที่ มีการสนับสนุนจากคนภายนอก ไม่ว่าจะเป็นงานจัดวิ่งระดมทุนก็ตาม ผมว่าคนทุกคนเริ่มเข้าใจว่าสัตว์ป่ามันเจอปัญหาอะไรอยู่ และทุกคนก็พร้อมที่จะช่วย
และเป็นเรื่องดีที่คนรุ่นใหม่ๆ อย่างน้องทีมงานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้เข้ามาช่วยกันสานต่อสิ่งที่พี่สืบเริ่มไว้เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วให้เป็นภาพจริงขึ้นมา ผมคิดว่านี่คือความหวังที่แท้จริงของสัตว์ป่าและการมีชีวิตอยู่ร่วมกัน เหมือนที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่าโลกไม่ได้สร้างมาเพื่อคนอยู่เท่านั้น มันต้องแบ่งกันอาศัย
.
ความสำคัญของนักสื่อความหมาย
สุดท้ายมันเริ่มจากตัวเราก่อน ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ต้องเริ่มที่เราเข้าใจสิ่งเหล่านี้จริงจัง มันสอนอะไรเรา เราถึงสามารถบอกคนอื่นได้ ถ้างานที่เราทำมันไม่ได้สอนอะไรเรา เราคงเอาไปบอกคนอื่นไม่ได้ว่ามันเป็นยังไง
เมื่อเราถ่ายรูปนกตัวหนึ่ง ผมหวังว่ามันจะไม่ใช่แค่ภาพนกที่สวยงาม โดยเฉพาะในปัจจุบันเรามีเครื่องมือที่ดีมาก จนเราอาจจะละเลยความเป็นจริงของนก อย่างเช่น เราถ่ายนกกินปลามาได้ตัวหนึ่ง เป็นภาพที่มันโฉบคาบปลาสวยงาม แต่จริงๆ มันอาจจะรอมาแปดชั่วโมง เราควรจะกลับไปดูว่านกมันใช้ความพยายามมากแค่ไหนถึงจะได้ปลาตัวหนึ่ง แล้วการกินของมันก็เป็นแค่ผลพลอยได้จากการทำงานของมัน
ผมคิดว่าภาพสวยๆ มันน่าจะพาเราย้อนกลับไปถึงที่มาได้มากขึ้น แต่ถ้าเราหยุดไว้แค่ภาพสวยๆ มันน่าเสียดายโอกาส
.
.
.
ข้อควรระวังของการเป็นช่างภาพสัตว์ป่า
ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของช่างภาพสัตว์ป่า แต่คนที่ก้าวเท้าเข้าไปในป่ามันก็เป็นการรบกวนแล้ว ตัวผมเองรบกวนมากกว่าคนอื่นเลยเพราะผมทำงานมาหลายปี
คำว่า “เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า” เราอาจจะต้องเลิกคิดแบบนั้นเพราะว่าจริงๆ แล้วรอยเท้าเรานี่ล่ะคือตัวที่รบกวน เราต้องตระหนักตรงนี้ก่อน ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรเข้าป่า แต่เราต้องเข้าไปพร้อมกับความตระหนักว่าพื้นที่เหยียบไป เราอาจเหยียบแมลงหรือไส้เดือน เราไปทำใยแมงมุมที่มันถักใยไว้รอดักแมลงขาด มันเป็นเรื่องที่เราต้องรู้ว่าเราเป็นสิ่งแปลกปลอมในป่า ช่างภาพสัตว์ป่าก็ต้องให้เกียติเจ้าของบ้านคือต้องซ่อนตัวอย่างมิดชิด ไม่ให้มันเห็น เพราะจะทำให้สัตว์ป่าเสียโอกาสในการหากิน ไม่เข้าไปเกินระยะที่มันอนุญาต
ตอนนี้มีคนเยอะมากที่มีงานอดิเรกหรือใช้กล้องเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ เราต้องอย่าให้โอกาสนี้เสียไป ต้องพยายามมองสัตว์ป่าผ่านหัวใจให้มากกว่าเดิม
อย่าลืมว่าเรากำลังทำงานกับชีวิต ไม่ได้ไปถ่ายก้อนหิน สัตว์ป่ามีชีวิต มีความกลัว มีอารมณ์โกรธ กำลังเลี้ยงลูก กำลังกิน เราไม่ควรรบกวนเขามากเกินไป