ผมลองคำนวณความยาวของก้าวเดินตัวเองหลังจากกลับจากการเดินประท้วงรายงาน EHIA (รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ) โครงการเขื่อนแม่วงก์ จากแก่งแม่เรวา จุดที่จะสร้างเขื่อนแม่วงก์ได้ระยะ 3 ก้าว = 2 เมตร นั่นเท่ากับว่า ผมต้องเดิน 450,000 ก้าว จึงจะได้ระยะทาง 300 กิโลเมตร ดังนั้น ผมคงเดินมากกว่าครึ่งล้านก้าวในการเดิน 13 วันมาที่หอศิลป์ กรุงเทพฯ หลังจากที่เริ่มเดินหลังจากวันครบรอบ 23 ปี สืบในปีนี้มา 10 วัน
งานรำลึกคุณสืบที่ห้วยขาแข้งปีนั้นมีผู้คนร่วมงานมากมายเป็นประวัติการณ์ หากนับผู้ร่วมงานในค่ำคืนวันี่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา คงนับได้กว่าพันคน ทำให้อัฒจันทร์โค้งและลานปูนดูแคบไปถนัดตาเมื่อผู้คนมานั่งชมการแสดงดนตรีจนเต็มแน่นไปหมด
ปีนั้นพวกเราเตรียมการแสดงพิเศษจากทีมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่มักจะเล่นดนตรีร่วมกันมานานทั้งในงานเป็นทางการและการเล่นเพื่อผ่อนพักหลังประชุมงานร่วมกันเสมอๆ โดยผมเสนอความคิดให้วงเฉพาะกิจของเราในค่ำคืนนั้นใช้ชื่อวงว่า ‘1990’ อันเป็นตัวเลขแทนวันที่ 1 กันยายน (เดือนที่ 9) และปี ค.ศ. 1990 อันเป็นปีที่คุณสืบเสียชีวิต
เนื่องจากเป็นปีพิเศษที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเวลานั้น ซึ่งได้ร่วมประชุมกับเราเห็นพ้องว่าปีนี้ขอให้ทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียรมาเป็นแม่งานหลักในการจัดงานรำลึก ทั้งภาคการประชุมของคณะกรรมการป่าชุมชนรอบผืนป่าตะวันตกในช่วงเช้า การออกร้านและการจัดนิทรรศการอนุรักษ์จากหน่วยงานต่างๆ และนิทรรศการ 23 ปี สืบ นาคะเสถียร ในอาคารหอประชุม รวมถึงการแสดงภาคกลางคืน ที่เป็นการแสดงดนตรีของวงเฉพาะกิจเรา และการแสดงภาพถ่ายสัตว์ป่าของ ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ ประกอบการพูดคุยและเล่นดนตรีของคุณมาโนช พุฒตาล ต่อเนื่องกับพิธีจุดเทียนรำลึกคุณสืบที่รูปปั้น ซึ่งมีรายการแสดงแสงสีเสียงนำสู่พิธี ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้นทางเขตห้วยขาแข้งจะรับผิดชอบงานทำบุญ และพิธีวางหรีดรำลึก จบด้วยการนำเสนองานวิชาการ
ผมขอวงเฉพาะกิจ 1990 ร่วมขึ้นไปเล่นดนตรี โดยเตรียมเครื่องดนตรีไทยที่เคยหัดเล่นตอนเด็กๆ ทั้งที่ไม่ได้จับมาร่วม 20 ปี มาฟื้นฝีมือ ทั้งซออู้ ซอด้วง และขลุ่ย แกะเพลงในอัลบั้ม ‘ป่าตะโกน’ ที่ประกอบด้วยบทเพลงอนุรักษ์ไพเราะจากหลากหลายศิลปินเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมาบรรเลงร่วมกับตะวันฉาย หงส์วิไล ผู้ประสานงานแผนงานป่าชุมชน หรือที่รู้จักกันในวงการดนตรีในชื่อ ‘ตู่ ตะวันฉาย’ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวหน้าวง อดิษร จัทร์ศรี เจ้าหน้าที่ภาคสนามพื้นที่นครสวรรค์ ปราโมทย์ ศรีใย ผู้ประสานงานแผนงานจัดการพื้นที่คุ้มครองอย่างมีส่วนร่วมส่วนกลาง เกษียร จันทร หัวหน้าภาคสนามพื้นที่อุทัยธานี ยุทธชัย บุตรแก้ว หัวหน้าภาคสนามพื้นที่อุ้มผาง และพงษ์ศักดิ์ ม่วงงาม หัวหน้าภาคสนามจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีแขกรับเชิญพิเศษเป็นโปรดิวเซอร์งานชุด ‘ป่าตะโกน’ ที่ชื่อ สุธน สุขพิทักษ์ หรือพี่ ‘ตุ๊ แครี่ออน’
