‘มอสส์’ พืชเล็กจิ๋วแต่แจ๋วที่หลายคนมักมองข้าม วันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้าพืชจิ๋วนี้กัน
สืบเนื่องมาจากประเด็นดราม่าล่าสุด เมื่อหมอพรทิพย์ หรือ แพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภาของไทย ได้เดินทางไปท่องเที่ยวส่วนตัวที่ประเทศไอซ์แลนด์ และได้โพสต์รูปในอินสตาแกรมลักษณะนอนทับมอสส์ในทุ่งหินลาวา ทำให้ชาวเน็ตแห่วิพากษ์วิจารณ์ ด้านหมอพรทิพย์เองได้ลบโพสต์ต้นเรื่องไปเป็นที่เรียบร้อย
โดยมอสส์ที่ถูกพูดถึงอยู่ คือ ‘ลาวามอสส์’ ซึ่งเป็นพืชเฉพาะถิ่นของประเทศไอซ์แลนด์ หากถูกเหยียบบ่อยเข้า จะทำให้มอสส์ตายได้ หรือในกรณีเลวร้ายสุดอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่บริเวณนั้นไปเลย
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ด้านหมอพรทิพย์ได้เดินทางกลับไทยและโพสต์ในช่องทางโซเชียลส่วนตัวว่า ยอมรับความผิดพลาดดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้ศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจนก่อน อีกทั้งจุดที่ถ่ายรูปไม่มีป้ายเตือนด้วย เมื่อรู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิด จึงได้รีบลบภาพทันทีหลังจากนั้น
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนดังไปเหยียบย่ำบนมอสส์ลาวา ย้อนกลับไปหลายปีก่อน จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) นักร้องสุดโด่งดังชาวแคนาดา ได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง “I’ll Show You” โดยในมิวสิกวิดีโอได้ปรากฏตัวจัสตินและผู้หญิงอีก 4 คน กระโดดเต้นรำและเดินเหยียบย่ำมอสส์ในพื้นที่ ทำเอาชาวเน็ตในเวลานั้นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเขาอย่างรุนแรงเลยทีเดียว
หัวหน้าสมาคมสิ่งแวดล้อมไอซ์แลนด์เองได้เคยออกมาตำหนิต่อการกระทำของจัสตินในครั้งนั้นว่า “การกระโดดขึ้นไปบนตะไคร่น้ำอาจเป็นวิธีปฏิบัติที่เลวร้ายที่สุดที่คุณจะจินตนาการได้ มอสส์ชนิดนี้ที่เรามีในทุ่งลาวาเอลธรอนน่าจะเป็นระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อนที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ แทบจะไม่ทนต่อการเหยียบย่ำใดๆ รอยเท้าของคน ๆ หนึ่งยังคงอยู่ในนั้นตลอดฤดูร้อน เมื่อตะไคร่น้ำถูกกระโดดขึ้นไป ชั้นบนสุดจะถูกทำลาย และเป็นเรื่องยากมากที่จะต่ออายุใหม่”
ย้อนกลับมากรณีหมอพรทิพย์ การกระทำดังกล่าวอาจไม่ได้สร้างผลกระทบมาก หากจุดนั้นไม่มีคนลงไปเหยียบซ้ำ เพราะมอสส์จะขึ้นและเกาะอยู่ตามหิน อย่างไรก็ตาม ในแนวทางอนุรักษ์ก็ไม่ควรเข้าไปเหยียบหรือนอนลงพื้นอยู่ดี เนื่องจาก มอสส์ จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หากมีการเหยียบย่ำ หรือเข้าไปสร้างการกระทำของมนุษย์ในพื้นที่เดิมซ้ำ ๆ เพราะอาจจะทำให้การงอกของลำต้นใหม่ต่ำ และมอสส์จะยืนต้นตายอย่างรวดเร็ว
มอสส์สำคัญอย่างไร
มอสส์ มักถูกผู้คนมองว่าเป็นพืชไม่มีค่า ไร้ประโยชน์ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นพืชที่มีคุณค่าทางระบบนิเวศเป็นอย่างมาก กล่าวคือ มอสส์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของพืชพรรณในหลายพื้นที่ของโลก และเป็นส่วนสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าชื้น พื้นที่ชุ่มน้ำ ภูเขา และทุ่งทุนดรา ตลอดจนเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอยากพวกแมลง
มอสส์ยังมีบทบาทและความสำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศ โดยพวกมันเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งอาณานิคมพืชกลุ่มแรก ๆ ในพื้นที่ที่เคยถูกทำลายหรือถูกรบกวน พวกมันจะช่วยทำให้พื้นผิวดินคงที่และช่วยกักเก็บน้ำไว้ สำหรับให้พืชชนิดใหม่เติบโตต่อไปได้ หรือในอีกด้านหนึ่งมอสส์ถือเป็นจุดเริ่มต้นของพืชพรรณและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ นั่นเอง
ในภาพรวมมอสส์เป็นพืชที่มีกลไกในการดักจับฝุ่น และเปลี่ยนเป็นปุ๋ยให้กับตัวมันเองได้ เปรียบได้กับเครื่องฟอกอากาศที่มีความคงทน อีกทั้งยังเป็นพืชที่ช่วยชี้วัดปริมาณสารพิษในพื้นที่ได้ด้วย
มอสส์เป็นพืชที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศมาก ๆ หากพวกมันหายไป ระบบนิเวศและธรรมชาติคงจะแย่มากแน่ ๆ เพราะฉะนั้นแล้ว หลังจากนี้ หากทุกคนเห็นมอสส์ที่ไหน ก็อย่าไปเหยียบไปย่ำมันก็พอ ข้ามได้ข้ามเลย ปล่อยให้พวกมันได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของพวกมันในระบบนิเวศต่อไป
อ้างอิง
- ดราม่าลาวามอส “หมอพรทิพย์” นอนทับที่ไอซ์แลนด์ หนึ่งรอยย่ำสะเทือนอีกหลายชีวิต
- “หมอพรทิพย์” ยัน ไม่ฟ้องคู่กรณีที่ไอซ์แลนด์ ยอมรับผิดพลาดถ่ายรูปบนลาวามอส
- มอส..พืชจิ๋วแต่คุณค่าไม่จิ๋ว
- เคยทำมาก่อน! ย้อนรอย “จัสติน บีเบอร์” เหยียบย่ำเกลือกกลิ้งบนมอสส์ที่ไอซ์แลนด์ใน MV (คลิป)
- 7 interesting things about moss
- ภาพประกอบ Tamara Bitter
ผู้เขียน
หนุ่มน้อยผู้หลงรักความไม่สมบูรณ์แบบ ออกเดินทางเพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ และชอบอ่านวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจ