ปัจจุบันประเทศไทยเหลือผืนป่ากันอยู่เท่าไหร่? สัตว์ป่าเหลือน้อยแค่ไหน? ใครจะเป็นคนที่คอยรักษาให้ที่เหลือยังคงอยู่และช่วยอนุรักษ์
เชิญร่วมหาได้ในงาน Run for Home of Wildlife งานวิ่งเพื่อการกุศล ที่จัดขึ้นในปีนี้เป็นปีที่ 2 โดยมูลนิธิสืบนาคะเสถียร
แน่นอนว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างเปิดกว้าง ให้เข้าชมอย่างเสรี ผู้ที่สนใจกิจกรรมในครั้งนี้แต่ไม่สะดวกที่จะร่วมวิ่งก็สามารถเข้ามาชมกิจกรรมให้ความรู้ภายในงานได้ อาทิ กิจกรรมคัดแยกขยะโดยองค์กร BIG Tree, กิจกรรมการแยกเศษอาหารโดยกลุ่ม S.O.S., บูธนิทรรศการของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรในการให้ความรู้อนุรักษ์ไว้ซึ่งผืนป่าตะวันตก และภายในงานยังมี Backdrop จำลองผืนป่าและเหล่าสัตว์ป่าไว้ให้ถ่ายรูปชิคๆ อัพลงโซลเชียลอีกด้วย
วันนี้เราจึงมีเหตุผลมาบอกว่าทำไมคุณถึงควรเข้าร่วมวิ่งไปกับพวกเราในกิจกรรม Run for Home of Wildlife 2018 : วิ่งเพื่อบ้านของสัตว์ป่า ในวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2561 เวลา 05.00-08.30 น. ณ สวนหลวง ร.9 (ประตูดาวเรือง) เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร นี้
1. ของที่ระลึกสุดเก๋
แค่คุณมาร่วมเป็นนักวิ่งของกิจกรรมทุกระยะทางจะมี Bib หรือ เบอร์วิ่ง ที่เป็นหมายเลขประจำตัวของนักวิ่งไว้ติดตามที่ต่างๆ เพื่อระบุตัวตนของนักวิ่ง และจะได้รับเสื้อ “SEUB RUN FOR HOME OF WILDLIFE 2018 : วิ่งเพื่อบ้านของสัตว์ป่า” ที่เป็นเสื้อแบบ Limited Edition หาใส่ได้เฉพาะโครงการนี้เท่านั้น ไปแบบฟรีๆ เมื่อนักวิ่งผ่านเข้าเส้นชัยจะได้รับเหรียญรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของนักกีฬาไปอีก 1 เหรียญ นอกจากนี้ นักวิ่งยังจะได้รับแก้วน้ำซิลิโคนใบไม้สีสันสดใสสำหรับใช้เติมน้ำระหว่างการวิ่งคนละ 1 ใบ เพื่อเป็นการลดการใช้แก้วน้ำพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งอีกด้วยนะ
2. ร่วมสนับสนุนเสบียงให้ผู้พิทักษ์ป่า
กิจกรรมที่จัดขึ้นถ้าจะเป็นการวิ่งอย่างเดียวก็ธรรมดาไปสำหรับนักวิ่งมืออาชีพอยู่ เพราะระยะทางการวิ่งมีแค่ 3 กม. และ 10 กม. เลยอาจดูไม่ท้าทาย ทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียรจึงได้ร่วมมือกับข้าวตราเกษตรจัดกิจกรรมเติมเข้าไปในงาน Challenge for Ranger โดยนักวิ่งจะต้องวิ่งไปพร้อมกับแบกข้าวสารหนัก 5 กก. หรือ 10 กก. ตลอดการวิ่ง โดยข้าวสารทุกกิโลกรัมที่นักวิ่งพาเข้าเส้นชัยจะถูกนำไปมอบเป็นเสบียงสำหรับผู้พิทักษ์ป่า ผู้ที่คอยลาดตระเวณดูแลสัตว์ป่าและรักษาผืนป่าให้คงอยู่คู่ประเทศไทย
3. มีส่วนร่วมสนับสนุนรักษาบ้านให้สัตว์ป่า
ผู้วิ่งทุกคนคือผู้ร่วมสนับสนุนในการรักษาผืนป่าตะวันตกที่เป็นบ้านของสัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่มีหน้าที่คอยดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในผืนป่าตะวันตก เพราะรายได้จากกิจกรรมในครั้งนี้ (หลังหักค่าใช้จ่าย) ทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียรจะนำไปใช้สำหรับดำเนินงานอนุรักษ์ในผืนป่าตะวันตกตามแผนงานยุทธศาสตร์ขององค์กร
4. ความรู้เรื่องผืนป่าตะวันตก
ผู้วิ่งและผู้เข้าชมจะได้รับรู้เรื่องราวความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ความกว้างใหญ่ของผืนป่าตะวันตกที่มีความสำคัญและเป็นพื้นที่อนุรักษ์ทั้ง 17 แห่ง รวมไปถึงเรื่องราวของผู้พิทักษ์ป่าที่คอยรักษาผืนป่านี้ไว้ให้กับคนไทย หลายคนอาจจะสงสัยว่าผืนป่าตะวันตกนั้นสำคัญอย่างไร? พื้นที่อนุรักษ์มีที่ไหนบ้าง? มาร่วมวิ่งหาคำตอบด้วยตัวคุณเองจากรายละเอียดที่สอดแทรกไว้ระยะทางวิ่ง
5. รู้จักมูลนิธิสืบนาคะเสถียรมากขึ้น
รับรู้ถึงเรื่องราวการทำงานของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรในการรักษาผืนป่าตะวันตก จากบูธนิทรรศการที่ถูกจัดขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้สาธารณชนได้ร่วมสืบสานเจตนารมณ์ รักษ์ผืนป่าและสัตว์ป่าเช่นเดียวกับที่ ‘สืบ นาคะเสถียร’ ได้ตั้งใจรักษาผืนป่าแห่งนี้ให้ยังคงอยู่สืบต่อไป
6. จุดเริ่มต้นของประสบการณ์ใหม่ๆ
การเข้าร่วมวิ่งใน Seub Run for Home of Wildlife 2018 หรือทำกิจกรรมต่างๆ แทนการนอนอุดอู้อยู่กับบ้านในวันหยุดนั้น จะทำให้คุณมีความสุขมากยิ่งขึ้น อากาศในยามเช้าจะมีมลพิษน้อยกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของวัน และสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นและเพิ่มโอกาสในการผ่อนคลาย ส่งผลให้คุณมีความกระตือรือร้นตลอดวัน ได้สนุกไปกับกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมต่างๆ ทั้งยังช่วยให้คุณได้มีกิจกรรมร่วมกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง รวมไปถึงผู้คนใหม่ๆ อีกด้วยนะ
7. ใกล้ชิดธรรมชาติในแบบคนเมืองกรุง
สวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะหรือที่เที่ยวแนวธรรมชาติ อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมหานคร บรรยากาศในช่วงเช้ามีความสงบและเงียบมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของวัน ทำให้นักวิ่งไม่ต้องเผชิญกับมลภาวะทางเสียงในขณะวิ่ง อีกทั้งยังได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและสัมผัสกับความสวยงามของพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ เหมาะสำหรับคนที่กำลังหากิจกรรมดีๆ ทำในวันหยุดและอยากจะฟอกปอดด้วยออกซิเจนดีๆ จากธรรมชาติ รับรองเลยว่าไปแล้วไม่มีเบื่อแน่นอน
สอบถามกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Seub Run for Home of Wildlife 2018 วิ่งเพื่อบ้านของสัตว์ป่า