ดนตรีค่ำคืนนั้นสะท้อนความตั้งใจของพวกเราในการรักษาป่าตะวันตกร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของราชการ แต่ในเหตุการณ์ที่ตึงเครียดจากกรณีการจะสร้างเขื่อนแม่วงก์ในผืนป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ในพื้นที่ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และการตัดถนนสายคลองลาน-อุ้มผาง ในพื้นที่ต่อเนื่องทางเหนือขึ้นไป
ซึ่งหากเราปล่อยให้โครงการทั้งสองเกิดขึ้นได้ นั่นหมายถึงความหวังที่ประเทศไทยจะมีป่าใหญ่ขยายจากทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้งที่จะเป็นบ้านอันสมบูรณ์ของระบบนิเวศสัตว์ป่าโดยเฉพาะเสือโคร่งก็คงต้องหายไปด้วย เพราะแนวโน้มขณะนี้มีงานวิจัยประชากรสัตว์ป่าที่บ่งชัดถึงการกระจายตัวของสัตว์ป่ามากมายจากห้วยขาแข้งขึ้นไปบริเวณแม่วงก์และคลองลานอันเป็นพื้นที่พิเศษที่เป็นป่าสมบูรณ์ไม่มีชุมชนชาวบ้านอาศัยอยู่และการรักษาป่าบริเวณนี้เป็นอย่างดีของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็ทำให้สัตว์ป่ามีแหล่งอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณป่าลุ่มต่ำบริเวณลำน้ำแม่วงก์ แม่เรวา บริเวณที่จะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำหากสร้างเขื่อนปิดลำน้ำพาดจากเขาสบกกและจุดชมวิวมออีหืด สันเขื่อนมีความยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตรจะกั้นลำน้ำให้สะสมเป็นทะเลสาบกว้างท่วมผืนป่ากว่า 13,000 ไร่ ซึ่งท่วมทับป่าริมน้ำที่อุดมสมบูรณ์ไปเสียทั้งหมด
ระยะ 8 ปีที่สร้างเขื่อนนี้คงเป็นเวลาที่มีการล่าสัตว์ตัดไม้ลามเข้าไปในป่าลึก ไม่เฉพาะพื้นที่น้ำจะท่วม แต่ธุรกิจผิดหฏหมายนี้น่าจะขยายวงไปถึงสินค้าราคาแพงอย่างหนังเสือ กระดูกเสือ เขากระทิง งาช้าง สารพัดที่จะแอบเข้าไปล่าถึงป่าห้วยขาแข้งและป่าอื่นๆ โดยไม่สามารถควบคุมได้
ผมเล่าเรื่องราวของผลกระทบของเขื่อนแม่วงก์และโครงการพัฒนาต่างๆ นานาที่มีต่อป่าตะวันตกให้คนเรือนพันฟัง และชักชวนพวกเขาทีเล่นทีจริงว่า หากรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ละเลยความสำคัญของระบบนิเวศสัตว์ป่าไปเสียจนสิ้นอย่างจงใจผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ ผมจะชวนพวกเราที่นั่งอยู่ที่นี่ไปเดินประท้วงรายงานฉบับนี้ และมาตรฐานการตรวจสอบทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแทรกแซงงานวิชาการด้านนี้ของฝ่ายการเมืองที่ดูมีเงื่อนงำผลประโยชน์มากมาย
เสียงตอบรับในค่ำคืนนั้น เป็นแรงตัดสินใจให้พวกเราต้องเดินหลายแสนก้าวด้วยเท้าจริง เพื่อเข้าสู่ปีที่ 24 สืบ นาคะเสถียร ใน 10 วันต่อมา
ร่วมรักษาป่าใหญ่และสิ่งแวดล้อมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร