เมื่อเวลาล่วงเลยไป สิ่งของต่าง ๆ ย่อมสิ้นอายุขัยการใช้งานและถูกทอดทิ้งจนกลายเป็นขยะไร้ค่า แต่ใครจะไปรู้ว่ามีอยู่หนึ่งแบรนด์หยิบขยะเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋า เพื่อให้ขยะเหล่านั้นได้คืนชีพกลับมาโลดแล่นในธุรกิจแฟชั่นอีกครั้ง
มรรษพล สร้อยสังวาลย์ เจ้าของแบรนด์ Mat Archer ที่ชื่อมีความหมายว่า ‘นักแสวงหาวัสดุ’ ได้หยิบเอาอวนประมงเก่า ๆ ที่หมดอายุการใช้งานจนถูกทิ้ง มาผลิตเป็นกระเป๋าที่มีดีไซน์ สวย ล้ำ ไม่ซ้ำใคร
กระเป๋าของ Mat Archer นั้น เรียกได้ว่าตอบทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะต้องการจุของเยอะหรือพกของกระจุกกระจิก แบรนด์นี้ก็มีให้เลือกสรรมากมายหลายแบบ ที่สำคัญวัสดุเกือบ 80% รีไซเคิลจากขยะอย่างอวนจับปลา ยางในรถบรรทุก และขวดพลาสติก ทั้งหมดนี้ถูกนำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลและสร้างใหม่กลายเป็นกระเป๋าที่มีมากกว่าความเท่และมีสไตล์ แต่ยังเป็นกระเป๋าที่รักษ์โลกด้วย
เราจึงอยากพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับแบรนด์ Mat Archer ผ่านคุณมรรษพลกันว่า มีเรื่องราวอะไรบ้างซ่อนอยู่ในกระเป๋าใบนี้
จุดเริ่มต้นของ Mat Archer
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Mat Archer เริ่มมาจากตอนที่เรายังทำงานออฟฟิศอยู่ ตอนนั้นเราอยากมีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเองสักชิ้นหนึ่ง เราเลยมองสิ่งที่อยู่รอบตัวเราเพื่อหาไอเดีย
กระเป๋าจึงเป็นสิ่งแรก ๆ เลยที่เรานึกถึง ด้วยอาชีพกราฟิกดีไซเนอร์ที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนตลอดเวลา เราจึงได้เริ่มออกแบบและสร้างแบรนด์กระเป๋าขึ้นมา แต่วัสดุที่ใช้ก็เป็นวัสดุทั่วไปไม่ใช่วัสดุรักษ์โลกแบบในปัจจุบันแต่อย่างใด
อะไรทำให้เราเปลี่ยนมาใช้วัสดุจากของเหลือทิ้ง
จุดเปลี่ยนของแบรนด์เราคือ ช่วงปี 2018-2019 เราได้ไปออกบูธต่างประเทศ และพบว่าหลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้วัสดุรักษ์โลกมากขึ้น ทำให้เราเกิดไอเดียที่จะแสวงหาวัสดุใหม่ ๆ จากขยะเหลือทิ้ง แต่มันยังสามารถมาสร้างมูลค่าได้มาทำเป็นแบรนด์ของเรา
วัสดุที่เราเลือกในตอนนั้นเลยเป็น อวนจับปลาที่หมดอายุการใช้งานแล้ว สาเหตุที่เราเลือกใช้อวนจับปลา เพราะว่า บ้านเกิดเราอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมันติดทะเล เวลาเราไปเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย หรือไปเที่ยวกับครอบครัว เราก็จะเจอพวกอวนจับปลาเกลื่อนกลาดอยู่ตามชายหาด เลยเกิดความคิดว่าของเหลือทิ้ง ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็คงมีขยะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราลองหยิบอวนจับปลาเหล่านี้มาทำเป็นกระเป๋าดู
นอกจากอวนจับปลา มีวัสดุอะไรอีกที่ Mat Archer เลือกใช้
ถึงแม้ว่ากระเป๋าของเราจะไม่ได้ใช้วัสดุรีไซเคิล 100% แต่เราก็อยากให้มันเป็นวัสดุรีไซเคิลมากที่สุด เราจึงค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนวัสดุที่ใช้มาเรื่อย ๆ นอกจากอวนจับปลาแล้ว เราก็ได้เปลี่ยนจากการใช้หนังแท้มาเป็นยางในรถบรรทุกมาทำกระเป๋าแทน ซึ่งมันมีความยืดหยุ่นและทนทานสูงกว่าหนังแท้หลายเท่า
ในส่วนของผ้าที่ใช้ทำกระเป๋า เราก็อยากได้ผ้าจากวัสดุรีไซเคิล เราเลยเลือกใช้ผ้าที่ผลิตจากขวดน้ำดื่ม หลายคนอาจแปลกใจว่า จากขวดน้ำดื่มที่เราดื่มกันทุกวัน จะกลายมาเป็นผืนผ้าได้ยังไง มันสามารถทำได้ด้วยการเอาขวดพลาสติกมาบดให้ละเอียด และตีมันออกมาให้กลายเป็นเส้นใย จนสามารถนำไปทอเป็นผืนผ้าได้ ข้อดีของผ้าจากเส้นใยพลาสติกคือความแข็งแรงและความกันน้ำ ทำให้สามารถใช้ได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น
จากการทำแบรนด์ Mat Archer มา คุณมรรษพลมองเห็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอะไรบ้าง
เมื่อก่อนเราไม่ได้อินกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอะไรมากมายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเล แต่พอเราทำแบรนด์นี้ ทำให้เราจำเป็นต้องค้นคว้าหาข้อมูลพวกนี้มากขึ้น จนทำให้พบข้อมูลว่า ประเทศไทยมีขยะในทะเลเป็นอันดับที่ 10 ของโลก จากตรงนี้เราก็ได้ค้นต่อจนเจอว่า ขยะในทะเลของไทยหลัก ๆ จะเป็นอวนจับปลาที่ถูกทิ้งแล้ว โดยมากถึง 700,000 กิโลกรัมต่อเดือน
เราอาจมองว่าปัญหาพวกนี้มันเป็นเรื่องไกลตัว ขยะอยู่ในทะเลแล้วมันเกี่ยวอะไรกับตัวเรา แต่จริง ๆ แล้วมันเกี่ยวกับเราเต็ม ๆ เลย พอถึงจุดหนึ่งขยะพวกนี้ก็จะย่อยสลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ อาจจะเล็กมากจนเรามองไม่เห็น บางทีสัตว์น้ำก็กินเศษพวกนี้เข้าไป เราที่กินสัตว์น้ำเหล่านี้ก็จะได้รับเศษขยะเข้าสู่ร่างกายอีกทอดหนึ่งด้วย วนเวียนอย่างนี้ไม่รู้จบ
แล้วแบรนด์ Mat Archer มีบทบาทต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างไร
เราไม่ได้ตีความตนเองว่าเป็นนักอนุรักษ์เท่าไหร่ เราก็ยังคงทำงานดีไซเนอร์อยู่ แต่สิ่งที่ Mat Archer ทำคือการเป็นกระบอกเสียง ส่งต่อความคิดหรือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมให้คนทั่วไปได้รับรู้
บางคนก็เคยมองว่ากระเป๋าสวยงามเพียงแค่นั้น แต่พอเขาได้รู้เรื่องราวที่มาที่ไปของวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า มันก็เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คนต่อได้ นอกจากนี้เขาก็ได้เอาเรื่องราวตรงนี้ไปบอกคนอื่นต่อ เรามองว่าการบอกต่อเรื่องราวด้านสิ่งแวดล้อมคืออีกหนึ่งวิธีเล็ก ๆ ที่เราสามารถทำได้
เพราะอะไรแบรนด์เสื้อผ้าในปัจจุบันถึงควรหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เรามองว่า ปัจจุบันเสื้อผ้าเป็นมากกว่าปัจจัย 4 ของมนุษย์ บางครั้งเราก็ใส่มันเพื่อเสริมสร้างบุคลิก บางครั้งเราก็ใส่มันเพื่อภาพลักษณ์ ทำให้แบรนด์ใหญ่ ๆ หลายแบรนด์ผลิตเสื้อผ้ามากเกินไปจนกลายเป็นปัญหาฟาสต์แฟชั่น (fast fashion)
ฟาสต์แฟชั่นเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญของสิ่งแวดล้อม การผลิตเสื้อผ้าหนึ่งชิ้น เราต้องเสียทรัพยากรธรรมชาติไปตั้งเท่าไหร่ ตั้งแต่กระบวนการผลิต จนถึงการส่งขาย ในท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นขยะล้นโลก เหมือนที่เราเห็นกันตามสุสานเสื้อผ้า
เราเลยมองว่าถ้าหากอุตสาหกรรมเหล่านี้หยิบเอาวัสดุหมุนเวียนมาใช้ได้ มันก็จะช่วยลดปัญหาขยะได้มากเลยทีเดียว เพราะยังไงเสื้อผ้าก็เป็นปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องใช้กันอยู่แล้ว
แล้วในอนาคต Mat Archer มีแพลนเกี่ยวกับสินค้าและวัสดุอย่างไรบ้าง
แน่นอนว่าเราก็พยายามมองหาวัสดุใหม่ ๆ อยู่ตลอด ตามชื่อแบรนด์ของเรา เราเองก็ไม่ได้อยากยึดติดกับอวนจับปลามากเท่าไหร่ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เราก็ตาม อย่างที่เห็นเราก็หยิบเอาขวดพลาสติก หรือยางในรถบรรทุกมาใช้ และในอนาคตเราก็จะยังคงมองหาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อมาบอกต่อเรื่องราวด้านสิ่งแวดล้อมให้กับคนอื่น ๆ ต่อไป
ผู้เขียน
หนุ่มน้อยผู้หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบ ออกเดินทางเพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ และชอบอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจ