สำนักงานอัยการ ภาค 7 สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงผลการพิจารณาคดี นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก
ตามที่ นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการ ภาค 7 ได้แถลงความคืบหน้าในการพิจารณาคดี นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ว่าได้พิจาณาสำนวนคดีแล้วมีคำสั่ง ดังนี้
สั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย, ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
สั่งฟ้องนายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย, ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
สั่งฟ้องนางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย, ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
สั่งฟ้องนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย, ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตฯ
และไม่สั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 นายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ป่าโดยไม่มีเหตุอันควร
สั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
สั่งไม่ฟ้องนายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
สั่งไม่ฟ้องนางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 ร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตฯ ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
อธิบดีอัยการ ภาค 7 ได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปให้ผู้บังคับบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พิจารณากรณีสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางคน บางข้อหา
ต่อมาผู้บังคับบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ถึง ที่ 4 ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ฐานร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ถึงที่ 3 ฐานร่วมกันพยายามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองฯ และได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นแย้ง ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดความเห็นแย้งดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561
บัดนี้ อัยการสูงสุด ได้ชี้ขาดความเห็นแย้งดังกล่าวแล้ว โดยมีคำสั่งเห็นพ้องของอธิบดีอัยการ ภาค 7 ดังนี้
1. ชี้ขาดไม่ฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที หรือเดือน เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์หรืออาวุธใดๆเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
2. ชี้ขาดไม่ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนทีหรือเดือน เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่า (กระรอก) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
3. ชี้ขาดไม่ฟ้อง นางนที หรือเดือนเรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ต่อมา วันที่ 17 เมษายน 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการ ภาค 7 ขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานที่อยู่ของนายเปรมชัยฯ ในช่วงวันเวลาเกิดเหตุ พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย และขอให้สอบสวนเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก 3 คน รวมทั้งให้สอบสวนบุคคลภายยอกและนายวิเชียร ชิณวงษ์ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
คณะทำงานและอธิบดีอัยการภาค 7 พิจารณาแล้วเห็นว่า เอกสารที่นายเปรมชัยฯ ส่งมาประกอบคร้องขอความเป็นธรรม รวมทั้งการขอให้สอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมนั้น คณะทำงานและอธิบดีอัยการ ภาค 7 พิจารณาแล้วเห็นว่าพยานที่อ้างถึงมิใช้พยานที่เกี่ยวข้องในคดี เป็นเพียงผู้ที่แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น ส่วนพยานที่เกี่ยวข้องตามประเด็นที่นายเปรมชัยฯ ร้องขอความเป็นธรรมนั้นได้มีการสอบสวนพยานดังกล่าวไว้แล้ว คำร้องขอความเป็นธรรมของนายเปรมชัยฯ จึงมีลักษณะเป็นการประวิงคดี ทั้งข้อเท็จจริงตามสำนวนการสอบสวนได้ความครบถ้วนแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็นที่นายเปรมชัยฯ ร้องขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ อัยการจังหวัดทองผาภูมิ ได้ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามคำสั่งฟ้องของอธิบดีอัยการภาค 7 ในวันนี้ (30 เมษายน 2561) แล้ว
จึงแถลงมาเพื่อทราบ
สำนักงานอัยการ ภาค 7
30 เมษายน 2561