ต้นทุนแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ลมและแสงอาทิตย์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ต้นทุนพลังงานหมุนเวียนจะราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล องค์การพลังงานหมุนเวียนสากล (International Renewable Energy Agency: IRENA) เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นใน พ.ศ. 2563 อ้างอิงจากรายงาน ราคาดังกล่าวอาจลดต่ำถึงเพียง 3 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง สำหรับพลังงานลมในชายฝั่งและพลังงานแสงอาทิตย์ภายใน 2 ปีข้างหน้า
ต้นทุนเฉลี่ยในการก่อสร้างโครงการพลังงานหมุนเวียนมีการแข่งขันสูงมาก การผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำคือพลังงานที่ราคาถูกที่สุดคือราว 5 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง พลังงานลมในชายฝั่งอยู่ที่ 6 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง พลังงานความร้อนใต้พิภพอยู่ที่ 7 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ยังราคาค่อนข้างสูงโดยเปรียบเทียบคือ 10 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง แต่ตัวเลขดังกล่าวนั้นลดลงถึงร้อยละ 73 ตั้งแต่ พ.ศ. 2553 ทำให้ต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับที่อยู่อาศัยลดลงถึงร้อยละ 67
พลังงานลมในชายฝั่งมีต้นทุนลดลงร้อยละ 23 ในกรอบเวลาเดียวกัน อ้างอิงจากโครงการที่ได้รับการประมูลและจะเริ่มก่อสร้างในเร็วๆ นี้ พลังงานหมุนเวียนจะสามารถแข่งขันได้ หรือกระทั่งราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลภายใน พ.ศ. 2563 ราคาประมูลสำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และลมต่ำถึง 3 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ในประเทศอย่างดูไบ เม็กซิโก ชิลี บราซิล แคนาดา และเยอรมนี
“การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจะค่อยๆ ลดราคาลงและถูกกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลส่วนใหญ่” ส่วนหนึ่งของบทสรุปผู้บริหารของรายงานระบุ “ภายใน พ.ศ. 2563 เทคโนโลยีเพื่อการผลิตพลังงานหมุนเวียนในเชิงพาณิชย์คาดว่าจะมีต้นทุนต่ำลงเทียบเท่ากับช่วงราคาของต้นทุนเชื้อเพลิงฟอสซิล และต่ำว่าในท้ายที่สุด”
องค์การพลังงานหมุนเวียนสากลเชื่อว่ามี 3 สาเหตุหลักคือ การพัฒนาของเทคโนโลยี การแข่งขันในตลาด และประสบการณ์ที่มากขึ้นของผู้พัฒนาโครงการ ในอุตสาหกรรม การพัฒนาของเทคโนโลยีจะทำให้พลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เฉกเช่นที่เราเห็นนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามผลักดันขอบเขตศักยภาพในการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้เพิ่มมากขึ้น
กังหันลมขนาดใหญ่จะช่วยให้สามารถผลิตพลังงานลมได้มากขึ้น ความผันผวนของการผลิตไฟฟ้าทั้งสองแหล่งสามารถปรับให้เหมาะสมด้วยโรงงานสำรองพลังงานในแบตเตอรี การเปิดประมูลผู้ก่อสร้างโครงการยังช่วยลดต้นทุนเฉลี่ย และทุบสถิติใหม่ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าจุดสนใจของเราจะอยู่ที่พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม แหล่งพลังงานน้ำ ชีวมวล และพลังงานความร้อนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่เดินหน้าเพื่อทำให้พลังงานหมุนเวียนเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ ปัจจุบัน มีการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนร่วม 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก และสามารถสร้างงานได้กว่า 10 ล้านตำแหน่ง
กำลังการผลิตของแหล่งพลังงานหมุนเวียนนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนไฟฟ้าลดต่ำลง ทำให้พลังงานหมุนเวียนไม่เพียงดีต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพลังงานที่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจและประชาชน