บันทึกความคิดเห็น-ข้อสงสัย โอนคดีเปรมชัย ไปศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 7

บันทึกความคิดเห็น-ข้อสงสัย โอนคดีเปรมชัย ไปศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 7

วันที่ 6 มิถุนายน หลังจากนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คน จำเลยคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ขึ้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามหมายเรียกนัดตรวจพยาน มีรายงานข่าวออกมาว่า จะโอนย้ายคดีล่าสัตว์ป่าไปที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7

รายงานข่าวระบุว่า นายวิทูล แย้มพราย ทนายความของนายเปรมชัย และนายยงค์ได้ยื่นคำร้อง อ้างว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ถูกฟ้องในคดีอาญาทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 7 ดังนั้น คดีนี้จึงน่าจะเกี่ยวพันกับคดีดังกล่าว จึงขอให้ศาลส่งคดีนี้ไปให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจศาลนี้หรือไม่ ดังนั้น ศาลจังหวัดทองผาภูมิจึงให้ส่งคดีนี้ไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยก่อน จึงให้เลื่อนนัดพร้อมไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ซึ่งจะนัดโจทก์และจำเลยมาพร้อมกัน เพื่อรอฟังผลวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่ง – “เปรมชัย”ขอโอนคดีรุกป่าล่าเสือดำไปศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค7 – เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ 6 มิ.ย.2561

หากติดตามข่าวคดีล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ทุ่งใหญ่ฯ จะทราบว่า นอกจาก คดีล่าสัตว์ป่า ซึ่งมีนายเปรมชัย กรรณสูต นายยงค์ โดดเครือ นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ เป็นจำเลยแล้วนั้น ยังมีคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดีนี้อีกหลายคดี โดยคดีที่เกี่ยวข้องโดยตรง คือ คดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ซึ่งมีคำสั่งฟ้องนายเปรมชัย และนายยงค์ ฐาน “ร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทําการ ไม่กระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่” และศาลอาญาทุจริตประพฤติผิดมิชอบ ภาค 7 นัดแถลงเปิดคดีในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 – ดูลำดับเหตุการณ์ดคี

ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดข้อคิดเห็นและความสงสัยว่า ทำไมต้องโอนย้ายคดีที่กำลังดำเนินการในชั้นศาลไป

ในวันเดียวกับที่มีรายงานข่าวออกมา นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด ได้เปรยข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ระบุเป็นนัยชวนสงสัย เบื้องลึกเบื้องหลังมีอีกเยอะ แต่พูดไม่ได้ เหมือนน้ำท่วมปาก..เพราะเป็น “คนนอก”

วันนี้ “คนนอก” พอจะทราบมาว่า…ศาลทองผาภูมิ…มีคำสั่งให้ส่งสำนวนฯ…ไปให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า…คดีนี้จะอยู่ในอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 หรือไม่…(ศาลทองผาภูมิเห็นว่า..เป็นคดีที่เกี่ยวพันกับคดีที่จำเลยที่ 1 (นายเปรมชัย) และจำเลยที่ 2 ถูกฟ้องอยู่ที่ศาลฯทุจริตภาค7 ฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน อันเนื่องมาจากการกระทำผิดในคดีนี้ ตามที่จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 แถลงขอฯ) พนักงานอัยการคัดค้าน!!!!! แต่ศาลให้ส่งฯ ตามที่จำเลยแถลงขอฯ!!!! – ข้อความบนเฟสบุ๊ค นายตระกูล วินิจนัยภาค

 

116 วันแล้วที่เสือดำ..ถูกฆ่าที่ทุ่งใหญ่นเรศวร…สังคมค่อยๆ ลืมเลือนคดึนี้ไปเรื่อยๆ…วันนี้ "คนนอก"…

Posted by ตระกูล วินิจนัยภาค on Wednesday, 6 June 2018

 

