ผมไม่รู้ว่าขบวนของเรามีการจัดเตรียมอย่างไรเพราะทีมงานของเรากำหนดกันไว้อย่างชัดเจนแล้ว โดยผมไม่จำเป็นต้องรู้ เนื่องจากภาณุเดช ผู้จัดการมูลนิธิสืบฯ ซึ่งเป็นพ่อบ้านใหญ่ของพวกเราได้ประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ภาคสนามแห่งผืนป่าตะวันตกกันอย่างชัดเจน ให้ทราบถึงหน้าที่ของตัวเองในการที่ต้องเดินให้ถึง
ส่วนจะไปถึงอย่างไรพวกเขา จะเป็นคนพาผมไปเอง
เราทำงานผ่านเรื่องเล็กใหญ่ นับเรื่องไม่ถ้วนมาสิบกว่าปี อีกสิบกว่าวันข้างหน้ามีหรือที่ผมจะไม่กล้าฝากชีวิตไว้กับเขา เมื่อพวกเขาอาสามาเสียปานนี้
สำหรับโปรแกรมวันนี้ ผมรู้แต่เพียงจะเดินให้ถึงศาลาประชาคมบ้านวังชุมพรที่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อลองกำลังวันแรก และเชิญเพื่อนพ้องแนวร่วมในพื้นที่ที่พอมีอยู่บ้างมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน
แสงแรกของวันมาถึงในไม่กี่ก้าวของการเริ่มเดิน ผมสำรวจรอบตัวผม เพื่อดูว่าใครกันหนอที่ถูกกำหนดให้มาเดินเป็นเพื่อนกันในชุดแรก
พี่หลาด อาสาสมัครแผนงานป่าชุมชนในพื้นที่อำเภอแม่เปิน ที่ติดต่อกับพื้นที่บ้านแม่เล่ย์ที่เราอยู่
เกษียร จันทร เจ้าหน้าที่ภาคสนามพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้รับผิดชอบการประสานงานกับป่าห้วยขาแข้ง
ปุ้ย หรือ ปราโมทย์ ศรีใย เจ้าหน้าที่ภาคสนามผู้เจนการเดินทางไกลในทุ่งใหญ่นเรศวร
ขุน เจ้าหน้าที่หนุ่มไฟแรงที่เพิ่งเรียนจบ และทำงานกับเราได้สักปีหนึ่ง เดินทางไกลลงมาจากอุ้มผางเพื่อร่วมเดิน
และสุดท้ายคนที่เดินรั้งท้ายมาเงียบๆ คือ อาจารย์ณรงค์ แรงกสิกร อดีตข้าราชการครูอาวุโส ของอำเภอแม่วงก์ ผู้เป็นแกนนำในการจัดการน้ำให้กับชาวบ้านชุมชนธารมะยมให้มีน้ำประปาภูเขาอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรอย่างพอเพียงโดยไม่ต้องเคยรอพึ่งพาน้ำจากเขื่อนใหญ่ และระบบน้ำของกรมชลประทาน
อาจารย์เป็นนักอนุรักษ์ในพื้นที่และบอกเราตลอดมาว่ามันน่าจะยังมีวิธีการจัดการน้ำด้วยวิถีชุมชนอยู่อีกมากมายโดยไม่ต้องไปทำเขื่อนให้ทำลายป่า เมื่อเอ่ยชื่อทางน้ำสายใดในแม่วงก์ต่อกับลาดยาว ผมก็จะได้ข้อมูลของสายน้ำนั้นจากอาจารย์ณรงค์ประดุจลายมือบนฝ่ามือ
“ผมมารออยู่แต่มืดแล้วพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ผมมาเดินเป็นเพื่อน” อาจารย์ณรงค์ ส่งยิ้มกว้างมาพร้อมกับแววตานักเลงโบราณที่เราเชื่อใจ
บนรอยยิ้มและแววตาคู่นั้นเองที่ขับไล่ความรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในหัวใจต่อภารกิจที่ไม่เคยทำค่อยๆ หายไปทีละน้อย บนถนนเปียกฝน ที่หยุดไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมขอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ที่เรียกกันว่ารายงาน ‘EHIA’ ที่แสนจะหนาหนักมาใส่ถุงพลาสติกใบใหญ่ เอาเชือกนุ่มมัดไว้พอให้หิ้วให้สะพาย ผมทดลองหิ้วทดสอบน้ำหนักสักพัก ก่อนมีผู้มาขอไปเป็นภาระในผลัดแรกต่อจากผม
คนหกคนสวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาว มีสัญลักษณ์ฝ่ามือสีดำ และอักษรภาษาอังกฤษไม่กี่ตัว แม้แต่ชื่อแม่วงก์ เรายังพิมพ์พลาดเป็น ‘Meawong’ อย่าว่าแต่ชาวบ้านบ้านแม่เรวา ที่เราเดินผ่านจะไม่เข้าใจแล้วต่อให้คนกรุงเทพฯ เป้าหมายในการสื่อสารหลักของเรา ก็ยังไม่รู้เรื่อง
อะไรหนอ STOP EHIA Meawong
ร่วมรักษาป่าใหญ่และสิ่งแวดล้อมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร