องค์การอวกาศนาซ่า (NASA) และสำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ หรือโนอา (NOAA) เปิดเผยว่าปีที่ผ่านมานับเป็นหนึ่งในปีที่ร้อนที่สุดของโลก นับเป็นแนวโน้มที่น่ากังวลตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมาซึ่งมีการทุบสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดอย่างต่อเนื่อง
.
อุณหภูมิพื้นผิวโลกเฉลี่ยในปี พ.ศ. 2564 ติดอันดับ 6 สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยในศตวรรษที่ 20 ราว 1.51 องศาฟาเรนไฮต์ ตามตัวเลขขององค์การนาซ่าและโนอา ตัวเลขดังกล่าวจะมีการประกาศโดยอิงจากการวิเคราะห์โดยอิสระซึ่งทั้งสองหน่วยงานจัดทำขึ้นในแต่ละปี ผลการศึกษานับว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงสุขภาพโลกในระยะยาว และแสดงให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่าสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในแต่ละปีตั้งแต่ พ.ศ. 2423
องค์การนาซ่าระบุว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นผิวโลกปีที่แล้วใกล้เคียงกับปี พ.ศ. 2561 ซึ่งอยู่อันดับที่ 6 ของข้อมูลที่มี แต่ทั้ง 6 อันดับนั้นเกิดขึ้นในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาทั้งสิ้น
“วิทยาศาสตร์ไม่หลงเหลือพื้นที่ให้สงสัยแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือภัยคุกคามสำคัญในยุคสมัยของเรา” Bill Nelson ผู้บริหารจากองค์การนาซ่าระบุในแถลงการณ์
ปริมาณความร้อนในมหาสมุทรซึ่งวัดจากความร้อนสะสมบริเวณมหาสมุทรชั้นบนทำลายสถิติในปี พ.ศ. 2564 ตามรายงานของโนอา Russell Vose ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลสารสนเทศด้านสิ่งแวดล้อมของโนอาระบุว่าความร้อนในมหาสมุทรเมื่อปีที่ผ่านมานั้น “สูงที่สุดนับตั้งแต่มีบันทึกเอาไว้เมื่อหกทศวรรษก่อน”
“ประเด็นสำคัญก็คือ มหาสมุทรสะสมปริมาณความร้อนมหาศาล” เขากล่าวเสริม
ถึงแม้ว่ามหาสมุทรจะดูดซับและกักเก็บความร้อนตามธรรมชาติ แต่อัตราเร่งของการที่มหาสมุทรร้อนขึ้นก็นับว่าน่ากังวลเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นในมวลน้ำอาจนำไปสู่การที่มหาสมุทรกลายเป็นกรด ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูง และภาวะสภาพภูมิอากาศแบบสุดขั้ว
โนอาระบุว่าปี พ.ศ. 2564 นับเป็นปีที่ 45 ติดต่อกันซึ่งอุณหภูมิโลกสูงกว่าค่าเฉลี่ยในศตวรรษที่ 20 นับเป็นตัวชี้วัดสำคัญซึ่งสะท้อนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อโลก
“เรามีข้อมูลหลายชุดที่สะท้อนภาพใกล้เคียงกันว่าโลกกำลังร้อนขึ้น” Vose กล่าวในงานแถลงข่าว “เราพูดได้อย่างชัดเจนว่าโลกร้อนขึ้นจริงๆ”
น้ำแข็งที่ขั้วโลกลดลงอย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2564 ด้วยขนาดพื้นที่น้ำแข็งน้อยที่สุดในทวีปอาร์กติกนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ตามรายงานของโนอา แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะนับว่าเป็นหนึ่งในปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีบันทึกไว้ แต่หากเทียบกับสี่ห้าปีก่อน ปี พ.ศ. 2564 ก็นับว่าไม่ร้อนมากเพราะ พ.ศ. 2562 และ 2563 ครองต่ำแหน่งปีที่ร้อนที่สุดสามอันดับแรกในหน้าประวัติศาสตร์ ส่วนปีที่ร้อนที่สุดตามข้อมูลตลอด 141 ปีของโนอาก็ยังคงเป็น พ.ศ. 2559 ซึ่งความร้อนทบทวีจากปรากฎการณ์เอลนีโญ
รายงานของนาซ่าและโนอาใกล้เคียงกับข้อค้นพบของหน่วยงานวิทยาศาสตร์อื่นๆ ของโลก เช่น Copernicus Climate Change Service ของสหภาพยุโรป แม้ว่าอาจมีรายละเอียดทางสถิติที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ข้อสรุปที่ว่าโลกร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ยังสอดคล้องกัน “ความแตกต่างนั้นน้อยกว่าในอดีต เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงมันยิ่งใหญ่ขึ้นมากจนลดความสำคัญลง เราควรย้ายความสนใจการเปลี่ยนแปลงรายปีไปยังแนวโน้มในระยะยาวซึ่งน่ากังวลยิ่งกว่า” Gavin Schmidt จากองค์การนาซ่ากล่าวสรุป
ถอดความและเรียบเรียงจาก Ocean heat hit record high in 2021 as Earth warms, NOAA says
ผู้เขียน
บัณฑิตการเงินและการบัญชีที่สนใจความเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน เขียน เรียนคอร์สออนไลน์ และเลี้ยงลูกชายวัยกำลังน่ารัก