ในการขอโอนย้ายคดีไปศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ทางอัยการภาค 7 ที่ทำคดี ได้คัดค้านการโอนคดีดังกล่าวในระหว่างกระบวนการในศาล และศาลเองก็ได้บันทึกคำคัดค้านดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสได้สัมภาษณ์ นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 หัวหน้าคณะทำงานคดีล่าสัตว์ป่า ถึงประเด็นดังกล่าว นายสมเจตน์ตอบว่า ยอมรับว่ารู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคดีที่ศาลทองผาภูมิถือเป็นคดีหลัก และสามารถแยกการพิจารณาคดีทุจริตก็ได้ และยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า ยังมีคำถามในใจ เพราะไม่เคยมีลักษณะแบบนี้เนื่องจากศาลทุจริตเพิ่งเปิดในปี 2560 ดังนั้นคงต้องลุ้นคำวินิจฉัยจากประธานศาลอุทธรณ์ หากมีคำตัดสินให้โอนสำนวนไปได้ อาจหมายถึงการต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในกระบวนการ เพราะศาลอาญาคดีทุจริต ต้องตรวจหลักฐานพยานต่างๆ ใหม่ ดังนั้นอาจส่งผลให้คดีนี้ล่าช้าออกไปอีกระยะหนึ่ง

นายเกิดแก้ว เกิดผล ทนายความ ก็ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ไว้ในประเด็นเดียวกันว่า “เพื่อประวิงเวลา ในการเริ่มนับ 1 ใหม่”

ส่วนตัวผม ไม่ค่อยจะเข้าใจในเหตุผลนัก แต่ตามกฎหมายนั้น สามารถทำได้ เพราะ พยานหลักฐาน ทั้ง 2 คดี เป็นชุดเดียวกัน หากดำเนินกระบวนพิจารณา และสืบพยาน ก็จะเป็นไปในทางเดียวกัน พยานของแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะชุดของหัวหน้าวิเชียร ก็ไม่ต้องเดินทางขึ้นเป็นพยานในศาลหลายรอบ เหตุผลดีๆ ที่พอจะรับฟังได้ก็น่าจะมีเท่านี้

แต่อย่าลืมว่า คดีที่ทองผาภูมิ กับ คดีที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 เป็นคนละคดีกัน แม้จำเป็นต้องนำพยานไปเบิกความซ้ำซ้อน 2 ศาล แต่ก็เป็นคนละประเด็นกัน ที่สำคัญ กระบวนพิจารณาในศาลจังหวัดทองผาภูมิ สามารถดำเนินการไปก่อน และแล้วเสร็จก่อนได้

แต่ถ้าหากโอนคดีหลักจาก ศาลจังหวัดทองผาภูมิไปที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 ก็ต้องมาตั้งต้นใหม่ และที่สำคัญ การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นระบบไต่สวน ซึ่งวิธีพิจารณาจะแตกต่างไปจาก ศาลยุติธรรมทั่วไป ที่เป็นระบบกล่าวหา

การพิจารณา จะละเอียด มีขั้นตอน และ ใช้เวลานานกว่า ศาลยุติธรรมปกติ

ผมมองเห็นเพียง 2 อย่าง ในกรณีนี้ คือ 1. เพื่อความสบายของฝ่ายคุณเปรมชัย ไม่ต้องเดินทางไปศาลหลายรอบ เพราะ สืบพยานในศาลเดียวจบ ไม่ต้องเสียเวลาไปศาลจังหวัดทองผาภูมิด้วย 2. เพื่อประวิงเวลา ในการเริ่มนับ 1 ใหม่ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 เท่านั้นเอง

คุณเปรมชัย ขอโอนคดีไปยังศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค ๗ เพื่อ ??ตามที่ปรากฎในข่าว ว่า คดีนี้ คุณเปรมชัย และ พวก…

Posted by เกิดผล แก้วเกิด on Thursday, 7 June 2018

 

สำหรับการดำเนินคดีกรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกนี้ จะดำเนินเรื่องราวอย่างไรต่อไป ในขณะนี้ คงต้องรอให้ถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยออกมาว่าคดีนี้จะย้ายการพิจารณาจากศาลจังหวัดทองผาภูมิไปยังศาลอาญาทุจริตประพฤติผิดมิชอบ ภาค 7 จังหวัดสมุทรสงครามหรือไม่

ส่วนในคดีที่เกี่ยวเนื่องกันอย่าง ติดสินบนเจ้าพนักงานนั้น ศาลอาญาทุจริตประพฤติผิดมิชอบ ภาค 7 นัดแถลงเปิดคดีในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561

นอกจากนี้คดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายเปรมชัยนั้น ที่กำลังอยู่ในกระบวนการชั้นศาลแล้ว ประกอบด้วย คดีครอบครองงาช้าง ศาลอาญาได้นัดตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. ซึ่งในวันเดียวกันศาลอาญายังได้นัดนายเปรมชัยในคดีครอบครองอาวุธปืนอีกด้วย

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกรณี ซีอีโออิตาเลียนไทยล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในเว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร

 


เรียบเรียง ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร